ใช้สเปรย์กำจัดแมลงอย่างระวัง - ไขปัญหาผู้บริโภค

Post Reply
brid.siriwan
Posts: 3942
Joined: 05 Apr 2013, 08:47

ใช้สเปรย์กำจัดแมลงอย่างระวัง - ไขปัญหาผู้บริโภค

Post by brid.siriwan »

ใช้สเปรย์กำจัดแมลงอย่างระวัง - ไขปัญหาผู้บริโภค

สเปรย์ฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงเป็นทางเลือกของผู้บริโภคหลายราย เนื่องจากสะดวกใช้งาน สามารถกำจัดแมลงต่าง ๆ ได้ ยาฆ่าแมลงประเภทสเปรย์ฉีดพ่นจะมีฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นพิษ

ปัจจุบันเราจะพบเห็นสินค้าหลากหลายชนิดที่มีการบรรจุในกระป๋องสเปรย์เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการใช้งานเพียงแค่กดหัวฉีดก็สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย โดยกระป๋องสเปรย์ที่ใช้บรรจุสินค้านั้นจะมีการอัดก๊าซบางชนิดเข้าไปเพื่อเป็นแรงขับดันให้ผลิตภัณฑ์ถูกฉีดพ่นออกมา โดยเฉพาะสเปรย์ฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันแพร่หลาย

สเปรย์ฉีดพ่นเพื่อกำจัดแมลงเป็นทางเลือกของผู้บริโภคหลายราย เนื่องจากสะดวกใช้งาน สามารถกำจัดแมลงต่าง ๆ ได้ ยาฆ่าแมลงประเภทสเปรย์ฉีดพ่นจะมีฟอสฟอรัส ซึ่งเป็นพิษ ถ้าหากสัมผัสแล้วซึมผ่านเข้าทางผิวหนัง ตัวยาจะยับยั้งเอนไซม์ cholinesterase ซึ่งส่งผล อย่างรวดเร็วต่อระบบประสาททำหน้าที่ฆ่าแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสารเคมีประเภทนี้จะสลายตัวภายใน 72 ชั่วโมง ปกติยาฆ่าแมลงในกลุ่มนี้ที่พบตามท้องตลาดคือ chlopyrifos, dichlovos หรือ DDVP พบในสเปรย์กำจัดยุงและแมลงสาบ สเปรย์กำจัดแมลงสาบ และสเปรย์กำจัดปลวก มด และมอด

ปัจจุบันผู้ผลิตได้มีการเติมสารต่าง ๆ เช่น กลิ่นผลไม้ กลิ่นดอกไม้ และกลิ่นหอมต่าง ๆ ผสมลงในสารเคมีกำจัดแมลง อาจทำให้เข้าใจว่า สเปรย์ฉีดพ่นกำจัดแมลงดังกล่าว ไม่เป็นอันตราย ซึ่งจริง ๆ แล้วยาฆ่าแมลงจะถูกสะสมไว้ในเซลล์ไขมัน เนื่องจากโมเลกุลของยาฆ่าแมลงนี้เป็นสารพิษร่างกายจะนำไขมันไปล้อมสารพิษไว้และเก็บไว้ในเซลล์ไขมัน เพื่อไม่ให้ออกมาทำอันตรายต่อร่างกายซึ่งระบบร่างกายที่ได้รับผลกระทบจากยาฆ่าแมลงเหล่านี้โดยตรง ได้แก่ ตับ ไต และระบบประสาท ผลจากการได้รับสารพิษจากยาฆ่าแมลงสะสมเป็นเวลานาน จึงเป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว พันธุกรรมบกพร่อง เป็นหมัน ตับถูกทำลาย โรคผิดปกติของต่อมไทรอยด์ โรคเบาหวาน และโรคไต

ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ยากำจัดแมลง ผู้บริโภคจะต้องอ่านฉลากให้ละเอียดก่อนการใช้งาน ควรสวมเครื่องป้องกันตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสทางผิวหนังที่สำคัญอย่าฉีดพ่นในห้องที่มีเด็ก ผู้ป่วย ผู้อยู่อาศัย และสัตว์เลี้ยง รวมทั้งในบริเวณที่มีอาหารและบริเวณที่มีเปลวไฟ ควรจัดเก็บในที่มิดชิดห่างไกลมือเด็กหลังจากมีการฉีดพ่นควรปิดห้อง ไว้สักระยะหนึ่ง เพื่อให้ละอองสารเคมีกำจัดแมลงที่กระจายในอากาศเจือจาง แล้วค่อยทำความสะอาดพื้นห้องควรอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งหลังจากการฉีดพ่น ส่วนภาชนะที่บรรจุผลิตภัณฑ์เมื่อใช้หมดแล้ว ให้นำไปฝังดินห้ามนำไปเผาเพราะอาจจะทำให้เกิดระเบิดได้.


ที่มา เดลินิวส์
วันเสาร์ 4 ตุลาคม 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”