อุตฯ พลังงานทดแทนจ่อเสนอ “คสช.” ปรับ ADDER-ลดซื้อไฟจากหญ้าเน
Posted: 21 Jul 2014, 12:23
อุตฯ พลังงานทดแทนจ่อเสนอ “คสช.” ปรับ ADDER-ลดซื้อไฟจากหญ้าเนเปียร์
กลุ่มอุตฯ พลังงานทดแทน ส.อ.ท.เตรียมตบเท้าหารือหัวหน้าฝ่าย ศก. “คสช.” เร็วๆ นี้ เสนอทบทวนนโยบายส่งเสริมหวังกลับไปใช้ระบบเก่า ADDER ชี้ระบบ Feed in tariff ในยุโรปล้มเหลวแล้ว หนุนเดินหน้าโซลาร์ชุมชน 800 เมกะวัตต์ต่อแต่ให้ร่าง TOR ใหม่ เพิ่ม ADDER โรงไฟฟ้าขยะ-ชีวมวล ลดซื้อไฟจากหญ้าเนเปียร์ลง
นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้จะเข้าพบกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อหารือถึงแนวทางขับเคลื่อนนโยบายพลังงานทดแทนของไทยด้วยการให้ส่วนเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้า หรือ ADDER ที่เหมาะสมในแต่ละประเภทเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้เปลี่ยนระบบ ADDER มาเป็นอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed in tariff ที่สะท้อนต้นทุนจริง ซึ่งภาคเอกชนไม่เห็นด้วยเนื่องจากขณะนี้ในประเทศยุโรประบบดังกล่าวได้พิสูจน์ถึงความล้มเหลวแล้ว
“ทางยุโรปได้มีหนังสือเวียนมาถึงความล้มเหลวระบบ Feed in tariff จึงเห็นว่าไทยเองก็ควรจะทบทวนดูเพราะที่ผ่านมาเราเองก็ไม่เห็นด้วยเพราะ ADDER จะขึ้นตามค่าไฟฟ้าฐาน ขณะที่ Feed in tariff จะมีอัตราคงที่ตลอดสัญญาขายไฟ ซึ่งธุรกิจมีความเสี่ยงสูงกว่าและธนาคารเองก็คิดมากในเรื่องเงินกู้ด้วย” นายพิชัยกล่าว
สำหรับแนวทางการส่งเสริมพลังงานทดแทนที่จะเสนอสำคัญๆ ได้แก่ 1. พลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะโครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกะวัตต์นั้นเห็นว่าควรจะดำเนินการต่อไป แต่ขอให้ทำการกำหนดกติกาและเงื่อนไขการเปิดรับหรือ TOR ใหม่ที่ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) ดำเนินการแล้วเชิญตัวแทนทุกฝ่ายร่วมร่าง TOR เพื่อป้องกันการล็อกสเปกและให้ประโยชน์ตกที่ชุมชนอย่างแท้จริง
2. พลังงานไฟฟ้าจากขยะ เบื้องต้นทราบว่ากระทรวงพลังงานมีโครงการนำร่อง 3-4 แห่งและให้เงินอุดหนุนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งวิธีนี้ทำให้เกิดการกักขยะจากท้องถิ่นเพื่อหวังว่าจะเรียกเงินอุดหนุนเช่นกันทำให้เป็นนโยบายที่กำลังจะเดินผิดทาง ที่ถูกต้องต้องให้แข่งขันกันเองด้วยการเพิ่ม ADDER ให้จากขณะนี้ 3.50 บาทต่อหน่วยสัญญา 7 ปีควรจะเพิ่มเป็น 4.50 บาทต่อหน่วย หรือหากคงเดิมก็ควรขยายสัญญาเป็น 10 ปี
3. พลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล ขณะนี้ต้องยอมรับว่าวัตถุดิบหลายอย่างมีราคาที่สูงและจัดหายากขึ้นทำให้รายเดิมเริ่มทยอยขาดทุนและรายใหม่เองก็เกิดขึ้นยังไม่ได้มากนักตามเป้าหมายทำให้ปัจจุบันมีการขายไฟฟ้าเข้าระบบจริงเพียง 1 ใน 3 ของเป้าหมายเท่านั้น ดังนั้นจึงเห็นว่าควรจะทบทวนวัตถุดิบบางประเภทไปไม่ไหวจริงก็ต้องเลิกส่งเสริมแต่อะไรที่เห็นว่าควรจะเดินหน้าก็ควรจะเพิ่ม ADDER จากขณะนี้อยู่ที่เพียง 0.30 บาทต่อหน่วยควรจะปรับเพิ่มเป็น 1 บาทต่อหน่วย ส่วนการผลิตไฟจากหญ้าเนเปียร์นั้นเห็นว่าควรจะเดินหน้าได้ด้วยการเพิ่ม ADDER แต่ต้องทบทวนตัวเลขการรับซื้อไฟฟ้าจาก 3,000 เมกะวัตต์ให้ลดลงเพราะมากเกินไป
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 กรกฎาคม 2557
กลุ่มอุตฯ พลังงานทดแทน ส.อ.ท.เตรียมตบเท้าหารือหัวหน้าฝ่าย ศก. “คสช.” เร็วๆ นี้ เสนอทบทวนนโยบายส่งเสริมหวังกลับไปใช้ระบบเก่า ADDER ชี้ระบบ Feed in tariff ในยุโรปล้มเหลวแล้ว หนุนเดินหน้าโซลาร์ชุมชน 800 เมกะวัตต์ต่อแต่ให้ร่าง TOR ใหม่ เพิ่ม ADDER โรงไฟฟ้าขยะ-ชีวมวล ลดซื้อไฟจากหญ้าเนเปียร์ลง
นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เร็วๆ นี้จะเข้าพบกับ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อหารือถึงแนวทางขับเคลื่อนนโยบายพลังงานทดแทนของไทยด้วยการให้ส่วนเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้า หรือ ADDER ที่เหมาะสมในแต่ละประเภทเชื้อเพลิง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระทรวงพลังงานได้เปลี่ยนระบบ ADDER มาเป็นอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed in tariff ที่สะท้อนต้นทุนจริง ซึ่งภาคเอกชนไม่เห็นด้วยเนื่องจากขณะนี้ในประเทศยุโรประบบดังกล่าวได้พิสูจน์ถึงความล้มเหลวแล้ว
“ทางยุโรปได้มีหนังสือเวียนมาถึงความล้มเหลวระบบ Feed in tariff จึงเห็นว่าไทยเองก็ควรจะทบทวนดูเพราะที่ผ่านมาเราเองก็ไม่เห็นด้วยเพราะ ADDER จะขึ้นตามค่าไฟฟ้าฐาน ขณะที่ Feed in tariff จะมีอัตราคงที่ตลอดสัญญาขายไฟ ซึ่งธุรกิจมีความเสี่ยงสูงกว่าและธนาคารเองก็คิดมากในเรื่องเงินกู้ด้วย” นายพิชัยกล่าว
สำหรับแนวทางการส่งเสริมพลังงานทดแทนที่จะเสนอสำคัญๆ ได้แก่ 1. พลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะโครงการผลิตไฟฟ้าแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกะวัตต์นั้นเห็นว่าควรจะดำเนินการต่อไป แต่ขอให้ทำการกำหนดกติกาและเงื่อนไขการเปิดรับหรือ TOR ใหม่ที่ให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) ดำเนินการแล้วเชิญตัวแทนทุกฝ่ายร่วมร่าง TOR เพื่อป้องกันการล็อกสเปกและให้ประโยชน์ตกที่ชุมชนอย่างแท้จริง
2. พลังงานไฟฟ้าจากขยะ เบื้องต้นทราบว่ากระทรวงพลังงานมีโครงการนำร่อง 3-4 แห่งและให้เงินอุดหนุนประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งวิธีนี้ทำให้เกิดการกักขยะจากท้องถิ่นเพื่อหวังว่าจะเรียกเงินอุดหนุนเช่นกันทำให้เป็นนโยบายที่กำลังจะเดินผิดทาง ที่ถูกต้องต้องให้แข่งขันกันเองด้วยการเพิ่ม ADDER ให้จากขณะนี้ 3.50 บาทต่อหน่วยสัญญา 7 ปีควรจะเพิ่มเป็น 4.50 บาทต่อหน่วย หรือหากคงเดิมก็ควรขยายสัญญาเป็น 10 ปี
3. พลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล ขณะนี้ต้องยอมรับว่าวัตถุดิบหลายอย่างมีราคาที่สูงและจัดหายากขึ้นทำให้รายเดิมเริ่มทยอยขาดทุนและรายใหม่เองก็เกิดขึ้นยังไม่ได้มากนักตามเป้าหมายทำให้ปัจจุบันมีการขายไฟฟ้าเข้าระบบจริงเพียง 1 ใน 3 ของเป้าหมายเท่านั้น ดังนั้นจึงเห็นว่าควรจะทบทวนวัตถุดิบบางประเภทไปไม่ไหวจริงก็ต้องเลิกส่งเสริมแต่อะไรที่เห็นว่าควรจะเดินหน้าก็ควรจะเพิ่ม ADDER จากขณะนี้อยู่ที่เพียง 0.30 บาทต่อหน่วยควรจะปรับเพิ่มเป็น 1 บาทต่อหน่วย ส่วนการผลิตไฟจากหญ้าเนเปียร์นั้นเห็นว่าควรจะเดินหน้าได้ด้วยการเพิ่ม ADDER แต่ต้องทบทวนตัวเลขการรับซื้อไฟฟ้าจาก 3,000 เมกะวัตต์ให้ลดลงเพราะมากเกินไป
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 20 กรกฎาคม 2557