Page 1 of 1

“คลัง”จับตาส่งออกใกล้ชิด

Posted: 22 Oct 2014, 13:12
by brid.siriwan
“คลัง”จับตาส่งออกใกล้ชิด

หลังเศรษฐกิจโลกไม่ได้มีปัญหาวิกฤต แต่การส่งออกไทยยังต่ำ ชี้ส่วนหนึ่งเพราะย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น รมว.คลังเร่งเดินสายเรียกความเชื่อมั่น

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ติดตามปัญหาการส่งออกอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเศรษฐกิจโลกไม่ได้มีปัญหาวิกฤต แต่การส่งออกของไทยปีนี้ ยังขยายตัวได้ต่ำ ซึ่งส่วนหนึ่ง น่าจะเป็นผลจากการย้ายฐานการผลิตจากไทยไปยังประเทศอื่น ทำให้การส่งออกของไทยขยายตัวลดลงจากที่คาดการณ์อย่างมาก ดังนั้นการแก้ปัญหาการส่งออกของไทยในระยะยาว ควรต้องดูเรื่องการย้ายฐานการผลิต จะกระทบกับการส่งออกของไทยเพิ่มขึ้น ทำให้เศรษฐกิจไทยมีปัญหา เพราะการส่งออกของไทยมีสัดส่วนมูลค่าสูงถึง 74% ต่อจีดีพี

ทั้งนี้ สศค.จะปรับประมาณการณ์ส่งออกและการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) วันที่ 30 ต.ค. นี้ โดยล่าสุดอยู่ที่ 1.5% ซึ่งคาดว่าจะปรับลดลง และน่าจะใกล้เคียงกับการประมาณของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่คาดว่าการส่งออกของไทยจะขยายตัว 0% รวมทั้ง ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 57 และเศรษฐกิจปี 58 ทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจคาดว่าจะขยายตัวได้ไม่ถึง 2% ต่อปี แต่ ไม่ต่ำกว่า 1.5% ต่อปี ตามที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง ได้ยืนยันกับนักลงทุนต่างประเทศ สำหรับเศรษฐกิจปี 58 คาดว่าจะขยายตัวได้มากกว่าปีนี้

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยปีนี้ ขยายตัวได้น้อยกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากการบริโภค และการลงทุนขยายตัวได้ไม่เต็มที่ ขณะที่การส่งออกของไทยขยายตัวได้ต่ำกว่าที่ สศค.คาดการณ์ไว้มาก โดย 8 เดือนของปี 57 มูลค่าการส่งออกขยายตัวติดลบ 1.4% จากผลกระทบทั้งปัจจัยภายใน มีสาเหตุมาจากปัญหาค่าแรงที่สูงขึ้น ปัญหาราคาผลผลิตสินค้าเกษตรตกต่ำ และปัญหาภัยธรรมชาติส่งผลให้ผลผลิตเพื่อส่งออกน้อยลง ส่วนของปัจจัยภายนอก การฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าต่ำกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทำให้การส่งออกของไทยลดลดลง

ด้านนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยตอนนี้อยู่ในภาวะชะงักซบเซา ยังไม่เป็นความเสี่ยงกับเศรษฐกิจไทย เพราะประเทศไม่ได้จน แต่ยังไม่ยอมใช้จ่าย ประกอบกับการลงทุนภาครัฐยังเดินหน้าได้ช้า ซึ่งเชื่อว่านักลงทุนต่างประเทศยังเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย โดยการเดินทางไปประชุมเอเปค ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 21-22 ต.ค.นี้ ก็จะมีโอกาสชี้แจงให้นักลงทุนต่างประเทศได้เข้าใจข้อมูลที่แท้จริง

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21 ตุลาคม 2557