ส่อง "Apple Pay" ใช้ง่ายจริงไหม?

Post Reply
brid.siriwan
Posts: 3942
Joined: 05 Apr 2013, 08:47

ส่อง "Apple Pay" ใช้ง่ายจริงไหม?

Post by brid.siriwan »

ส่อง Apple Pay ใช้ง่ายจริงไหม?
เปิดใช้งานจริงแล้วกับบริการ Apple Pay เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา โดยผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาต้องทำการอัปเดตเป็น iOS 8.1 จากนั้นเข้าไปในแอปส์ "Passbook" เพื่อป้อนข้อมูลเครดิต หรือเดบิตการ์ด ก่อนจะนำไปใช้งานจริงกับร้านค้าพาร์ทเนอร์ของทางแอปเปิล (Apple)

จากการสำรวจพบว่ามีสื่อหลายสำนักต่างให้ความสนใจรายงานการใช้บริการ Apple Pay กันเป็นจำนวนมาก มีทั้งที่เข้าใช้บริการกับร้านค้าที่เป็นพาร์ทเนอร์ของแเอปเปิล และไปทดลองใช้กับร้านค้าที่ไม่ใช่พาร์ทเนอร์ของแอปเปิล รวมถึงบริการแท็กซี่ในนิวยอร์กด้วย ซึ่งพบว่า ยังไม่มีปัญหาเกิดขึ้น ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ

อย่างไรก็ดี การที่แอปเปิลมีดีลกับหลายธนาคารในสหรัฐอเมริกา การตรวจสอบความถูกต้องและการยืนยันตัวบุคคลของเครดิตการ์ดแต่ละยี่ห้อจึงหลากหลายวิธี เครดิตการ์ดบางยี่ห้ออาจใช้เวลาตรวจสอบความถูกต้องเพียง 10 วินาทีก็สามารถเริ่มใช้งานได้ ขณะที่บางยี่ห้ออาจต้องการเบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมลเพื่อยืนยันความถูกต้องก่อนที่จะเพิ่มเข้าไปในบริการ Apple Pay

เมื่อขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องเสร็จสิ้น ผู้ใช้ก็สามารถเริ่มใช้บริการ Apple Pay ได้เลย (บริการ Apple Pay สามารถรองรับเครดิตการ์ดได้สูงสุด 8 ใบ)

ส่วนการใช้งานจริง เพียงแค่เดินเลือกซื้อของในร้านค้าที่ต้องการ และเมื่อเดินมายังจุดแคชเชียร์ที่รองรับบริการดังกล่าว ไฟหน้าจอของไอโฟนจะสว่างขึ้นมาทันที และแอปส์ Passbook จะรู้หน้าที่ว่าถึงเวลาต้องทำงานด้วย ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะจ่ายด้วยเครดิตการ์ดใบใด ไม่เช่นนั้นระบบจะจ่ายด้วยบัตรที่เลือกเป็น Default

การจ่ายเงินทำได้โดยการถือไอโฟนใกล้ ๆ เครื่องคิดเงิน และใช้นิ้วแตะที่ Touch ID (ที่ปุ่ม Home) เพื่อยืนยันตัวบุคคล เมื่อจบกระบวนการการทำธุรกรรม ระบบจะมีการสั่นเตือน และมีเสียง Beeb ดังขึ้นหนึ่งครั้ง เป็นอันเสร็จสิ้น

กล่าวได้ว่าแอปส์ Passbook คือหัวใจสำคัญของ Apple Pay ซึ่งเครดิตการ์ดที่จะแอดลงมาในแอปส์สามารถมาได้จากหลายทาง ทั้งจากการที่ยูสเซอร์ป้อนด้วยตัวเอง หรือลิงค์มาจากแอคเคาน์ในไอจูนส์ หรือจะใช้การถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอลและแอดเข้ามาก็ได้

เมื่อใช้บริการ Apple Pay สิ่งที่ทำให้ผู้ใช้สะดวกมากขึ้นก็คือ การไม่ต้องควักบัตรเครดิตออกมารูดจ่าย อีกทั้งไม่ต้องใช้ใบขับขี่ หรือบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนอีกรอบ เพราะข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บอยู่ในระบบฐานข้อมูลที่อ้างกันว่าปลอดภัยมากที่สุด หรือก็คือบนไอโฟน ที่มีเทคโนโลยี Touch ID คอยปกป้องข้อมูลนั่นเอง

ส่อง Apple Pay ใช้ง่ายจริงไหม?
สำหรับการซื้อของออนไลน์ ก็ไม่ต่างกับการใช้ซื้อของจากร้านค้าทั่วไป แถมยังช่วยลดขั้นตอนในการกรอกที่อยู่ในการจัดส่งสินค้า เพราะระบบจะปรากฏข้อมูลที่อยู่ที่ลิงค์กับข้อมูลในบัตรเครดิตนั้น ๆ ให้เลยทันที รวมถึงชื่อของผู้ซื้อก็จะปรากฏออกมาโดยอัตโนมัติด้วย เพียงแค่ยืนยันตัวตนด้วย Touch ID อย่างไรก็ดี สามารถเปลี่ยนแปลงที่อยู่ในการจัดส่งได้ หากเป็นการซื้อเพื่อมอบเป็นของขวัญแก่คนอื่น

จากการทดสอบใช้บริการ Apple Pay ของสื่อหลายสำนัก พบว่า บริการดังกล่าวค่อนข้างสร้างความประหลาดใจให้กับผู้ใช้ได้พอสมควร โดยส่วนใหญ่มักไปทดลองซื้อสินค้าจากแมคโดนัลด์ ซึ่งอาจเป็นการประชาสัมพันธ์ให้แมคโดนัลด์ไปโดยปริยาย ขณะที่บางราย เช่น Pete Pachal จาก Mashable.com ได้ทดลองใช้บริการ Apple Pay กับแท็กซี่ในนิวยอร์ก และพบว่าแท็กซี่ก็รองรับบริการดังกล่าวด้วยเช่นกัน

ร้านค้าที่เป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับแอปเปิลในการเปิดบริการ Apple Pay ได้แก่

Aéropostale,
American Eagle Outfitters,
Babies”R”Us,
BJ’s Wholesale Club,
Bloomingdale’s,
Champs Sports,
Chevron and Texaco retail stores
Disney Store,
Duane Reade,
Footaction,
Foot Locker,
House of Hoops by Foot Locker,
Kids Foot Locker,
Lady Foot Locker,
Macy’s,
McDonald’s,
Nike,
Office Depot,
Panera Bread,
Petco,
RadioShack,
RUN by Foot Locker,
SIX:02,
Sports Authority,
SUBWAY,
Toys”R”Us,
Unleashed by Petco,
Walgreens,
Wegmans,
Whole Foods Market.

งานนี้ต้องมารอดูกันว่าจะเกิดกรณีรูดเพลินเกินห้ามใจในตลาดสหรัฐอเมริกากันบ้างหรือเปล่า


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 22 ตุลาคม 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”