Page 1 of 1

เสี่ยวหมี่มาแล้ว ครองอัเสี่ยวหมี่มาแล้ว ครองอันดับ 3 สมาร์ทโ

Posted: 31 Oct 2014, 13:53
by brid.siriwan
เสี่ยวหมี่มาแล้ว ครองอันดับ 3 สมาร์ทโฟนโลก
เสี่ยวหมี่ (Xiaomi) แบรนด์สมาร์ทโฟนจากจีนแผ่นดินใหญ่รั้งอันดับสามในตลาดสมาร์ทโฟนโลกสำเร็จ หลังเปิดตัวเพียง 3 ปี ตามหลังแต่เพียงแอปเปิล (Apple) และซัมซุง (Samsung) เท่านั้น

สำหรับส่วนแบ่งตลาดของเสี่ยวหมี่ในไตรมาสที่สามของปี (กรกฎาคม - กันยายน) นั้น นักวิเคราะห์จาก Strategy Analytics เผยว่าอยู่ที่ราว 6 เปอร์เซ็นต์ (ยอดขาย 320 ล้านเครื่อง) ส่วนซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 25 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากเมื่อช่วงเดียวกันของปี ค.ศ. 2013 ที่เคยอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์

"จากการแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟน เราพบว่าซัมซุงยังต้องพบกับสถานการณ์ที่ยากลำบากต่อไปในตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ เพราะคู่แข่งคือแอปเปิล ขณะที่เสี่ยวหมี่และหัวเว่ย (Huawei) นั้นแข่งกันในตลาดระดับกลาง" นักวิเคราะห์จากค่ายดังกล่าวเผย

นอกจากนี้ เสี่ยวหมี่ยังขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนยอดนิยมทั้งในตลาดจีน และอินเดียที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานมานี้อีกด้วย

สำหรับการทำตลาดในอินเดียนั้น รองประธานของเสี่ยวหมี่ในบังกาลอร์เผยว่า บริษัทมีแผนจะจำหน่ายให้ได้ 100,000 เครื่องต่อสัปดาห์ในเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งประเทศอินเดียมีการฉลองเทศกาลดิวาลี (Diwali) กัน

ด้านซัมซุง (Samsung) แบรนด์อันดับสองของโลกจากเกาหลีใต้ กลับเติบโตสวนทางกับเสี่ยวหมี่อย่างเห็นได้ชัด โดยในบรรดาท็อปไฟว์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอย่างแอปเปิล ซัมซุง เสี่ยวหมี่ เลอโนโว และแอลจี อิเล็กทรอนิกส์นั้น ทุกเจ้ามีรายงานผลประกอบการที่เติบโตขึ้นทั้งสิ้น เว้นแต่เพียงซัมซุงเท่านั้นที่มียอดขายลดต่ำลง

ผลประกอบการของซัมซุงเริ่มส่อท่าไม่ดีอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้นปี 2014 จากยอดขายของ Galaxy S5 ที่ไม่โชติช่วงชัชวาลเท่าที่ควร หลังเปิดตัวในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าเป็นเพราะผู้บริโภคต่างเฝ้ารอการเปิดตัวของแบรนด์ไอโฟนมากกว่านั่นเอง แถมซัมซุงยังโดนสมาร์ทโฟนแบรนด์ท้องถิ่นที่ผลิตโดยผู้ผลิตสัญชาติจีนและอินเดีย โจมตีด้วยสงครามราคาในตลาดของทั้งสองประเทศด้วย มากไปกว่านั้น แอปเปิลเองก็ยังมีโปรดักซ์สุดแกร่งที่ดึงส่วนแบ่งของซัมซุงในตลาดโลกไปได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้น ผลประกอบการของซัมซุงในไตรมาสนี้ยังถือเป็นไตรมาสที่ได้กำไรต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีอีกด้วย (นับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2012) โดยอยู่ที่ 4.2 ล้านล้านวอน หรือ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็ยังถือว่ามากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.7 ล้านล้านวอน

จากปัญหาต่าง ๆ ดังที่กล่าวมา จึงคาดได้ว่าในปีหน้า ตลาดสมาร์ทโฟนอาจได้เห็นการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ของซัมซุงที่จะเน้นเรื่องประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงอาจปรับลดโมเดลต่าง ๆ ให้มีน้อยลง เพื่อที่บริษัทจะได้โฟกัสการพัฒนาไปที่โปรดักซ์ที่เหมาะสมจริง ๆ อีกทั้งยังสามารถซื้อชิ้นส่วนต่าง ๆ ในราคาที่ถูกลงด้วย



ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 31 ตุลาคม 2557