ยุโรปกักตุนสินค้าไทยก่อนถูกตัด “จีเอสพี” “สรท.” แนะรัฐบาลใหม
Posted: 01 Aug 2014, 14:10
ยุโรปกักตุนสินค้าไทยก่อนถูกตัด “จีเอสพี” “สรท.” แนะรัฐบาลใหม่เดินหน้าเอฟทีเอ
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้นำเข้ารายใหญ่จากตลาดยุโรป ได้เพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าไทยอย่างมาก เพราะปีหน้า สินค้าไทยหลายร้อยรายการจะถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) และต้องเสียภาษีนำเข้า ในอัตราที่สูงขึ้น ส่งผลให้การส่งออกของไทยในตลาดยุโรปปีนี้ จะขยายตัวในระดับไม่ต่ำกว่า 7% สูงกว่าตลาดอื่นๆ เช่น อาเซียนที่คาดว่าขยายตัว 0.31%, ตลาดจีน ขยายตัว 2.8-3%, ญี่ปุ่นขยายตัว 3-4% สหรัฐฯ ขยายตัว 2.5% เป็นต้น
“สินค้าที่ส่งไปยุโรป เช่น อาหารแปรรูป, เครื่องนุ่งห่ม, เสื้อผ้าชุดกีฬา, อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น หากไทยถูกตัดจีเอสพี จะทำให้ภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มตามไปด้วย และแม้ผู้นำเข้าจะตุนสินค้าจากไทยไว้ แต่ก็มีผู้นำเข้ารายใหญ่จากยุโรปบางรายเริ่มมีแผนลดคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) สินค้าไทย แล้วหันไปเพิ่มออเดอร์ประเทศที่ยังได้รับจีเอสพี โดยการลดปริมาณออเดอร์ จะเห็นผลชัดเจนในไตรมาสที่ 4 ปีนี้”
ทั้งนี้ สรท. ต้องการให้ภาครัฐและเอกชน ร่วมมือกันส่งเสริมเอสเอ็มอีให้ขยายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ยังมีสิทธิจีเอสพีอีกหลายปี เพื่อรักษาตลาดยุโรปไว้ ไม่เช่นนั้นสินค้าไทยจะเสียภาษีเป็นเท่าตัวและได้เสนอแนวทางให้รัฐบาลใหม่เร่งผลักดันการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) สหภาพยุโรปให้บรรลุตามเป้าหมาย เพื่อนำเอาสินค้าไทยที่ถูกตัดจีเอสพีมาลดภาษีภายใต้เอฟทีเอ ซึ่งสิงคโปร์และเวียดนามได้เจรจากับยุโรปคืบหน้ามากแล้ว
นายนพพร เทพสิทธา ประธาน สรท. กล่าวว่า สรท.ได้ปรับลดประมาณส่งออกไทยปีนี้ จากเดิมที่ตั้งไว้ 5% เหลือ 3% เนื่องจากมีปัจจัยลบ เช่น ปัญหาการเมือง, ความล่าช้าของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และตลาดส่งออกสำคัญของไทยอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะจีนอาจลดการนำเข้า.
ทีมา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 1 พ.ค. 2557
นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้นำเข้ารายใหญ่จากตลาดยุโรป ได้เพิ่มปริมาณการนำเข้าสินค้าไทยอย่างมาก เพราะปีหน้า สินค้าไทยหลายร้อยรายการจะถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) และต้องเสียภาษีนำเข้า ในอัตราที่สูงขึ้น ส่งผลให้การส่งออกของไทยในตลาดยุโรปปีนี้ จะขยายตัวในระดับไม่ต่ำกว่า 7% สูงกว่าตลาดอื่นๆ เช่น อาเซียนที่คาดว่าขยายตัว 0.31%, ตลาดจีน ขยายตัว 2.8-3%, ญี่ปุ่นขยายตัว 3-4% สหรัฐฯ ขยายตัว 2.5% เป็นต้น
“สินค้าที่ส่งไปยุโรป เช่น อาหารแปรรูป, เครื่องนุ่งห่ม, เสื้อผ้าชุดกีฬา, อัญมณีและเครื่องประดับ เป็นต้น หากไทยถูกตัดจีเอสพี จะทำให้ภาษีนำเข้าเพิ่มขึ้นเท่าตัว ส่งผลให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มตามไปด้วย และแม้ผู้นำเข้าจะตุนสินค้าจากไทยไว้ แต่ก็มีผู้นำเข้ารายใหญ่จากยุโรปบางรายเริ่มมีแผนลดคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) สินค้าไทย แล้วหันไปเพิ่มออเดอร์ประเทศที่ยังได้รับจีเอสพี โดยการลดปริมาณออเดอร์ จะเห็นผลชัดเจนในไตรมาสที่ 4 ปีนี้”
ทั้งนี้ สรท. ต้องการให้ภาครัฐและเอกชน ร่วมมือกันส่งเสริมเอสเอ็มอีให้ขยายฐานการผลิตไปยังประเทศที่ยังมีสิทธิจีเอสพีอีกหลายปี เพื่อรักษาตลาดยุโรปไว้ ไม่เช่นนั้นสินค้าไทยจะเสียภาษีเป็นเท่าตัวและได้เสนอแนวทางให้รัฐบาลใหม่เร่งผลักดันการทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) สหภาพยุโรปให้บรรลุตามเป้าหมาย เพื่อนำเอาสินค้าไทยที่ถูกตัดจีเอสพีมาลดภาษีภายใต้เอฟทีเอ ซึ่งสิงคโปร์และเวียดนามได้เจรจากับยุโรปคืบหน้ามากแล้ว
นายนพพร เทพสิทธา ประธาน สรท. กล่าวว่า สรท.ได้ปรับลดประมาณส่งออกไทยปีนี้ จากเดิมที่ตั้งไว้ 5% เหลือ 3% เนื่องจากมีปัจจัยลบ เช่น ปัญหาการเมือง, ความล่าช้าของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และตลาดส่งออกสำคัญของไทยอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะจีนอาจลดการนำเข้า.
ทีมา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 1 พ.ค. 2557