Page 1 of 1

เจ้าพ่อไอทีแห่งเอเชีย (3) - โลกาภิวัตน์

Posted: 07 Aug 2014, 08:41
by brid.siriwan
เจ้าพ่อไอทีแห่งเอเชีย (3) - โลกาภิวัตน์

แจ๊ค หม่า ตั้งใจคิดทำอะไรก็จะไม่หยุดความพยายาม แม้ว่ารัฐบาลจีนไม่สนับสนุนในช่วงแรก ความตั้งใจล้มเลิกสักสองปี แล้วก็ได้โอกาสจึงตั้งบริษัทอาลีบาบาขึ้นโดยที่เป็นธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างธุรกิจระหว่างผู้ส่งออกของจีนและผู้ซื้อสินค้าในต่างประเทศ

ต่อมาในปี ค.ศ. 1999 ทางอาลีบาบาได้พบกับโจเซฟ ไซ (Joseph Tsai) เป็นนักกฎหมายชาวไต้หวันจบการศึกษาจากเยลและทำงานด้านธุรกิจ หุ้นทุนเอกชนในฮ่องกง ทั้งคู่คือแจ๊ค หม่าหรือโจเซฟ ไซ เลยเข้าไปร่วมลงทุนในบริษัทโกลด์แมนแซคส์และซอฟต์แบงค์

ต่อมาในปี ค.ศ. 2003 หม่าได้ริเริ่มบริษัทเตาเบา (Taobao) ซึ่งเป็นบริษัทที่ค้าขายเชิงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภคด้วยกัน ช่วงนั้นอีเบย์ซึ่งเป็นธุรกิจลักษณะยังครองตลาดจีนอยู่ เพื่อที่จะสู้กับอีเบย์ในประเทศจีน หม่าตัดสินใจเลือกใช้วิธีให้เตาเบาเปิดให้บริการฟรีทั้ง ๆ ที่จะต้องสูญเสียเงินสดไปเรื่อย ๆ

อริสแมนผู้ทำภาพยนตร์ได้กล่าวว่า “ในฐานะผู้ลงทุนจากวอลสตรีท (โกลด์แมนแซคส์และซอฟต์แบงค์ที่เขาลงทุนอยู่) เขาเต็มใจที่จะให้อาลีบาบาสู้จนล้มลงพื้น เพื่อที่จะเอาชนะอีเบย์ให้ได้”

“สิ่งที่แย่กว่าคู่แข่งที่สุดฉลาดก็คือ คนบ้าที่กล้าสู้กล้าที่จะใช้เงินลงทุนทั้งหมดโดยที่ไม่รู้ว่ากำไรอยู่ตรงไหน เพื่อจะเอาชนะคู่แข่ง”

ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2005 แจ๊ค หม่าได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่าเตาเบาสามารถขยายส่วนแบ่งการตลาดได้ถึง 70% ของการค้าออนไลน์ในประเทศจีน “ไม่นานนักเตาเบาจะเป็นเจ้าเดียวในตลาด ยุคของอีเบย์หมดไปแล้ว” ในปี ค.ศ. 2006 อีเบย์ประกาศว่าถอยออกจากตลาดประเทศจีนและก็ได้ถูกลีกา ชิง เศรษฐีกระเป๋าหนักชาวฮ่องกงไปควบคุมดูแลกิจการและเปลี่ยนเป็นบริษัททางอินเทอร์เน็ตแทน

“ผมเคยฝันว่าผมเกิดในช่วงสงคราม และผมได้เป็นนายพลบัญชาการรบ” แจ๊ค หม่าได้เคยพูดไว้ในสมัยเด็กว่า “ผมคิดไว้เสมอถ้าเป็นช่วงสงคราม ผมจะต้องทำอะไรให้สำเร็จบ้าง”

หม่า เองก็จะต้องต่อสู้กับการตัดสินใจในห้องประชุมคณะกรรมการผู้ถือหุ้นในเรื่องหนัก ในปี ค.ศ. 2011 ตอนที่อาลีบาบาได้เริ่มร่วมหุ้นส่วนกับยาฮูซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ. 2005 นั้นปรากฏว่าไม่ประสบความสำเร็จ หม่าจึงตัดสินใจนำกิจการอาลีเบย์ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจออนไลน์ที่กำไรดีที่สุดของอาลีบาบาแยกออกมา โดยไม่ได้รับการเห็นชอบจากกรรมการผู้ถือหุ้นของอาลีบาบาอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นกรรมการชุดนี้มีกรรมการซึ่งมาจากซอฟต์แบงค์และยาฮูด้วย

การที่เขาจำเป็นต้องแยกอาลีเบย์ออกมานั้นเพราะอาลีเบย์จำเป็นจะต้องได้รับอนุญาตจากรัฐบาลจีน และทางรัฐบาลปักกิ่งไม่ยอมให้

นักลงทุนต่างชาติเข้ามาควบคุมกิจการธุรกิจออนไลน์ชาวประเทศจีนเพื่อความมั่นคงของประเทศชาติ

“ถ้าอาลีเบย์ทำผิดกฎหมายจีนหรือไม่ได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลจีน บริษัทเตาเบาจะพิการทันที” หม่าพูดไว้ในช่วงนั้น “ถ้าหากเตาเบาพิกลพิการ เราจะสามารถปฏิรูปและพัฒนาอาลีบาบาได้อย่างไร” ในที่สุด อาลีบาบา ยาฮู และซอฟต์แบงค์ก็สามารถที่จะตกลงความแตกต่างเรื่องนี้ได้

แจ๊ค หม่าได้เคยเปรียบเทียบการตัดสินใจเรื่องนี้ว่า เหมือนกับการที่เติ้งเสี่ยวผิงผู้นำจีนจำเป็นต้องตัดสินใจสลายกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงในวันที่ 4 เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1989 หรือเหตุการณ์ 6/4 ที่มักจะเป็นข่าวไปทั่วโลก

ติดตามต่อไปในบทความหน้าครับ.

รศ.ดร.บุญมาก ศิริเนาวกุล

อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด

boonmark@stammford.edu

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 7 สิงหาคม 2557