Page 1 of 1

ONE's View‏ : มองการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมี Upside Gain หลั

Posted: 07 Nov 2014, 17:34
by brid.siriwan
ONE's View‏ : มองการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่นมี Upside Gain หลังทางการเร่งผลักดันหลายนโยบาย
ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ
Dr.win@one-asset.com

สวัสดีครับ วันนี้ผมขอกลับมาพูดถึงตลาดหุ้นญี่ปุ่นอีกครั้ง หลังข่าวการผ่อนคลายนโยบายการเงินเชิงปริมาณของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เพิ่มเติมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง BOJ ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ตลาดค่อนข้างมาก โดยในแง่ของทางเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่น่าจะผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปเรียบร้อยแล้ว และมีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะการฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 3/2557 เป็นต้นไป โดยจะเห็นได้จากตัวเลขยอดค้าปลีก ยอดส่งออก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้น ซึ่งจะทยอยผลักดันให้นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเริ่มกลับมามีความเชื่อมั่นและทยอยเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นญี่ปุ่น

สิ่งที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเพิ่มปริมาณเงินเข้ามาในระบบโดยการเพิ่มฐานเงินหรือเงินสดและเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ BOJ ในอัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี จากเดิมที่ 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี/เพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรรัฐบาล/เพิ่มวงเงินในโครงการซื้อกองทุน ETF และกองทุนเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ขึ้นอีก 3 เท่า ทำให้สภาพคล่องทางการเงินในระบบตลาดทุนยังมีอยู่ในระดับสูง ยังไม่รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งตลาดคาดว่าน่าจะมีมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านยูโรผ่านการซื้อสินทรัพย์ Asset Backed Security และ Covered Bond ในทุกสัปดาห์ ทำให้ผมมองว่าปัจจัยเหล่านี้จะยังช่วยสนับสนุนให้มีสภาพคล่องเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้เพิ่มเติมเช่นกัน

ขณะที่การอนุมัติให้กองทุนบำเหน็จบำนาญของญี่ปุ่น (GPIF) ให้ปรับสัดส่วนน้ำหนักการลงทุนหุ้นภายในประเทศได้เพิ่มขึ้นเป็น 25% จากเดิมที่ 12% และด้วยขนาดกองทุนของ GPIF ที่มีมูลค่าขนาดเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้คาดว่าจะมีเม็ดเงินจำนวนมากไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นได้ในช่วงถัดไปและจะผลักดันให้ดัชนีฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในทิศทางเดียวกัน

นอกจากนี้ ท่าทีของทางการญี่ปุ่นที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจลูกศรดอกที่ 3 ซึ่งเป็นที่คาดหมายของตลาดว่าน่าจะเริ่มมีการทยอยประกาศใช้บางมาตรการในช่วงต้นปี 2558 โดยเฉพาะมาตรการการปรับลดอัตราภาษีนิติบุคคลจากเดิม 36% มาที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยภูมิภาคที่ 25-30% ซึ่งคาดว่าหากมีการบังคับใช้แล้วนั้นน่าจะเป็นผลดีต่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในการผลักดันรายได้ของบริษัทจดทะเบียนฯ และทำให้มูลค่าหุ้นของญี่ปุ่นมีความน่าสนใจและดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนได้มากขึ้น

นอกเหนือจากการเร่งสร้างเขตการค้าพิเศษในเมืองต่างๆ และการเร่งสร้างแรงงานให้มีความชำนาญและการจ้างงานแรงงานต่างชาติ รวมทั้งผลักดันการจ้างงานแรงงานหญิงเพื่อสนับสนุนให้ประชากรมีรายได้และเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและบริษัทฯ ในท้ายที่สุด

สำหรับแนวโน้มทิศทางค่าเงินเยนคาดว่าน่าจะยังอ่อนค่าได้ต่อ จากแรงผลักดันของการดำเนินเครื่องมือทางการเงินของทางการญี่ปุ่นทั้งในส่วนของภาคการเงินและการคลังเพิ่มเติม โดยที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นผ่อนคลายนโยบายการเงินเชิงปริมาณเพิ่มเติมในช่วงปลายเดือน ต.ค. 57 ก็กดดันให้ค่าเงินเยนมีทิศทางอ่อนค่าลงอย่างเห็นได้ชัดจาก 107 เยนต่อดอลลาร์ มาที่ระดับ 114 เยนต่อดอลลาร์ และผลักดันให้ NIKKEI225 Index สามารถปรับตัวขึ้นได้กว่า 10% หลังประกาศมาตรการดังกล่าว ซึ่งผมคาดว่าจนถึงสิ้นปีนี้ค่าเงินเยนน่าจะมีโอกาสอ่อนค่าลงต่อแตะที่ระดับ 115 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งหากเป็นตามที่คาดการณ์แล้วนั้นก็จะช่วยสนับสนุนให้ดัชนี NIKKEI225 สามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อ และผลักดันให้หุ้นที่ได้รับอานิสงส์จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มส่งออกและยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าปรับตัวดีขึ้นตามจากความสามารถในการแข่งขันที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง

สำหรับกองทุนเปิด วรรณ เจแปน ฟันด์ (ONE-JAPAN) ในช่วงที่ผ่านมา ทางกองทุนฯ ได้มีการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหน่วยลงทุนประเภทกองทุน ETF เพื่อสร้างผลตอบแทนให้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับผลตอบแทนของดัชนี NIKKEI225 ส่วนหนึ่ง และกระจายการลงทุนบางส่วนโดยเน้น Stock Selection อาทิ หุ้นกลุ่มส่งออก ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการปรับเพิ่มของราคาหุ้น สำหรับนักลงทุนระยะกลางถึงยาว แนะนำว่ายังสามารถทยอยสะสมหุ้นญี่ปุ่นได้ในช่วงเวลานี้จากมุมมองเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ยังเติบโตได้และปัจจัยสนับสนุนข้างต้น ซึ่งหากนักลงทุนท่านใดสนใจการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นของ บลจ.วรรณ สามารถติดต่อสอบถามและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ฝ่ายการตลาด บลจ.วรรณ ที่เบอร์ 0-2659-8888 ต่อ 1 ครับ

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2557