Page 1 of 1

‘ไอดีซี’ ชี้ไอทีปีงูเล็ก จุดเปลี่ยน ยุคอวสานพีซี

Posted: 05 Apr 2013, 14:36
by brid.kavee
ladawan
Hero Member
*****
Posts: 824


View Profile Email


‘ไอดีซี’ ชี้ไอทีปีงูเล็ก จุดเปลี่ยน ยุคอวสานพีซี
« on: February 13, 2013, 09:14:14 am »

‘ไอดีซี’ ชี้ไอทีปีงูเล็ก จุดเปลี่ยน ยุคอวสานพีซี

ยุคพีซีเฟื่องฟูถึงอวสาน

นายอรรถพล สาธิตคณิตกุล ผู้จัดการฝ่ายงานวิจัยและที่ปรึกษาประจำประเทศไทย บริษัทวิจัยไอดีซี กล่าวว่า ปี 2556 จะเป็นปีที่ตลาดพีซีต้องพบความท้าทายอย่างมาก คาดว่าภาพรวมปีนี้จะเติบโตได้เพียง 3-4% หรือดีที่สุดแค่ 5% ยอดจัดส่ง 4 ล้านเครื่องเท่านั้น

“เดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊คเคยเป็นผลิตภัณฑ์ที่มียอดขายเติบโตต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน แต่ทุกวันนี้จะต้องหลีกทางให้อุปกรณ์พกพา ทั้งสมาร์ทโฟน และแทบเล็ต เชื่อว่าตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ตลาดพีซีไทยจะขยายตัวอย่างยากลำบาก”

ขณะเดียวกัน มีโอกาสได้เห็นการเติบโตแบบติดลบต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายต้องปรับตัว โดยใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ สร้างความหลากหลายให้ผลิตภัณฑ์ รวมถึงไม่ละเลยกับประเด็นการกำหนดราคาเพื่อรักษาฐานตลาดเดิมของตัวเองไว้

เขาระบุด้วยว่า การแข่งขันบนสมรภูมิสมาร์ทโฟนและแทบเล็ต ปัจจุบันระบบปฏิบัติการหลักมี 4 ระบบคือ แอนดรอยด์ ไอโอเอส วินโดว์ส โฟน และแบล็คเบอร์รี ปลายปีนี้คาดว่าจะเหลือผู้เล่นหลักเพียง 2 ราย ส่วนที่เข้ามาใหม่จะไปรอดหรือไม่ ภายใน 2 ไตรมาสน่าจะประเมินได้

“ไอโอเอส และแอนดรอยด์ จะต้องแข่งขันกันดุเดือดเพื่อขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค ส่วนโอเอสที่เกิดใหม่อย่างวินโดว์ส โฟน 8 และแบล็คเบอร์รี 10 จำเป็นต้องทุ่มสุดตัวเพื่อหาพื้นที่ในตลาดรองรับการเติบโตในอนาคต แต่ละระบบปฏิบัติการต้องประสบความท้าทายที่แตกต่างกัน ไอโอเอสจำเป็นต้องปกป้องฐานผู้บริโภคเดิม ขณะที่แอนดรอยด์ และวินโดว์ส จำเป็นต้องรุกหนักเพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดจากไอโอเอสมากขึ้น ส่วนแบล็คเบอร์รีต้องพยายามกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งเพื่อเป็นทางเลือกที่ 3 รองจากระบปฏิบัติการยอดนิยม”

อย่างไรก็ดี กำลังซื้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับความพร้อมของการให้บริการ 3จี จะทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวได้สูงถึง 40% ยอดจัดส่งทั้งหมด 7.3 ล้านเครื่อง ส่วนแทบเล็ตเองก็มีแนวโน้มการเติบโตใกล้เคียงกัน ยอดจัดส่งไม่ต่ำกว่า 3.5 ล้านเครื่อง

เน็ตบุ๊คดับ-วินโดว์ส8ไม่พอ

นายจาริตร์ สิทธุ นักวิเคราะห์สายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ดีไวซ์ ประจำไอดีซีประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ปี 2554 แม้มีปัจจัยลบเรื่องน้ำท่วม แต่ตลาดพีซียังเติบโตได้ 17-18% สำหรับช่วงต้นปี 2555 มองว่าจะเติบโตได้เป็นตัวเลข 2 หลัก แต่ผลที่ออกมาเท่าที่ประเมินดู ผิดไปจากคาด ตัวเลขที่แน่นอนจะออกมาประมาณสัปดาห์หน้า

ทั้งนี้ เบื้องต้นปีที่ผ่านมาเดสก์ท็อปเติบโตเล็กน้อย เพราะดีไวซ์อื่นๆ ยังทดแทนกันไม่ได้เต็มที่ ที่น่าสนใจคือกลุ่มโน้ตบุ๊คที่ตัวเลขติดลบ ขณะนี้ เน็ตบุ๊คที่เคยมีสัดส่วน 7-10% ของตลาดสูญพันธุ์ไปแล้ว ส่วนโน้ตบุ๊คดั้งเดิม นอกจากปัจจัยเดียวกันกับข้างต้นยังมีนโยบายรถคันแรก และบ้านหลังแรกของรัฐบาลมาเป็นตัวฉุดทำให้การใช้จ่ายน้อยลง

ขณะที่ อัลตร้าบุ๊ค ยังไม่แจ้งเกิดอย่างเป็นรูปธรรม เหตุเพราะราคาค่อนข้างสูงเป็นสินค้าสำหรับตลาดไฮเอ็นด์และเฉพาะทาง ต่อไปหากราคาไม่ลดลงถึง 2 หมื่นต้นๆ คาดว่าจะไม่เกิดแน่นอน ตลาดไทยยังมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยด้านราคาอยู่มาก

นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการวินโดว์ส 8 เป็นแรงกระตุ้นได้ดีระดับหนึ่ง แต่ไม่มากพอจะมาช่วยดึงสถานการณ์ภาพรวม ทางออกผู้แทนจำหน่ายต้องช่วยกันวางกลยุทธ์กับผู้ผลิตเพื่อกระตุ้นยอดขาย จากนี้จะได้เห็นผู้ผลิตปรับกลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ไปให้ความสำคัญกับแทบเล็ตมากขึ้น ปรับราคาโน้ตบุ๊คลง รวมถึงพัฒนาการทำงานให้มีความสามารถหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ การใช้แทบเล็ตในองค์กรจะมีมากขึ้นตามลำดับด้วย

“แบรนด์ไหนจะอยู่รอดหรือแบรนด์ไหนจะไปไม่รอดขึ้นอยู่กับความว่องไว ทุกวันนี้ผู้ผลิตพีซีไม่ได้แข่งกันแค่รายเดิมอีกต่อไปแล้ว ฉะนั้นจำต้องเคลื่อนไหวให้ไวได้เท่ากับผู้เล่นตลาดมือถือ ถ้าใครทำไม่ได้ก็ต้องเสี่ยงเสียส่วนแบ่งการตลาดให้ผู้อื่นไป” นายจาริตร์ออกความเห็น

3จีดันใช้จ่ายไอซีทีโตบวก

นายอรรถพลกล่าวต่อว่า การใช้จ่ายไอซีทีภายในประเทศมีทิศทางที่ค่อนข้างสดใส แต่ไม่แข็งแกร่งเท่ากับหลายปีก่อนหน้านั้น ข้อมูลระบุว่า ตลาดปีนี้จะมีมูลค่า 21,000 ล้านดอลลาร์ เติบโต 9.8% ขณะที่ปี 2555 มีมูลค่า 19,100 ล้านดอลลาร์ เติบโต 9.1% ถือว่าแกว่งลงมาพอควรเมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มีมูลค่า 17,500 เติบโต 15.4% เฉพาะการใช้จ่ายด้านไอทีจะอยู่ที่ประมาณ 12,500 ล้านดอลลาร์

“ไอดีซีเชื่อว่า การเติบโตและการใช้งานด้านไอซีทีปีนี้ จะมาจากแรงขับเคลื่อนหลัก 4 ประการ ได้แก่ คลาวด์, โมบิลิตี้, โซเชียล บิสิเนส และบิ๊กดาด้า แต่คงไม่ได้เห็นการเติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักอีกแล้ว เพราะไทยเป็นตลาดที่มีฐานค่อนข้างใหญ่ ไม่ใช่เพิ่งเริ่มลงทุนทางเทคโนโลยี ขณะเดียวกันการลงทุนของภาครัฐระดับไม่ต่างจากเดิม การใช้จ่ายฝั่งฮาร์ดแวร์ก็ไม่ได้หวือหวา และส่วนใหญ่เป็นการทดแทนเครื่องเก่ามากกว่าลงทุนใหม่”

ผู้เชี่ยวชาญจากไอดีซี ให้ข้อมูลด้วยว่า 3 จีเป็นหนึ่งในตัวแปรที่ช่วยผลักดันให้ตลาดบริการโทรคมนาคมเติบโต ปีนี้จะมีมูลค่า 8,500 ล้านดอลลาร์ เติบโต 4.4% จากปีก่อนที่มีมูลค่า 8,100 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นประเภทไวร์เลส วอยซ์ จะมีสัดส่วนสูงสุดที่ 53% ส่วนไวร์เลส ดาต้า (โมบาย ดาต้า) มีสัดส่วน 18-20% แต่เติบโตดีที่สุดอย่างน้อย 14% มูลค่า 1,700 ล้านดอลลาร์

“ตลาดไอทีหมุนเร็วจนผู้ผลิตตามไม่ทัน ขณะเดียวกันอายุการใช้บริการสั้นลง ปรับเปลี่ยนไปตามไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมผู้บริโภคไทยไม่ได้น้อยหน้าประเทศที่พัฒนาแล้วฝั่งตะวันตกเลย”

เขาระบุว่า หลังจากน้ำท่วมไอดีซีเชื่อว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะมีมากกว่าเดิม แต่ผลที่ออกมากลับตรงกันข้าม ด้วยมีแรงต้านจากผู้ประกอบการ และเซ็คเตอร์ย่อยๆ หลายรายที่เห็นว่ายังไม่ถึงเวลาต้องลงทุนกับเทคโนโลยีระดับสูง

สมาร์ทดีไวซ์บุกทุกตลาด

นายอรรถพลเปิดเผยถึงเทรนด์เทคโนโลนีที่ต้องจับตามองอื่นๆ ว่า แรงหนุนการใช้จ่ายและการลงทุนจะมาจากตลาดกลุ่มองค์กรมากขึ้นกว่าเดิม โดย 3 อุตสาหกรรมหลักที่ใช้จ่ายต่อเนื่อง ได้แก่ การเงินการธนาคาร โทรคมนาคม ภาครัฐ เห็นได้จากการลงทุนด้านโซลูชั่นตั้งแต่กลางปีก่อน แต่ต้องเผชิญกับการรับเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งบิ๊กดาต้า การวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงคลาวด์

“แรงกระตุ้นสำคัญจะมาจากการลงทุนระบบสารสนเทศ เช่น จีคลาวด์ หรือจิน ของภาครัฐ การลงทุนโครงข่าย 3จี และโครงสร้างพื้นฐานทางโทรคมนาคม”

อย่างไรก็ดี ด้านโมเดลธุรกิจใหม่ๆ จะได้เห็นการให้บริการไอทีแบบครบวงจร เปลี่ยนจากกลุ่มงานบริการที่ผูกติดกับอุปกรณ์มาสู่รูปแบบการนำเสนอบริการที่เน้นคุณค่าของกระบวนการทางธุรกิจ โดยการให้บริการแบบบำรุงรักษาระบบทั่วไปบทบาทจะลดลง เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดและไม่คุ้มค่ากับการลงทุน คาดว่ามูลค่าตลาดบริการด้านไอทีปีนี้จะเติบโตได้ถึง 14.2% มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1,800 ล้านดอลลาร์

พร้อมกับชี้ว่า สมาร์ทดีไวซ์จะส่งผลให้ดิจิทัลคอนเทนท์เติบโต จะเห็นผู้ใช้งานสมาร์ทดีไวซ์ นำอุปกรณ์ไปใช้กับงานและกิจกรรมส่วนบุคคลหลากหลาย (เพอร์ซันนัล อีโคซิสเต็มส์) การเติบโตของคลาวน์ยังคงเดินหน้าต่อไป ควบคู่กับความท้าทายหลายประการ เช่น การรักษาความปลอดภัยการใช้และข้อมูล ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้โซลูชั่นที่ผสมผสานการทำงานตอบโจทย์ธุรกิจหลากหลาย

ส่วนบิ๊กดาต้า ยังเป็นกระแสเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจ และถูกนำมาเป็นปัจจัยตัดสินใจลงทุนไอที

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ไอที-นวัตกรรม
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 11:56

Tags : ไอดีซี • พีซี