Page 1 of 1

ผ้าไหม คูลโหมดลดโลกร้อนรายแรกของไทย

Posted: 26 Aug 2014, 09:14
by brid.siriwan
ผ้าไหม คูลโหมดลดโลกร้อนรายแรกของไทย

กรมหม่อนไหม รับรองผ้าไหมคูล ลดโลกร้อน ผลผลิตจากงานวิจัย ใช้เทคโนโลยีพิเศษผลิตเส้นไหมและการทอ เป็นรายแรกของไทย

กรมหม่อนไหมได้รับการรับรองผ้าไหมคูลโหมดลดโลกร้อนจากการศึกษาวิจัยและผลิตผ้าไหมลดโลกร้อนได้สำเร็จโดยใช้เทคโนโลยีพิเศษในการผลิตเส้นไหมและการทอเพื่อปรับโครงสร้างผ้าให้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ถือเป็นผ้าทอหัตถกรรมรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองนี้

นายอนันต์สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมหม่อนไหมเปิดเผยว่ากรมหม่อนไหมได้จัดทำโครงการวิจัยผ้าไหมลดโลกร้อนหรือผ้าคูลโหมด (CoolMode)โดยใช้เทคโนโลยีพิเศษในการผลิตเส้นไหมและการทอเพื่อปรับโครงสร้างผ้าให้มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์มาตรฐานผ้าคูลโหมดมีคุณลักษณะพิเศษ ปลอดภัยต่อผู้บริโภคไม่ใช้สารเคมีที่เป็นสารก่อมะเร็งมีสีคงทน แข็งแรงตามมาตรฐานช่วยลดความร้อน ดูดซับเหงื่อสัมผัสแล้วเย็น ถ่ายเทความร้อนได้ดีทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกเย็นส่งผลให้ช่วยลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศอีกทั้งยังเป็นผ้าที่ดูแลรักษาง่ายมากขึ้นซักรีดไม่แตกต่างจากผลิตภัณฑ์เสื้อทั่วไป

ผ้าคูลโหมดลดโลกร้อนที่กรมส่งไปให้สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอตรวจสอบและผ่านการทดสอบตามมาตรฐานแล้วได้แก่ ผ้าไหมโครงสร้างที่2พื้นสีขาวผ้าไหมโครงสร้างที่ 5ยกดอกสีพื้น4ตะกอและผ้าไหมโครงสร้างที่ 6ยกดอกลายสีประดู่ 4ตะกอ และได้รับการรับรองให้เป็นผ้าลดโลกร้อนหรือผ้าคูลโหมดจากองค์การบริหารก๊าซเรือนกระจก

สำหรับกลุ่มเกษตรกรที่ผลิตผ้าไหมคูลโหมดให้กรมหม่อนไหมในปัจจุบันได้แก่ กลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มอาชีพทอผ้าไหมบ้านหลุ่งประดู่อำเภอห้วยแถลง จังหวัดนครราชสีมาและยังมีกลุ่มเกษตรกรทอผ้าที่กำลังตรวจสอบผ้าไหมตามเกณฑ์เพื่อรอการขึ้นทะเบียนคูลโหมดซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในปลายเดือนกันยายนนี้ได้แก่ กลุ่มทอผ้าไหมทองสุรนารีอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมาและกลุ่มทอผ้าไหมบ้านครัวกรุงเทพมหานคร

“ผ้าไหมทอมือลดโลกร้อนที่กรมหม่อนไหมได้พัฒนาโครงสร้างขึ้นมานี้เป็นผ้าไหมทอมือรายแรกของประเทศไทยที่ผ่านการทดสอบผ่านเกณฑ์มาตรฐานผ้าลดโลกร้อนเป็นการยกระดับคุณภาพผ้าไหมให้ผู้บริโภคมั่นใจในการนำไปตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไหมรูปแบบต่างๆ เป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลิตภัณฑ์ไหมไทยในตลาดทั้งในและต่างประเทศโดยเฉพาะในสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นและดึงภาคการเกษตรให้ผลิตสินค้าที่ปลดปล่อยคาร์บอนน้อยลงอีกทั้งสร้างทางเลือกแก่ผู้บริโภคในการช่วยรักษาสภาพแวดล้อมและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อไป”อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าว

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 สิงหาคม 2557