Page 1 of 1

ดันสุดลิ่มอสังหาฯโค้งสุดท้าย งัดสารพัดกลยุทธ์ฝ่าตลาดซบ

Posted: 08 Oct 2014, 13:55
by brid.siriwan
ดันสุดลิ่มอสังหาฯโค้งสุดท้าย งัดสารพัดกลยุทธ์ฝ่าตลาดซบ

ยกแรก…เรียกได้ว่าแทบโดนหมัดน็อกปลิดวิญญาณ จากความวุ่นวายทางการเมืองที่ลากยาวมาตั้งแต่ปลายปีก่อน จนเกือบกลางปีนี้ ที่ทำให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องใส่เกียร์ว่าง ชะลอการเปิดตัวโครงการ พร้อมวิธี “เวต แอนด์ ซี” รอดูสถานการณ์ว่าจะคลี่คลายอย่างไร

เข้าสู่โค้งสุดท้ายของปี…อาการก็ออกชัดแจ้งต่อสายตากรรมการไปแล้วว่าบรรดาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ต่างยืนหยัดบนสังเวียนจากทั้งฝ่าหมัดฮุกความเชื่อมั่น ศอกซ้ายกำลังซื้อหด เข่าขวาที่ดินราคาพุ่ง อัปเปอร์คัตแรงงานขาด สะบักสะบอมโห่การเมือง ไร้กองเชียร์มาตั้งแต่ต้นปี ได้มากน้อยเพียงใด?

ยกแรก…เรียกได้ว่าแทบโดนหมัดน็อกปลิดวิญญาณ จากความวุ่นวายทางการเมืองที่ลากยาวมาตั้งแต่ปลายปีก่อน จนเกือบกลางปีนี้ ที่ทำให้นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ต้องใส่เกียร์ว่าง ชะลอการเปิดตัวโครงการ พร้อมวิธี “เวต แอนด์ ซี” รอดูสถานการณ์ว่าจะคลี่คลายอย่างไร

มีเพียง “รายใหญ่” ที่ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อเนื่อง จากสายป่านทางการเงินที่แข็งแรง ส่วน “รายกลาง” ต่างวิ่งสู้ฟัดขอเจรจากับสถาบันการเงิน เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ยืดหนี้ออกไปก่อน ในช่วงที่ไม่มีโครงการใหม่เปิดขาย ด้าน “รายเล็ก” ไม่ต้องพูดถึง ถ้าไม่ทำโครงการเล็ก ๆ แต่พอตัว ก็ต้องหยุดกิจการไปชั่วคราว จึงทำให้ยังประคองตัวเองอยู่บนสังเวียนต่อไปได้

เริ่มกระเตื้องหลังมี คสช.

โชคเริ่มช่วยบ้าง เมื่อเข้าสู่ยก 2 เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารบ้านเมือง ที่ทำให้ความเชื่อมั่นเริ่มกลับมา กำลังซื้อเริ่มตื่นตัว ยอดขายโครงการเริ่มเดินได้ ต่างใจชื้น รีบเดินหน้าลุย ด้วยการผุดสารพัดโครงการเรียกยอดขายต่อเนื่องกันมา…จนถึงยก 3 ถือว่ายังแรงดีไม่มีตกกันทั่วหน้า

จนกระทั่งมีรัฐบาลใหม่ มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องออกมา ยิ่งกว่าเป็นน้ำทิพย์ชโลมเหล่าผู้ประกอบการ ให้ลุกขึ้นเดินหน้าลุยแบบถวายหัว หวังน็อกคู่ต่อสู้ให้ได้ในยกสุดท้ายปลายปีนี้

ดัชนีเชื่อมั่นพุ่งอีก 6 เดือน

สะท้อนได้จากดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอสังหาริม ทรัพย์ ที่ “สัมมา คีตสิน” ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ระบุไว้ชัดเจนว่าดัชนีความเชื่อมั่นฯ ไตรมาส 3 นั้น แม้จะลดลงเล็กน้อย โดยอยู่ที่ 54.5 เทียบกับไตรมาสที่ 2 ซึ่งดัชนีมีค่าเท่ากับ 56.0 แต่หากดูถึงความคาดหวังและความเชื่อมั่นในอนาคต พบว่า ดัชนีความคาดหวังอีก 6 เดือนข้างหน้า และมองยาวไปถึงเดือน มี.ค. 58 มีค่าเท่ากับ 69.0 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่แล้ว ซึ่งมีค่าเท่ากับ 67.3

ฟันธงยอดขายหด20%

ไม่เพียงเท่านี้! สถาบันจัดอันดับชื่อดังอย่าง “ทริส เรทติ้ง” ได้ฟันธงสำทับอีกว่า ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัวได้ในครึ่งปีหลังนี้แน่นอน จากการที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น หลังความกังวลปัญหาการเมืองลดลง และเริ่มมีการลงทุนของภาครัฐ ในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ทำให้คาดว่าน่าจะมียอดขายทั้งปีลดลงเพียง 20% เท่านั้น

ครึ่งปีแรกยอดขายลดฮวบฮาบมาก จากยอดขายคอนโดมิเนียมที่ลดลง 47% เพราะผู้ซื้อ คือ ผู้ที่ต้องการที่อยู่ เพื่อลงทุน และเพื่อเก็งกำไร ซึ่งผู้ซื้อ 2 กลุ่มหลัง ค่อนข้างอ่อนไหว ทำให้ครึ่งปีแรก มีคอนโดฯ เปิดใหม่ลดลงกว่า 35% แต่บ้านแนวราบ ซึ่งเป็นความต้องการแท้จริง เพิ่มขึ้น 5%

ส่วนมุมมองของตัวจริงเสียจริง “ประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต”นายกสมาคมอาคารชุดไทย ระบุภาพรวมตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีแรก มีมูลค่า 1.36 แสนล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 21 % โดยทาวน์เฮาส์ มีมูลค่าการขาย 27,800 ล้านบาท ลดลง 4% บ้านเดี่ยว 41,700 ล้านบาท ลดลง 1% และคอนโดฯ 58,800 ล้านบาท ลดลง 37% แต่หลังจากการเมืองคลี่คลาย ความเชื่อมั่นก็กลับมา คาดว่าครึ่งปีหลังนี้ จะมีมูลค่าการขาย 1.6-1.7แสนล้านบาท ทำให้ทั้งปีมีมูลค่ารวม 3.1 แสนล้านบาท ลดลงไม่เกิน 10%

เริ่มเปิดตัวโครงการเดิม

เหตุผลใหญ่ มาจากการเปิดตัวโครงการใหม่ ที่เริ่มเปิดตัวกันมาก โดยเฉพาะเดือน ส.ค.-ก.ย. 57 ที่ 7 ยักษ์ใหญ่ เปิดตัวคอนโดฯ ใหม่ รวมมูลค่า 70,000 ล้านบาท มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก ที่มี 54,000 ล้านบาท และเชื่อว่าความต้องการขาย ยังไม่มากเกินไป เพราะโครงการใหม่ที่เปิด ล้วนเตรียมไว้นานแล้ว เพียงเปิดตัวไม่ได้ช่วงครึ่งปีแรกจากปัจจัยทางการเมือง

แต่ยอมรับว่า การพัฒนาคอนโดฯ ใหม่ปีหน้า ทำได้ยากขึ้น เพราะราคาที่ดินสูงขึ้น เช่นเดียวกับต้นทุนค่าก่อสร้าง ที่ขึ้นเร็วกว่ากำลังซื้อผู้บริโภคจะตามทัน ขณะที่ผู้ประกอบการต้องซื้อที่ดินใหม่ ที่ราคาสูงมาก ทำให้ต้องพัฒนาโครงการที่หรูและแพงขึ้นกว่าเดิม

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตลาดต่างจังหวัดนั้น ยอมรับว่ายังไม่ฟื้นตัวมากนัก โดยเฉพาะคอนโดฯ เนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการจำนวนมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในจังหวัดหัวเมืองใหญ่ ที่สินค้าใหม่เติบโต 400-500% และยังพบว่ามีลูกค้าไม่รับโอนค่อนข้างมาก จึงต้องนำกลับมาขายใหม่ คาดว่าต้องใช้เวลาในการขายสินค้าอีก 2-3 ปี จึงจะหมด ส่วนแนวราบยังขยายตัวได้เรื่อย ๆ แต่ไม่หวือหวา

อานิสงส์เออีซีแข่งขันสูง

ขณะที่ “อธิป พีชานนท์” นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร มองว่า การเร่งรัดขยายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการก่อสร้างรถไฟฟ้า 3 สาย เช่น สายสีเขียว สายสีชมพู สีเขียวเข้ม จะกระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่รถไฟรางคู่ ก็จะทำให้หัวเมืองขยายตัวได้ดีขึ้น ที่สำคัญ เมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะยิ่งกระตุ้นโอกาสการค้า และการลงทุนระหว่างภูมิภาคให้ขยายตัวมากขึ้น ทำให้ความต้องการที่อยู่เติบโต ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาฯ ที่ขณะนี้ราคายังถูกกว่าสิงคโปร์และมาเลเซีย แต่คาดว่าหลังจากเปิดเออีซีแล้ว การแข่งขันจะร้อนแรง ราคาปรับขึ้นไปเท่ากับประเทศอื่น ส่วนอุปสรรคที่น่ากังวล คือ แรงงานจะกลับมาขาดแคลนอีกหรือไม่ จากโครงการต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ-เอกชน

คอนโดฯยังบูม

ด้าน “พรนริศ ชวนไชยสิทธิ์” นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ยืนยันว่า โค้งสุดท้ายของปีนี้ อุณหภูมิของตลาดคอนโดฯ ในกรุงเทพฯ จะกลับมาร้อนแรงอีกครั้งและร้อนแรงต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า แต่ในส่วนตลาดต่างจังหวัด ที่เป็นหัวเมืองหลัก ๆ นั้น บ้านแนวราบยังไปได้ ส่วนคอนโดฯ อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอีกสักระยะ

ปีหน้า ต้องติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐว่า ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งมีผลต่อการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ และสุดท้ายความกังวลเรื่องการจัดเก็บภาษี ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งภาษีมรดกนั้น ที่ทุกฝ่ายยังรอดูรายละเอียดที่ชัดเจน

สุดท้าย…แล้วภาคอสังหาฯในโค้งสุดท้ายนี้ จะฟื้นได้จริงหรือไม่ คงต้องรอดูผลลัพธ์ของการจัดงานช้าง อย่าง “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 31” ระหว่างวันที่ 9-12 ต.ค.นี้ ที่บรรดาผู้ประกอบการขนกว่า 600 โครงการ มาจัดโปรโมชั่นพิเศษ หากทำยอดขายทะลุ 4,000 ล้านบาท ก็เป็นอันแน่นอนว่า คุณได้ไปต่อในสังเวียนหน้า!!

ณัฐธินี มณีวรรณ

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 8 ตุลาคม 2557