สรรพากรยกคดีภาษีผิด ปปง.
Posted: 04 Aug 2014, 14:30
สรรพากรยกคดีภาษีผิด ปปง.
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบร่างกฎหมายให้กรมสรรพากรสามารถระงับธุรกรรมทางการเงินของบุคคลรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงภาษีได้ สำหรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่จะให้อำนาจกรมสรรพากรระงับธุรกรรมทางการเงินที่กระทำผ่านสถาบันการเงินทุกแห่งในประเทศ และรวมถึงการให้เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรเป็นพนักงานสอบสวนในคดีการโกงภาษี แทนที่จะเป็นตำรวจเหมือนในปัจจุบัน จะสร้างความคล่องตัวให้กับกรมสรรพากรในการติดตามเงินภาษีที่ถูกโกงไปจากบุคคล กลุ่มบุคคล และรวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือในการโกงภาษี
“ในปัจจุบัน คดีเรื่องการโกงภาษีไม่ได้อยู่ในมูลฐานความผิดตามกฎหมายของสำนักงานการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งตามกฎหมาย ปปง.ที่ต่อต้านการฟอกเงิน กำหนดประเภทมูลฐานความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินสกปรกที่อาชญากร หรือผู้กระทำผิดนำมาฟอก ซึ่งมีทั้งหมด 11 ประเภท เช่น เงินที่ได้จากยาเสพติด, เงินที่ได้จากการกระทำความผิดทางเพศ, เงินที่ได้จากการทุจริต, การก่อการร้าย และการพนัน เป็นต้น”
แต่ความผิดที่เกี่ยวกับการโกงภาษีของกรมสรรพากรไม่ได้อยู่ในมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ดังนั้นจึงไม่สามารถระงับยับยั้งธุรกรรมทางการเงินของผู้กระทำความผิดในคดีโกงภาษีได้ ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในคดีการโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) กว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจนกระทั่งบัดนี้กรมสรรพากรก็ยังไม่สามารถติดตามเงินที่ถูกโกงไปดังกล่าวได้ ซึ่งหากมีกฎหมายให้อำนาจกรมสรรพากรสามารถระงับธุรกรรมทางการเงินของบุคคล และผู้เกี่ยวข้องกับการโกงภาษีก็อาจทำให้การดำเนินการติดตามเงินที่ถูกโกงไปสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น ก่อนที่เงินดังกล่าวจะถูกถอนออกจากบัญชีไปจนหมด
นายประสงค์กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ที่จะต้องนำเสนอให้สภานิติบัญญัติ (สนช.) พิจารณาอนุมัตินั้น ให้อำนาจเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรระงับบัญชีของบุคคลที่เป็นตัวการในการโกงภาษีของกรมสรรพากร และรวมถึงบัญชีของบุคคลที่อาจมีส่วนร่วมหรือให้ความช่วยเหลือในการกระทำความผิด.
ทีมา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 4 ส.ค. 2557
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เห็นชอบร่างกฎหมายให้กรมสรรพากรสามารถระงับธุรกรรมทางการเงินของบุคคลรวมถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงภาษีได้ สำหรับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่จะให้อำนาจกรมสรรพากรระงับธุรกรรมทางการเงินที่กระทำผ่านสถาบันการเงินทุกแห่งในประเทศ และรวมถึงการให้เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรเป็นพนักงานสอบสวนในคดีการโกงภาษี แทนที่จะเป็นตำรวจเหมือนในปัจจุบัน จะสร้างความคล่องตัวให้กับกรมสรรพากรในการติดตามเงินภาษีที่ถูกโกงไปจากบุคคล กลุ่มบุคคล และรวมถึงผู้ที่มีส่วนร่วมให้ความช่วยเหลือในการโกงภาษี
“ในปัจจุบัน คดีเรื่องการโกงภาษีไม่ได้อยู่ในมูลฐานความผิดตามกฎหมายของสำนักงานการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งตามกฎหมาย ปปง.ที่ต่อต้านการฟอกเงิน กำหนดประเภทมูลฐานความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินสกปรกที่อาชญากร หรือผู้กระทำผิดนำมาฟอก ซึ่งมีทั้งหมด 11 ประเภท เช่น เงินที่ได้จากยาเสพติด, เงินที่ได้จากการกระทำความผิดทางเพศ, เงินที่ได้จากการทุจริต, การก่อการร้าย และการพนัน เป็นต้น”
แต่ความผิดที่เกี่ยวกับการโกงภาษีของกรมสรรพากรไม่ได้อยู่ในมูลฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ดังนั้นจึงไม่สามารถระงับยับยั้งธุรกรรมทางการเงินของผู้กระทำความผิดในคดีโกงภาษีได้ ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในคดีการโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) กว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งจนกระทั่งบัดนี้กรมสรรพากรก็ยังไม่สามารถติดตามเงินที่ถูกโกงไปดังกล่าวได้ ซึ่งหากมีกฎหมายให้อำนาจกรมสรรพากรสามารถระงับธุรกรรมทางการเงินของบุคคล และผู้เกี่ยวข้องกับการโกงภาษีก็อาจทำให้การดำเนินการติดตามเงินที่ถูกโกงไปสามารถดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น ก่อนที่เงินดังกล่าวจะถูกถอนออกจากบัญชีไปจนหมด
นายประสงค์กล่าวว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ที่จะต้องนำเสนอให้สภานิติบัญญัติ (สนช.) พิจารณาอนุมัตินั้น ให้อำนาจเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรระงับบัญชีของบุคคลที่เป็นตัวการในการโกงภาษีของกรมสรรพากร และรวมถึงบัญชีของบุคคลที่อาจมีส่วนร่วมหรือให้ความช่วยเหลือในการกระทำความผิด.
ทีมา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 4 ส.ค. 2557