มท.1ลั่นไม่ยอมให้มีกลุ่มเคลื่อนไหว

[brid.siriwan]

มท.1ลั่นไม่ยอมให้มีกลุ่มเคลื่อนไหว

'บิ๊กป๊อก' ย้ำการพิจารณาถอดถอน'สมศักดิ์-นิคม' ยึดกฎหมาย เชื่อนายกฯ ไม่ใช้ ม.44 ลั่นไม่ยอมให้มีกลุ่มเคลื่อนไหวแน่ พร้อมแจงไม่เอี่ยวบริษัทจัดอีเว้นท์

วันที่ 7 พ.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีสนช.มีมติรับพิจารณาถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์อดีตประธานรัฐสภา และนายนิคม ไวรัชพานิชย์ อดีตประธานวุฒิสภาว่า เท่าที่ตนดู เห็นว่าไม่มีการบังคับการลงคะแนนเสียงผลที่ออกมามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยใกล้เคียงกัน ซึ่งเป็นกลไกที่เป็นไปตามระบบกฎหมายตนมองว่า เป็นเรื่องดีที่ไม่มีการสั่งการให้รับหรือไม่รับ

“ถ้าลองถามสังคมว่า ตอนนี้รับ พวกหนึ่งจะออกมาพอวาระสามมติออกมาว่าไม่ผิด อีกพวกจะออกมาอีก จะเอาไงประเทศไทย ต้องยึดที่กฎหมายไม่มีทางเป็นอย่างอื่นไปได้ กฎหมายว่าอย่างไร ก็ต้องว่าตามนั้น อย่าเอาตามความพอใจว่าถ้าไม่รับจะมีคนมาประท้วง ผมคิดว่าบ้านเมืองมันเดินไม่ได้”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว และว่า สำหรับเรื่องการนำมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557มาใช้นั้น ตนคิดว่า นายกรัฐมนตรีคงจะไม่นำมาใช้ อย่าให้ตนตอบแทนนายกฯ เลยส่วนจะเหมาะสมหรือไม่ ตนไม่ทราบ รู้เพียงว่า ประเทศชาติต้องสงบ ปฏิรูปให้ได้เพราะเศรษฐกิจโลกแย่ เศรษฐกิจเราก็แย่ มีเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาเต็มไปหมดรอให้สงบไปก่อน พยายามจัดการเลือกตั้งให้ได้ ทำให้เป็นเหมือนเดิมให้ได้ดีกว่าประเทศจึงจะเดินหน้าต่อไปได้

“ผมทราบจากนายกฯ ว่าถ้ามีกลุ่มออกมาเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ท่านไม่ยอมแน่จะเห็นไม่ตรงกันก็ไม่เป็นไร รัฐบาลก็ไม่ไปยุ่ง จะออกเสียงอย่างไรก็ได้แต่ต้องอยู่ในกฎหมาย จะเอาคนออกมาถนน มาขัดแย้งกันไม่เอา ถ้าออกมากลุ่มเล็ก ๆเพียงแค่แสดงความคิดเห็นคงไม่เป็นไร แต่ถ้าออกมาเย้ว ๆ คงไม่ได้ ส่วนเรื่องคลื่นใต้น้ำผมยังไม่เห็น ”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

พล.อ.อนุพงษ์ ยังได้กล่าวชี้แจงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทรับจัดอีเว้นท์งานคืนความสุขว่า มีสื่อบางฉบับลงว่าบริษัท พฤกษพรรณพัฒนา จำกัด เป็นบริษัทรับจัดอีเวนท์ ในความจริงเป็นเพียงบริษัทรับเหมาก่อสร้างเท่านั้นส่วนที่มีข้อสงสัยว่า ตนเป็นกรรมการบริษัท พฤกษพรรณ พัฒนา จำกัดน่าจะรู้จักกับนายชาญชัย พาณิชยารมณ์ ซึ่งเป็นกรรมการเช่นเดียวกัน และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทจัดอีเวนท์นั้น ด้วยความสัตย์จริงตนไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้าเลย ตนไปเป็นเพียงกรรมการบอร์ด อยากศึกษางานก่อสร้าง ยืนยันว่า ได้รายงานป.ป.ช.ทุกเรื่องไม่มีอะไรปิดบัง อย่างไรก็ตาม ตนชอบให้คนมาคอยกำกับนักการเมือง แต่ทำไมที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวจึงไม่กำกับตรวจสอบให้ดีโดยเฉพาะโครงการที่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย

“ ที่สำคัญง่าย ๆ เรื่องนี้ดำเนินคดีเลยไม่ใช่บอกว่าท่าทางคนนี้ไปขโมยของเขามา อย่างนี้ผมเป็นจำเลย มันไม่แฟร์กับผมไปบอกป.ป.ช. สตง. ตรวจสอบ อย่างนี้จะแฟร์กว่า ” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2557