แฉ จนท.รัฐรู้เห็นกับขบวนการค้างาช้างข้ามชาติทำประเทศเสียหายม

[brid.siriwan]

แฉ จนท.รัฐรู้เห็นกับขบวนการค้างาช้างข้ามชาติทำประเทศเสียหายมากกว่า 1 พันล้านบ./ปี

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างแลเพนียดช้างอยุธยา ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

พระนครศรีอยุธยา - เจ้าของวังช้างแลเพนียด ชื่นชมตำรวจสามารถจับ 3 ผู้ต้องหาร่วมกันวางยาฆ่าตัดงา "พลายคล้าว" ได้ในเวลาที่รวดเร็ว พร้อมแฉมีเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติของกรมอุทยานแห่งชาติฯและศุลกากร มีส่วนรู้เห็นกับขบวนการค้างาช้างข้ามชาติ ทำให้ประเทศชาติเสียหายมากกว่าปีละ 1 พันล้านบาท

วันนี้ (18 ก.ค.57) ที่วังช้างแลเพนียดคล้องช้างอยุธยา ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา นายลายทองเหรียญ มีพันธ์ เจ้าของวังช้างแลเพนียดช้างอยุธยา ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ตนรู้สึกชื่นชมในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถจับตัวผู้ต้องหาฆ่าพลายสมคิด หรือพลายคล้าว อายุ 50 ปีได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งตอนแรกที่ตนพุ่งประเด็นไปทางลูกน้องเก่า คือ ควาญช้างที่ออกไปแล้วว่าน่าจะมีส่วนในการฆ่าช้างแล้วตัดงา

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 3 คนในการค้าซากสัตว์และค้างาช้างมืออาชีพ ซึ่ง 2 ใน 3 คนร้ายที่เป็นพ่อลูกกันนั้นเคยก่อคดีวางยาฆ่าเสือโคร่งที่บึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี เมื่อปี 2553 เพื่อที่จะเอาหนังเสือไปขายมาแล้ว ต้องเป็นมืออาชีพที่รู้แหล่งรับซื้อ-ขายของประเภทนี้เป็นอย่างดี และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เพราะกฎหมายเมืองไทยที่ลงโทษคนพวกนี้อ่อนเกินไป ติดไม่กี่ปีก็ออกมาก่อคดีเดิมๆ ได้อีก เหมือนอย่างคดีวางยาฆ่าเสือ ติดคุกแค่ปีครึ่งก็ออกมาฆ่าพลายคล้าว แล้วตัดงาช้างเพื่อจะนำไปขาย

นายลายทองเหรียญ กล่าวต่ออีกว่า ราคาของซากสัตว์บางชนิดมีราคาสูง และเป็นที่ต้องการของต่างชาติ เช่น ประเทศจีน คาวัคสถาน ญี่ปุ่น โดยใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่าน และมีเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ศุลกากรที่คอยตรวจตราก่อนผ่านด่านออกนอกประเทศไปอีกประเทศตามแนวตะเข็บชายแดนฝั่งประเทศพม่า และลาว ที่ด้านจังหวัดกาญจนบุรี ตาก แม่ฮ่องสอน ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ หนองคาย อุบลราชธานี และเพชรบุรี เกี่ยวข้องร่วมขบวนการแอบลักลอบนำงาช้างส่งออกขายยังประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นตลาดรับซื้อแหล่งใหญ่

โดยใช้วิธีสวมงาจริงไปในไฟเบอร์ตบตา แล้วแจ้งเป็นเครื่องประดับงาเทียม แล้วส่งไปในรถบรรทุกสินค้า ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ระดับตรวจการไม่มีส่วนรู้เห็น ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะของจริงกับของปลอมน้ำหนักมันแตกต่างกันมาก ซึ่งอาจจะมีการติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการผ่านด่านแต่ละด่าน

สำหรับมูลค่าราคาของงาช้างกิโลกรัมละ 70,000 - 80,000 บาท หากเป็นเศษงาหรืองาที่แตกราคาก็อยู่ที่ 50,000-60,000 บาท

"สำหรับความเสียหายในการลักลอบนำงาช้างขายออกนอกประเทศนั้น มีความเสียหายมากกว่า 1,000 ล้านบาทต่อปี จึงอยากจะฝากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องระดับสูงได้เข้มงวดในการค้างาช้างชาติ ไม่เช่นนั้นจะเสียชื่อเสียงต่อประเทศ ซึ่งถูกมองว่าเป็นประเทศไทยเป็นแหล่งค้างาช้างระดับ 2 ของโลก" นายลายทองเหรียญ กล่าว

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 18 กรกฎาคม 2557