'ณัฏฐ์​ ณัฐนิธิการัชต์' กับเบื้องหลังความสำเร็จ 'Advice' แห

Post Reply
brid.kavee
Posts: 256
Joined: 05 Apr 2013, 08:51

'ณัฏฐ์​ ณัฐนิธิการัชต์' กับเบื้องหลังความสำเร็จ 'Advice' แห

Post by brid.kavee »

ladawan
Hero Member
*****
Posts: 824


View Profile Email


'ณัฏฐ์​ ณัฐนิธิการัชต์' กับเบื้องหลังความสำเร็จ 'Advice' แหล่งรวมไอที
« on: February 13, 2013, 09:27:46 am »

'ณัฏฐ์​ ณัฐนิธิการัชต์' กับเบื้องหลังความสำเร็จ 'Advice' แหล่งรวมไอที


'ขายไอทีต้องขาดทุนเป็น' จากร้านขายส่งสินค้าไอทีคอมพิวเตอร์กว่า 16 ปี ลองผิดลองถูกสร้างระบบบริหารจัดการ และเชื่อมั่นในการดูแลบัญชีที่รัดกุม จนก้าวสู่การเป็นร้านค้าไอทีที่คนรู้จักกันทั่วประเทศในชื่อ "Advice" มุมมองความคิดผู้บริหาร นายณัฏฐ์​ ณัฐนิธิการัชต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทยร่วมค้าเดอะซิสเต็ม จำกัด ทำไมต้องเป็นร้าน Advice คอมพิวเตอร์วันนี้ยังอยู่ได้หรือไม่ แท็บเล็ตจะฆ่าตลาดโน้ตบุ๊กหรือเปล่า ทำไมจึงต้องขายของไอทีและขาดทุนเป็น บริหารจัดการอย่างไรจึงจะอยู่รอด ทุกอย่าง ทุกคำตอบ ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง จะเป็นผู้อธิบายให้หายสงสัยกัน

IT Digest : ที่มาที่ไปของร้านค้าไอที Advice มีที่มาที่ไปอย่างไร
ณัฏฐ์: เราเริ่มต้นจาก 16 ปีที่แล้ว เราก็เป็นร้านขายส่งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ไม่ได้เป็นคนหน้าใหม่มาจากไหน อยู่ในวงการเป็นเบื้องหลังในตลาดไอทีมานาน พอมีจังหวะที่ร้านไอทีที่เป็นเชนสโตร์เปิดตามต่างจังหวัดมากๆ ดีเลอร์ที่เคยรับของจากเราไปขายก็เริ่มเดือดร้อน อยู่ไม่ได้

เนื่องจากผมเรียนจบมาทางด้านบัญชี ไม่เหมือนกับร้านอื่นๆ ที่อาจจะเป็นคนที่เชี่ยวชาญเรื่องไอทีมาเปิดร้าน ส่วนตัวเลยให้ความสำคัญกับการบริหารงาน เพื่อที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้ ต้องมีระบบบัญชีที่ดี ถูกต้องรัดกุม ก็เลยมาสู่การพัฒนาซอฟต์แวร์ระบบบัญชี และอีอาร์พีเพื่อใช้งานเองภายใน

ตรงนี้เองที่มาทำให้คิดว่าถ้าเราเอาร้านค้าที่เป็นลูกค้าเรามาสร้างเครือข่าย เชื่อมโยงระบบหลังบ้านเข้าด้วยกัน โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปบริหาร แต่ให้เจ้าของกิจการเดิมเป็นคนทำธุรกิจเอง เพราะแต่ละท้องถิ่นคนที่อยู่ในพื้นที่ย่อมรู้จักชุมชนของตัวเอง เราจึงนำเอาความรู้กับระบบบริหารงานที่เรามีอยู่ไปช่วยเขาบริหาร อัพเกรดร้านไอทีเหล่านี้มาเป็น Advice Family เพราะร้านเหล่านี้ไม่มีระบบบัญชี และ ERP ที่มีประสิทธิภาพ เราก็เริ่มเข้าไปทำระบบหลังบ้านให้กับเขา

สำหรับระบบที่เราเอาไปวางนี้เป็นตัวเดียวกับที่เราใช้งานภายใน โดยนำมาทดสอบกับสาขาแรกที่เซียร์ รังสิต ทำไปได้ประมาณ 8 ปี ก็ตัดสินใจตกลงว่าจะทำร้านเนื่องจากเราได้ซอฟต์แวร์มาใช้บริหารหลังบ้านแล้ว จึงมาสู่การสร้างร้าน System By Advice ก็คัดเอาจากร้านดีเลอร์ที่เรามีอยู่ มาเป็นร้าน Advice Distributions ที่มีอยู่ 142 ร้าน ใน 77 จังหวัด และในปี 2556 จะมี Advice Mini ก็จะขยายเพิ่มไปทั่วประเทศอีกประมาณ 120-130 สาขา จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 21 สาขา รวมทั้งการขยายตลาดเข้าสู่ระดับอำเภอในรูปแบบของร้าน AS ONE อีก 218 สาขา

ร้านค้าทั้งหมดเราคัดเลือกมาจากร้านค้าไอทีเดิมที่เป็นเครือข่ายของเราที่ต้องผ่านหลักเกณฑ์ คือ ระบบบริหารคลังสินค้า การจัดสต๊อก มีระบบบัญชีที่ดี และฐานะทางการเงินที่ดี จึงจะให้ผ่านเข้าร่วมเครือข่าย จึงอาจมีคู่ค้าบางรายที่ไม่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของเราได้เหมือนกัน ดังนั้นจากดีเลอร์ขายอุปกรณ์ไอทีธรรมดา ก็กลายมาเป็นร้านค้าไอทีที่มียอดขายอยู่ที่ประมาณเดือนละ 200,000 บาท หรือถ้าเป็นรายใหญ่ก็อยู่ที่ 2 ล้านบาทต่อเดือน

IT Digest : กลยุทธ์การทำตลาดและการบริหารงานของ Advice แตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
ณัฏฐ์: เราขายสินค้าอุปกรณ์ไอทีทั้งปลีกและส่งกว่า 4,000 รายการ และมุ่งกระจายสินค้าไปให้เข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด บวกกับความรู้ที่เรามีจึงมีการพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาเพื่อช่วยในการบริหารงานในร้าน หนึ่งในนั้น คือ ระบบการสั่งซื้อ Smart Odering Program: SOP ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้สั่งซื้อสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์ของแอดไวซ์ ทำให้สามารถเช็กจำนวนสินค้า และราคาได้แบบเรียลไทม์ เรามอนิเตอร์การตัดสต๊อกสินค้าสำหรับร้านต่างจังหวัด 5 วัน ส่วนร้านในเมืองอยู่ที่ 3 วัน ดูสินค้าได้เป็นชนิดๆ

เราเข้าไปสอนให้เขาขาดทุนเป็น แล้วจัดการของที่มีในสต๊อกให้หมด เพราะสินค้าไอที อายุของมันสั้น ตกรุ่นไวมากๆ ยิ่งเก็บไว้กับร้านนานยิ่งขาดทุน เช่น จอมอนิเตอร์ หรือฮาร์ดดิสก์ ยกเว้นแรมที่ช่วงนี้ราคาปรับขึ้นมา เราเข้าไปช่วยให้เขาขาดทุนในเวลาจำกัด เปลี่ยนพฤติกรรมร้านไอทีแบบเดิม ที่เอาของค้างสต๊อกไว้ไม่ยอมขายลดราคาเพราะเสียดาย ที่ในความเป็นจริงคุณจะมาคิดเสียดายไม่ได้ การทำธุรกิจไอทีเวลานี้ต้องคิดเร็วทำเร็ว เพราะสินค้าไอทีมีให้เลือกขายกว่า 4,000 รายการ นี่คือความสำคัญที่แอดไวซ์ต้องมีระบบออเดอร์แพลนเพื่อวางแผนให้กับลูกค้า ทำให้เกิดประสิทธิผล ความสะดวก ความประหยัด แม่นยำ รวดเร็ว

IT Digest: แอดไวซ์มองตลาดแท็บเล็ตอย่างไรบ้าง
ณัฏฐ์: เนื่องจากเราได้เป็นศูนย์ซ่อมของโครงการ OTPC (โครงการแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา) จุดนี้ทำให้เราได้รู้ว่า ตลาดแท็บเล็ตมาแน่ๆ ในวงไอที ผมถือว่าเราเริ่มได้เร็ว และทำมากที่สุด แล้วการที่เราเป็นศูนย์ซ่อมมันไม่ได้จบที่การซ่อม แต่จะมีคนมาถามว่ามีขายไหม เพราะผู้ปกครองเห็นลูกคนอื่นที่อยู่ ป.1 ได้ใช้ และ ป.3 ป.4 ก็อยากได้เล่นได้ใช้ เราจึงขยับไปขายแท็บเล็ตโดยไปนำเข้าแบรนด์ สโคแพด (ScoPad) เป็นแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์จากบริษัทสโคป ทำให้การทำตลาดดี เพราะตัวเครื่องแข็งแรง ทนทาน ไว้ใจได้ ราคาไม่แพง ขายได้ 60,000 ตัวแล้ว ขายง่าย กำไรดี

แต่น้ำหนักการทำตลาดหลักเรายังอยู่ที่โน้ตบุ๊กมากกว่า แท็บเล็ตเป็นเพียง 20% เวลานี้ตลาดแท็บเล็ตโตเยอะมาก ปีนี้เราวางแผนยอดขายแท็บเล็ต-สมาร์ทโฟนอยู่ที่เดือนละ 1 แสนเครื่อง ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท แต่ยอมรับว่าแท็บเล็ตแรงจริงๆ ขายดีแทบดูแลไม่ทัน แต่ในส่วนของช่องทางจำหน่ายเวลานี้แท็บเล็ตขายดีมากในฝั่งที่เป็นโมบายล์ แต่ช่องทางที่เป็นไอทีไม่มากนัก นี่จึงเป็นโอกาสของเราแล้ว ถ้ายิ่งวินโดวส์ 8 มาเต็มๆ ในที่นี้ คือ ฮาร์ดแวร์ที่รองรับ พร้อมมากกว่านี้ จะทำให้แท็บเล็ตในตลาดไอทีไปได้ไกลมากๆ น่าจะอยู่ประมาณกลางปี 2556 ในตลาดแท็บเล็ตยังสามารถทำอะไรได้อีกมากทั้งการให้บริการด้านซอฟต์แวร์ และบริการหลังการขาย

IT Digest : มุมมองที่มีต่อธุรกิจบริการด้านไอทีขณะนี้เป็นอย่างไร
ณัฏฐ์: อย่างที่บอกว่าธุรกิจไอทีนี้กำไรน้อยมาก รายได้หลักๆ ก็จะมาจากการบริการหลังการขาย เราเลยมุ่งที่จะทำ เซอร์วิส เน็ตเวิร์ก แน่นอนเลยว่าเรื่องงานบริการหลังการขายมีความสำคัญ Advice เรามีบริการเพิ่มเติม คือ การประกันเครื่องเพิ่มเติม คือไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ของแบรนด์ไหน ถ้าเราสามารถซ่อมได้ หาอะไหล่ใส่ได้เราก็รับทำหมด รวมไปถึงงานประมูล งานไอทีเซอร์วิสขององค์กร หรือ ภาครัฐที่เป็นงานประมูลเราก็เข้าไปดูแล หรือแบรนด์คอมพิวเตอร์ต่างๆ ก็ติดต่อเข้ามาให้เราเป็นตัวแทนบริการของเขาด้วย

เนื่องจาก Advice เป็นผู้รับผิดชอบในการซ่อมดูแลเครื่องแท็บเล็ตเพื่อการศึกษา หรือแท็บเล็ต ป.1 (OTPC) ทำให้เรามีซอฟต์แวร์ที่เราพัฒนามาให้กับ OTPC พร้อมอยู่แล้ว แค่เปลี่ยนเบอร์อะไหล่ ใช้เวลาไม่นานจัดการได้ทันที สามารถจัดการเครื่องได้เลย งานนี้ก็ถือว่าเป็นงานขนาดใหญ่ แต่ค่อนข้างสนุกดี ได้ไปสนับสนุนโครงการระดับชาติ มีเรื่องอะไรมากมายให้ได้เรียนรู้ เพราะส่วนมาก OTPC จะมีปัญหาในด้านซอฟต์แวร์มากกว่า ฮาร์ดแวร์ไม่ค่อยมีปัญหา ทีมช่างเราดูแล้วส่วนมากที่เสีย เพราะลงแอพพลิเคชั่นมากไป เครื่องสเปกมันไม่สูงพอลงอะไรเข้าไปเยอะๆ ก็มีแฮงก์ มีหน่วง มีค้างตามปกติ ก็ลบโปรแกรมลงแอพพลิเคชั่นใหม่ก็จบ

IT Digest: มองภาพรวมตลาดไอทีของไทยเวลานี้เป็นอย่างไร
ณัฏฐ์: สำหรับธุรกิจไอทีเชื่อว่าการแข่งขันของเอกชนน่าจะมีความรุนแรง โดยเฉพาะการแข่งขันระหว่างร้านค้าที่เป็นเชนสโตร์ จะทำให้ผู้ประกอบการ ร้านไอทีเล็กๆ ไม่สามารถอยู่ได้ หรือแข่งขันได้ เพราะงบน้อย สายป่านสั้น เนื่องจากในขณะนี้ความต้องการด้านไอทีมีเท่าเดิม แต่ผู้เล่นในตลาดมีมากขึ้น ทำให้ต้องแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่งเค้กก้อนนี้กันหนัก จึงน่าเป็นห่วงผู้ประกอบการรายย่อย หรือร้านซ่อมคอมพิวเตอร์เล็กๆ จะลำบาก

แต่ทางรอดของธุรกิจอาจจะต้องหันมาเน้นบริการรับซ่อมดูแล หรือบริการหลังการขายมากขึ้น หรือ เปลี่ยนธุรกิจไปทำอย่างอื่น ซึ่งเวลานี้ที่น่าสนใจมากๆ คือ กล้องวงจรปิด ไอพีคาเมรา ทั้งแบบมีสาย และไร้สาย เพราะกำลังเป็นที่นิยม แทบทุกบ้านอยากจะมีติดไว้

IT Digest: มองนโยบายด้านไอซีทีของรัฐบาล ขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ณัฏฐ์: ผมเชื่อว่าการมีโครงการฟรีไวไฟ และการแจกแท็บเล็ตเพื่อการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนเป็นเรื่องที่ดี แต่โครงการเหล่านี้หากมีปัญหาขึ้นมาจะทำให้เกิดการสะดุดได้ ส่วนการผลักดันให้เกิดการให้บริการเครือข่าย 3G หรือ 4G ก็น่าจะเป็นบรรยากาศที่ดีในการสนับสนุนให้คนหันมาใช้งาน และบริโภคเทคโนโลยีมากขึ้น

IT Digest: เห็นว่าก่อนหน้านี้ Advice มีโครงการแจกแอนตี้ไวรัส คอมพิวเตอร์ฟรี เป็นอย่างไรบ้าง
ณัฏฐ์: โครงการแจกแอนตี้ไวรัสฟรีนี่ เริ่มต้นมาจากการที่เราอยากให้คนหันมาใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ถูกต้อง ขณะเดียวกันก็อยากให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์หันมาติดตั้งโปรแกรมแอนตี้ไวรัสแบบถูกลิขสิทธิ์ จะได้ช่วยแก้ปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์เล่นงาน เราเลยตัดสินใจควักเงินซื้อไลเซ่นส์ ซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสมาจาก แพนด้าซอฟต์แวร์ เพื่อแจกให้กับคนทั่วไป แต่เหมือนว่าจะไม่ได้การตอบรับที่ดีนัก เพราะผู้ใช้งานไม่ค่อนสนใจ อาจเป็นเพราะตัวซอฟต์แวร์ชื่อเสียงยังไม่ติดหูคนไทย รวมทั้งการหาโปรแกรมฟรีดาวน์โหลดทางอินเทอร์เน็ตก็สะดวกสบายกว่า แต่อย่างไรก็ตามเราก็อยากให้คนหันมาใช้ซอฟต์แวร์ลิขสิทธิ์ อย่างน้อยเครื่องคอมพิวเตอร์ของพวกคุณจะได้ปลอดภัยนั่นเอง

IT Digest: ฝากถึงผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ และคนที่กำลังจะเป็นลูกค้า หรือเป็นลูกค้า Advice อยู่แล้ว
ณัฏฐ์:ผู้ใช้งานอุปกรณ์และเทคโนโลยีไอทีทุกท่านครับ ผมอยากให้เราพิจารณากันมากขึ้นเวลาซื้อสินค้าไอที ไม่ใช่ดูที่ราคาขาย หรือโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจเท่านั้น แต่อยากให้ดูความน่าเชื่อถือของตัวแทนจำหน่าย ดูคนที่ขายว่าน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน มีบริการหลังการขายหรือไม่ และอย่างไร สามารถเคลมสินค้าได้เมื่อเกิดปัญหา หรือไว้ใจได้ว่าจะไม่หนีหายไปไหน อยากให้ผู้บริโภคทุกคนได้หันมาใส่ใจ และระวังตรงนี้มากขึ้น

สำหรับ แอดไวซ์ ก็ยังคงยึดมั่นในการดูแลลูกค้าอย่างเต็มที่ รวมถึงการดูแลหลังการขายของสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ได้ซื้อกับแอดไวซ์ เราก็รับดูแลแก้ไขเมื่อเกิดปัญหา พร้อมให้คำปรึกษา เพราะที่ผ่านมาเราได้ลงทุนและลงแรงไปกับการพัฒนาบริการหลังการขายมาก จึงอยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้กับลูกค้าเต็มที่ จึงขอฝากร้านแอดไวซ์ไว้เป็นทางเลือกให้กับทุกท่านด้วย.

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2556
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”