ร้านค้า-หาบเร่แผงลอย แห่ใช้สิทธิ์ซื้อแอลพีจีราคาถูก

[brid.siriwan]

ร้านค้า-หาบเร่แผงลอย แห่ใช้สิทธิ์ซื้อแอลพีจีราคาถูก

กรมธุรกิจพลังงานเผย หาบเร่แผงลอยตื่นแห่ใช้สิทธิ์ซื้อแอลพีจีราคาเดิมพุ่ง 1.6.7 แสนราย หลังทยอยปรับขึ้นรวม 4.50 บาทต่อก.ก. แล้ว

แหล่งข่าวจากกรมธุรกิจพลังงานเปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี)ภาคครัวเรือนปัจจุบันมีจำนวนผู้มาลงทะเบียนใช้สิทธิ์ในกลุ่มของร้านค้าหาบเร่แผงลอยอาหารเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 167,859 ราย มีการใช้สิทธิ์ซื้อแอลพีจีไปแล้วรวม 2 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับช่วงแรกของการดำเนินมาตรการในช่วงต้นปีทีมีผู้มาลงทะเบียนไม่ถึง100,000 ราย

“ ราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนได้เริ่มทยอยปรับขึ้นราคามาตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 56 เดือนละ 50 สต.ต่อก.ก. ซึ่งปรับไปได้เพียง 9 ครั้ง รวม 4.50 บาทต่อก.ก.หลังจากนั้นได้ชะลอการปรับราคาอออกไปหลังมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขณะที่มาตรการของกระทรวงพลังงานที่ออกมาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยไม่ให้ได้รับผลกระทบนั้นต้องยอมรับว่าช่วงแรกไม่ได้รับความสนใจเพราะเห็นว่าการปรับราคาแอลพีจียังเป็นอัตราต่ำยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักแต่เมื่อราคาปรับเพิ่มจนมีราคาห่างจากราคาเดิม 3-4บาท ก็เริ่มมีผู้มาใช้สิทธิ์มากขึ้น”

ทั้งนี้ในปัจจุบันจำนวนการชดเชยราคาแอลพีจีครัวเรือนในโครงการดังกล่าวไปแล้วรวม220 ล้านบาทโดยหลักเกณฑ์การช่วยเหลือนั้นกำหนดผู้ที่มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการไว้ 2 ประเภท คือ กลุ่มครัวเรือนผู้มีรายได้น้อยใช้ฐานข้อมูลจากผู้ใช้ไฟฟ้าฟรีและครัวเรือนที่ไม่ใช้ฟรีจะได้รับการช่วยเหลือซื้อแอลพีจีในราคา18.13 บาทต่อก.ก. ไม่เกิน 18 ก.ก.ในระยะ3เดือนส่วนกลุ่มหาบเร่แผงลอยช่วยเหลือตามการใช้จริงแต่ไม่เกิน 150 ก.ก.ต่อเดือนทั้งนี้ผู้ได้รับการช่วยเหลือสามารถใช้ถังทุกขนาดแต่ไม่เกิน 15 ก.ก.

นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวถึง ภาพรวมปริมาณการใช้แอลพีจีในเดือนก.ค. ยังอยู่ในภาวะปกติโดย การใช้ในภาคครัวเรือนอยู่ที่178,000ตัน เพิ่มขึ้นเทียบกับเดือนก่อนอยู่ที่ 165,000 ตัน ภาคขนส่งอยู่ที่ 171,000 ตัน เพิ่มขึ้นเทียบกับเดือนก่อนอยู่ที่ 163,000 ตันภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 48,000 ตัน เพิ่มขึ้นเทียบกับเดือนก่อนอยู่ที่ 46,000 หมื่นตัน ซึ่งกรมฯได้ติดตามปริมาณการใช้แอลพีจีระหว่างภาคครัวเรือนกับภาคขนส่ง ยังไม่พบว่ามีการลักลอบใช้ข้ามประเภทจนผิดสังเกตหรือเป็นปริมาณที่มาก

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 1 กันยายน 2557