Page 1 of 1

หุ้นร่วง28จุด-บาทต่ำสุดรอบ4เดือน

Posted: 07 Oct 2014, 09:01
by brid.siriwan
หุ้นร่วง28จุด-บาทต่ำสุดรอบ4เดือน

นักลงทุนแห่เทขายหุ้นไทยทำกำไรร่วง28จุด ส่วนค่าบาทอ่อนสุดรอบ4เดือน

นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมาปรับตัวลดลงต่ำสุด ระหว่างวันถึง 28 จุด เนื่องจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุน หลังจากผลประกอบการไตรมาส 2 ของบริษัทฯบางแห่งที่เริ่มทยอยประกาศออกมาบ้างแล้ว และนักลงทุนประเมินว่าราคาหุ้นสะท้อนเกินพื้นฐานไปค่อนข้างมาก จึงเริ่มปรับฐานให้สมเหตุสมผลมากขึ้น ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวทำให้ค่างเงินดอลล่าร์สหรัฐมีทิศทางแข็งค่าขึ้นทำให้นักลงทุนกลับเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ของสหรัฐเพิ่มขึ้น

"ช่วงนี้มีกระแสเงินทุนต่างชาติไหลกลับระยะสั้น ซึ่งต่างชาติเทขายหุ้น,ตราสารหนี้ และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ภายในประเทศไทยค่อนข้างมากตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแรงจูงใจให้เข้าไปลงทุนอย่างหนาแน่น อย่างไรก็ตาม ประเมินว่าเป็นผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มการฟื้นตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องช่วยผลักดันดัชนีรวมทั้งไทยยังเป็นตลาดทุนที่น่าสนใจและให้ผลตอบแทนที่ดีในสายตานักลงทุนต่างชาติ"

นายธวัชชัย อัศวพรไชย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ดัชนีได้ตอบรับปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกในช่วงนี้มากพอสมควร โดยนักลงทุนเริ่มประเมินว่าภาวะตลาดมีความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้เกิดแรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่คาดว่าหากดัชนีทดสอบแนวรับที่ 1,540-1,537 จุด น่าจะเห็นแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง

รายงานข่าวจากนักค้าเงินธนาคารพาณิชย์แจ้งว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเมื่อวันที่ 6 ต.ค.อยู่ที่ระดับ 35.62 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างวันอ่อนค่าสุดที่ระดับ 32.68 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากสุดในรอบ 4 เดือนนับจากเดือนก.ค.ที่อ่อนค่าสุดที่ระดับ 32.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลมาจากการประกาศตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐอเมริกาในวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมาปรับตัวดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ และประเมินว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วว่ากำหนดทำให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นกว่าทุกสกุลเงินในภูมิภาค


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 6 ตุลาคม 2557