หนี้เสียบ้าน-รถกระฉูด
Posted: 22 Oct 2014, 17:14
หนี้เสียบ้าน-รถกระฉูด
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เผยพิษเศรษฐกิจ และการเมือง ดันหนี้เสียพุ่ง ทั้งหนี้บ้าน และหนี้รถยนต์ เหตุความสามารถผ่อนชำระลดลง
นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์และการเงิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 65 ที่ 2.5% มาเป็น 3.3% ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการเมืองที่วุ่นวายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ให้ลดลง โดยพาะสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย ประกอบกับมีสินเชื่อรายใหญ่ 1-2 ราย ที่ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยหากธนาคารแก้ปัยหาเอ็นพีแอลรายใหญ่ดังกล่าวนี้ได้ จะทำให้เอ็นพีแอลต่ำกว่า 3% ทันที
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมปีนี้ ธนาคารคงจะปล่อยสินเชื่อได้ไม่ถึง 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากสินเชื่อเอสเอ็มอีเริ่มชะลอตัวลง แม้ว่าสินเชื่อบ้าน รถยนต์ และสินเชื่อรายใหญ่ยังขยายตัวได้ดีอยู่ก็ตาม และแนวโน้มปีหน้า คงจะเติบโตในอัตราชะลอตัวลงด้วย เนื่องจาก เห็นว่าการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่จะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เป็นการเบิกจ่ายงบประจำ มากกว่าการเบิกจ่ายงบลงทุน ดังนั้นโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ (ไฮสปีดเทรน) กว่าจะลงทุนต้องใช้เวลาอีกนาน อีกทั้ง ไม่รู้ว่าโครงการรับจำนำข้าวที่ค้างอยู่นั้น จะได้ถึงตันละ 15,000 บาทหรือไม่ เนื่องจากราคาข้าวในตลาดโลกลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกัยราคาก๊าซแอลพีจี ที่กระทบต่อต้นทุนการผลิตและเศรษฐกิจในประเทศ
“ทั้งนี้ ซีไอเอ็มบีกรุ๊ปให้ความสำคัญ 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีน สิงคโปร์ และไทย ดังนั้นจึงยังเดินหน้าปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง แต่สินเชื่อจะขยายตัวมากน้อยแค่ไหนนั้น ต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ หากเร่งเกินไป จะประสบหาเรื่องหนี้เสีย ซึ่งเห็นว่าปัญหาเอ็นพีแอลที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อรายเดิม ขณะที่ลูกค้ารายใหม่นั้น ยังไม่เป็นหนี้เอ็นพีแอล และคุณภาพสินเชื่อดีขึ้น เนื่องจากธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น รวมทั้งปรับขบวนการติดตามหนี้ โดยหากเห็นว่าลูกหนี้รายใด มีความสามารถชำระหนี้ได้ ก็จะเร่งติดตามเป็นอันดับแรก ก่อนลูกหนี้ที่มีปัญหา”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21 ตุลาคม 2557
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เผยพิษเศรษฐกิจ และการเมือง ดันหนี้เสียพุ่ง ทั้งหนี้บ้าน และหนี้รถยนต์ เหตุความสามารถผ่อนชำระลดลง
นายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายกลยุทธ์และการเงิน ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 65 ที่ 2.5% มาเป็น 3.3% ซึ่งเป็นผลมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการเมืองที่วุ่นวายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จนกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ให้ลดลง โดยพาะสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อที่อยู่อาศัย ประกอบกับมีสินเชื่อรายใหญ่ 1-2 ราย ที่ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ จนไม่สามารถชำระหนี้ได้ โดยหากธนาคารแก้ปัยหาเอ็นพีแอลรายใหญ่ดังกล่าวนี้ได้ จะทำให้เอ็นพีแอลต่ำกว่า 3% ทันที
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมปีนี้ ธนาคารคงจะปล่อยสินเชื่อได้ไม่ถึง 15% ตามเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากสินเชื่อเอสเอ็มอีเริ่มชะลอตัวลง แม้ว่าสินเชื่อบ้าน รถยนต์ และสินเชื่อรายใหญ่ยังขยายตัวได้ดีอยู่ก็ตาม และแนวโน้มปีหน้า คงจะเติบโตในอัตราชะลอตัวลงด้วย เนื่องจาก เห็นว่าการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่จะมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เป็นการเบิกจ่ายงบประจำ มากกว่าการเบิกจ่ายงบลงทุน ดังนั้นโครงการรถไฟฟ้ารางคู่ (ไฮสปีดเทรน) กว่าจะลงทุนต้องใช้เวลาอีกนาน อีกทั้ง ไม่รู้ว่าโครงการรับจำนำข้าวที่ค้างอยู่นั้น จะได้ถึงตันละ 15,000 บาทหรือไม่ เนื่องจากราคาข้าวในตลาดโลกลดลง ขณะที่ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกัยราคาก๊าซแอลพีจี ที่กระทบต่อต้นทุนการผลิตและเศรษฐกิจในประเทศ
“ทั้งนี้ ซีไอเอ็มบีกรุ๊ปให้ความสำคัญ 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย อินโดนีเซีน สิงคโปร์ และไทย ดังนั้นจึงยังเดินหน้าปล่อยสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง แต่สินเชื่อจะขยายตัวมากน้อยแค่ไหนนั้น ต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ หากเร่งเกินไป จะประสบหาเรื่องหนี้เสีย ซึ่งเห็นว่าปัญหาเอ็นพีแอลที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อรายเดิม ขณะที่ลูกค้ารายใหม่นั้น ยังไม่เป็นหนี้เอ็นพีแอล และคุณภาพสินเชื่อดีขึ้น เนื่องจากธนาคารเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้น รวมทั้งปรับขบวนการติดตามหนี้ โดยหากเห็นว่าลูกหนี้รายใด มีความสามารถชำระหนี้ได้ ก็จะเร่งติดตามเป็นอันดับแรก ก่อนลูกหนี้ที่มีปัญหา”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 21 ตุลาคม 2557