"LINE" จับมือ "Gree" ตั้งสตูดิโอทำเกมป้อนไลน์โดยเฉพาะ
Posted: 13 Oct 2014, 15:46
LINE จับมือ Gree ตั้งสตูดิโอทำเกมป้อนไลน์โดยเฉพาะ
"ไลน์ คอร์ปอเรชัน"(LINE Corporation) จับมือกับ "Gree" ตั้งสตูดิโอพัฒนาเกมใหม่ขึ้นในชื่อ "Epic Voyage" เพื่อพัฒนาเกมลงแพลตฟอร์มไลน์โดยเฉพาะ
นี่ถือเป็นการขับเคลื่อนครั้งใหญ่ของไลน์ที่ต้องการเข้ามาในตลาดเกม ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม ไลน์ ออกมาประกาศว่าจะทุ่มงบ 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อให้เกมบนไลน์เป็นที่นิยม โดยแนวคิดในเบื้องต้นคือการมีนักพัฒนาที่ทำเกมป้อนให้ไลน์
"นาโอกิ โอยากิ" รองประธานอาวุโสของ Gree กล่าวว่า "เราเตรียมนำความเชี่ยวชาญในด้านเกมที่เรามีอยู่ใส่ลงไปในบริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นเพื่อสร้างเกมระดับคุณภาพที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุก การได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบไลน์ เราหวังว่าจะได้เข้าถึงผู้เล่นมากขึ้น ด้วยเกมโมบายที่ให้ประสบการณ์การเล่นที่ประหลาดใจและตื่นเต้น"
"LINE" เปิดตัวเมื่อปี 2011 ในฐานะของแอพพลิเคชันสำหรับแชทส่งข้อความ จากนั้นในปี 2012 ได้มีการเพิ่มเกมเข้าไปในระบบ ซึ่งถือเป็นการเข้ามาแข่งขันกับผู้ให้บริการเกมบนโซเชี่ยลอย่าง DeNA และ Gree สิ้นปี 2012 ไลน์มีผู้ลงทะเบียนใช้มากกว่า 300 ล้านคน มีรายได้ 338 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรายได้ประมาณ 60 เปอร์เซนต์มาจากการซื้อของในเกม
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 10 ตุลาคม 2557
"ไลน์ คอร์ปอเรชัน"(LINE Corporation) จับมือกับ "Gree" ตั้งสตูดิโอพัฒนาเกมใหม่ขึ้นในชื่อ "Epic Voyage" เพื่อพัฒนาเกมลงแพลตฟอร์มไลน์โดยเฉพาะ
นี่ถือเป็นการขับเคลื่อนครั้งใหญ่ของไลน์ที่ต้องการเข้ามาในตลาดเกม ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม ไลน์ ออกมาประกาศว่าจะทุ่มงบ 100 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อให้เกมบนไลน์เป็นที่นิยม โดยแนวคิดในเบื้องต้นคือการมีนักพัฒนาที่ทำเกมป้อนให้ไลน์
"นาโอกิ โอยากิ" รองประธานอาวุโสของ Gree กล่าวว่า "เราเตรียมนำความเชี่ยวชาญในด้านเกมที่เรามีอยู่ใส่ลงไปในบริษัทใหม่ที่ตั้งขึ้นเพื่อสร้างเกมระดับคุณภาพที่จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุก การได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบไลน์ เราหวังว่าจะได้เข้าถึงผู้เล่นมากขึ้น ด้วยเกมโมบายที่ให้ประสบการณ์การเล่นที่ประหลาดใจและตื่นเต้น"
"LINE" เปิดตัวเมื่อปี 2011 ในฐานะของแอพพลิเคชันสำหรับแชทส่งข้อความ จากนั้นในปี 2012 ได้มีการเพิ่มเกมเข้าไปในระบบ ซึ่งถือเป็นการเข้ามาแข่งขันกับผู้ให้บริการเกมบนโซเชี่ยลอย่าง DeNA และ Gree สิ้นปี 2012 ไลน์มีผู้ลงทะเบียนใช้มากกว่า 300 ล้านคน มีรายได้ 338 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยรายได้ประมาณ 60 เปอร์เซนต์มาจากการซื้อของในเกม
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 10 ตุลาคม 2557