บสส.เล็งซื้อหนี้มาบริหารเพิ่ม 4,000 ล้านบาท
Posted: 26 Aug 2014, 09:03
บสส.เล็งซื้อหนี้มาบริหารเพิ่ม 4,000 ล้านบาท
บสส. เล็งซื้อสินทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งเอ็นพีแอล เอ็นพีเอ อีก 4,000 ล้านบาท เน้นหนี้ที่มีหลักประกันทุกประเภท ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้โตอีก 10%
นายชูเกียรติ จิตติไมตรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด (บสส.) เปิดเผยว่า บสส.เตรียมที่จะซื้อสินทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งสินทรัพย์ที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) และทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) อีก 4,000 ล้านบาท โดยจะเน้นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ที่มีหลักประกันทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่ ทั้งนี้คาดว่าสินทรัพย์จำนวนนี้จะมาจากภาคเอกชนเป็นหลัก จากปัจจุบันที่มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรวมทั้งหมด 415,000 ล้านบาท
"ปีนี้และปีที่ผ่านมา บสส. ไม่ได้มีการซื้อสินทรัพย์เพิ่มมากนักเนื่องจากในช่วง 2 ปีก่อน ได้สินทรัพย์ก้อนใหญ่จาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ บสท. มา26,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยได้รับมา"
นอกจากนี้ยังพร้อมที่จะเข้าซื้อหนี้เสียจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) อีก 20,000 ล้านบาท หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งซูปเปอร์บอร์ด เพื่อมาดูแลธนาคารรัฐ แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจากธพว. ซึ่งบสส. จะเข้าไปเจรจา และให้ข้อมูลแก่นาง สาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ธพว. ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเงื่อนไขจะออกมาเป็นอย่างไร
นายชูเกียรติ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน10% แม้ว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จะมีรายได้ 40% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ เนื่องจากได้ผลกระทบภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ยืดเยื้อ แต่คาดว่าครึ่งปีหลังนี้ จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโดยบริษัทจะเน้นการบริหารอ็นพีเอ มากกว่าเอ็นพีแอล เพราะคาดว่ากำลังซื้อบ้านมือสองจะฟื้นตัวได้ดีกว่า หลังจากครึ่งปีหลังนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ พร้อมทั้งกำลังซื้อภาคประชาชนเริ่มกลับมาดีขึ้นด้วยเช่นกัน
ล่าสุด บสส. จะเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับผู้นำด้านสถาบันการเงินและการบริหารจัดการสินทรัพย์ของภาครัฐระดับภูมิภาคเอเชีย โดยจะเปิดเวทีแลกเปลี่ยนทัศนะจากองค์กรชั้นนำจากนานาประเทศ ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย.นี้ ที่รร.คอนราด กรุงเทพฯ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสินทรัพย์ด้อยคุณภาพร่วม เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการบริหารสินทรัพย์ของไทย ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ในปี 58 นี้
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 สิงหาคม 2557
บสส. เล็งซื้อสินทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งเอ็นพีแอล เอ็นพีเอ อีก 4,000 ล้านบาท เน้นหนี้ที่มีหลักประกันทุกประเภท ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้โตอีก 10%
นายชูเกียรติ จิตติไมตรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด (บสส.) เปิดเผยว่า บสส.เตรียมที่จะซื้อสินทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งสินทรัพย์ที่เป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) และทรัพย์สินรอการขาย (เอ็นพีเอ) อีก 4,000 ล้านบาท โดยจะเน้นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ที่มีหลักประกันทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่ ทั้งนี้คาดว่าสินทรัพย์จำนวนนี้จะมาจากภาคเอกชนเป็นหลัก จากปัจจุบันที่มีสินทรัพย์ด้อยคุณภาพรวมทั้งหมด 415,000 ล้านบาท
"ปีนี้และปีที่ผ่านมา บสส. ไม่ได้มีการซื้อสินทรัพย์เพิ่มมากนักเนื่องจากในช่วง 2 ปีก่อน ได้สินทรัพย์ก้อนใหญ่จาก บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย หรือ บสท. มา26,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ก้อนใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยได้รับมา"
นอกจากนี้ยังพร้อมที่จะเข้าซื้อหนี้เสียจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) อีก 20,000 ล้านบาท หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตั้งซูปเปอร์บอร์ด เพื่อมาดูแลธนาคารรัฐ แต่ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปจากธพว. ซึ่งบสส. จะเข้าไปเจรจา และให้ข้อมูลแก่นาง สาลินี วังตาล ประธานกรรมการ ธพว. ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเงื่อนไขจะออกมาเป็นอย่างไร
นายชูเกียรติ กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ปี 17,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน10% แม้ว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา จะมีรายได้ 40% ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ เนื่องจากได้ผลกระทบภาวะเศรษฐกิจและการเมืองที่ยืดเยื้อ แต่คาดว่าครึ่งปีหลังนี้ จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโดยบริษัทจะเน้นการบริหารอ็นพีเอ มากกว่าเอ็นพีแอล เพราะคาดว่ากำลังซื้อบ้านมือสองจะฟื้นตัวได้ดีกว่า หลังจากครึ่งปีหลังนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ พร้อมทั้งกำลังซื้อภาคประชาชนเริ่มกลับมาดีขึ้นด้วยเช่นกัน
ล่าสุด บสส. จะเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมระดับผู้นำด้านสถาบันการเงินและการบริหารจัดการสินทรัพย์ของภาครัฐระดับภูมิภาคเอเชีย โดยจะเปิดเวทีแลกเปลี่ยนทัศนะจากองค์กรชั้นนำจากนานาประเทศ ระหว่างวันที่ 25-27 ก.ย.นี้ ที่รร.คอนราด กรุงเทพฯ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสินทรัพย์ด้อยคุณภาพร่วม เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานการบริหารสินทรัพย์ของไทย ก้าวสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ในปี 58 นี้
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 สิงหาคม 2557