ครม.ไฟเขียวงบกลางเพิ่มอีก 615 ล้านบาท
Posted: 04 Nov 2014, 17:44
ครม.ไฟเขียวงบกลางเพิ่มอีก 615 ล้านบาท
จ่ายชดเชยดอกเบี้ยเอกชนเก็บข้าวในสต๊อก หลังเอกชนขอเข้าร่วมโครงการทะลักจากเดิมกำหนดแค่ 2 ล้านตัน แต่แห่เข้ามาเพิ่มอีก 4 ล้านตัน ทำให้วงเงินเดิมไม่พอ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติวงเงินงบกลางประจำปี 58 เพิ่มเติมอีก 612 ล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่เก็บข้าวเปลือกในสต๊อกปี 57 ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอีก 4 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 2 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 315 ล้านบาท หลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดให้ผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย.57แล้วพบว่า มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก 34 จังหวัด 256 ราย คิดเป็นปริมาณถึง 6.2 ล้านตัน ซึ่งเกินเป้าหมายและวงเงินที่ตั้งไว้ จึงจำเป็นต้องขออนุมัติเพิ่ม
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่เห็นชอบแนวทางดังกล่าว เพราะเห็นว่า เนื่องจากมีผู้ประกอบการค้าข้าวสมัครเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมมาก ประกอบช่วงเวลาดังกล่าว ไทยยังกับประสบปัญหาการส่งออกข้าวไปทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะข้าวนึ่ง ซึ่งในปีที่ผ่านมาส่งออกไป 3.749 ล้านตัน
ขณะเดียวกันวงเงินเดิม 315 ล้านบาท นั้น ที่ผ่านมาที่ประชุมคสช.ได้เห็นชอบให้นำเงินเหลือจ่ายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ งบประมาณปี 57 โอนเปลี่ยนแปลงมาใช้ในโครงการดังกล่าวไปแล้ว โดยแยกเป็นค่าชดเชยดอกเบี้ย 3% วงเงิน 306 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด และกรมการค้าภายใน 9 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้อนุมัติเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าวแล้ว ส่วนวงเงินที่เสนอขอเพิ่มอีก 612 ล้านบาท จะใช้เงินจากเงินงบกลาง ประจำปี 58 ซึ่งรวมแล้วโครงการดังกล่าวจะใช้เงินรวมทั้งหมด 927 ล้านบาท
“โครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาข้าว และเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการในการเก็บข้าวไว้ในสต๊อก ซึ่งการดำเนินโครงการจากนี้ นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยสำนักงบประมาณ ได้ให้ความเห็นว่า ในการใช้เงินดำเนินโครงการขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบใช้เงินก้อนเดิม 315 ล้านบาท ให้หมดก่อนจากนั้นจึงค่อยมาใช้เงินก้อนใหม่ต่อไป”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557
จ่ายชดเชยดอกเบี้ยเอกชนเก็บข้าวในสต๊อก หลังเอกชนขอเข้าร่วมโครงการทะลักจากเดิมกำหนดแค่ 2 ล้านตัน แต่แห่เข้ามาเพิ่มอีก 4 ล้านตัน ทำให้วงเงินเดิมไม่พอ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติวงเงินงบกลางประจำปี 58 เพิ่มเติมอีก 612 ล้านบาท เพื่อชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่เก็บข้าวเปลือกในสต๊อกปี 57 ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นอีก 4 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 2 ล้านตัน คิดเป็นเงิน 315 ล้านบาท หลังจากกระทรวงพาณิชย์ได้เปิดให้ผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย.57แล้วพบว่า มีผู้สนใจเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก 34 จังหวัด 256 ราย คิดเป็นปริมาณถึง 6.2 ล้านตัน ซึ่งเกินเป้าหมายและวงเงินที่ตั้งไว้ จึงจำเป็นต้องขออนุมัติเพิ่ม
ทั้งนี้การดำเนินการดังกล่าว ถือเป็นไปตามมติของคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่เห็นชอบแนวทางดังกล่าว เพราะเห็นว่า เนื่องจากมีผู้ประกอบการค้าข้าวสมัครเข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเดิมมาก ประกอบช่วงเวลาดังกล่าว ไทยยังกับประสบปัญหาการส่งออกข้าวไปทวีปแอฟริกา โดยเฉพาะข้าวนึ่ง ซึ่งในปีที่ผ่านมาส่งออกไป 3.749 ล้านตัน
ขณะเดียวกันวงเงินเดิม 315 ล้านบาท นั้น ที่ผ่านมาที่ประชุมคสช.ได้เห็นชอบให้นำเงินเหลือจ่ายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ งบประมาณปี 57 โอนเปลี่ยนแปลงมาใช้ในโครงการดังกล่าวไปแล้ว โดยแยกเป็นค่าชดเชยดอกเบี้ย 3% วงเงิน 306 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด และกรมการค้าภายใน 9 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้อนุมัติเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าวแล้ว ส่วนวงเงินที่เสนอขอเพิ่มอีก 612 ล้านบาท จะใช้เงินจากเงินงบกลาง ประจำปี 58 ซึ่งรวมแล้วโครงการดังกล่าวจะใช้เงินรวมทั้งหมด 927 ล้านบาท
“โครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อรักษาเสถียรภาพของราคาข้าว และเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการในการเก็บข้าวไว้ในสต๊อก ซึ่งการดำเนินโครงการจากนี้ นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยสำนักงบประมาณ ได้ให้ความเห็นว่า ในการใช้เงินดำเนินโครงการขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบใช้เงินก้อนเดิม 315 ล้านบาท ให้หมดก่อนจากนั้นจึงค่อยมาใช้เงินก้อนใหม่ต่อไป”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557