“ณรงค์ชัย” รอปรับแอลพีจีหลังปีใหม่
Posted: 12 Nov 2014, 09:12
“ณรงค์ชัย” รอปรับแอลพีจีหลังปีใหม่
รับปรับแอลพีจีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ต้องรอหลังปีใหม่ เหตุหวั่นกระทบกับค่าครองชีพประชาชน พร้อมหนุนขึ้นภาษีดีเซล 4 บาทต่อลิตร ช่วยเพิ่มรายได้รัฐ
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า แนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาะในส่วนของราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ที่ขณะนี้ส่วนของภาคครัวเรือน และขนส่ง เป็นราคาเดียวกันแล้วที่ 22.63 บาทต่อกิโลกรัม และมีนโยบายที่จะปรับให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงนั้น คงต้องรอไปพิจารณาในช่วงหลังปีใหม่ เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพของประชาชนในปัจจุบัน
“รัฐบาลมีนโยบายปรับราคาพลังงานทุกชนิดให้สมเหตุผล คือ ทั้งขึ้นทั้งลง ลงนั้นง่าย ขึ้นสิยาก จึงต้องคอยจังหวะเวลา พอดีตอนนี้ใกล้ปีใหม่ ไม่อยากทำอะไรให้ประชาชนทุกข์ใจ ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มลดลง จึงได้ทยอยลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสะสมได้ระดับหนึ่งจนฐานะเป็นบวก"
ทั้งนี้ ไทยต้องปรับระบบด้านพลังงานเพื่อความยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับราคาพลังงาน ที่ขณะเริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลที่เก็บภาษีน้อยมาก ทำให้ต้องปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงการคลังเห็นด้วย โดยจะเสนอภาษีน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 4 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น 240 ล้านบาทต่อวัน หรือ 80,000 ล้านบาทต่อปี เป็นต้น
นอกจากนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีด้านพลังงานให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากในระยะต่อไปประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าดับ เพราะโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ไม่มีเพียงพอ โดยจะสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่
สำหรับพื้นที่แหล่งผลิตพลังงานมีอยู่อย่างจำกัด เพราะที่ผ่านมาไม่ได้สำรวจเพิ่ม เนื่องจากโดนต่อต้านจากประชาชน ทำให้ต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ที่มีราคาแพงกว่าในประเทศกว่า 50-100% ซึ่งปัจจัยในส่วนนี้จะส่งผลให้ในระยะยาว ประชาชนจะต้องเจอภาวะราคาพลังงาน ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินฐานะที่คนไทยจะรับได้ และระบบการบริหารพลังงานยังไม่ได้รับความไว้วางใจ เพราะประชาชนยังเห็นว่ายังไม่มีความเป็นกลาง
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า แนวคิดการปรับขึ้นภาษีน้ำมันว่า เป็นนโยบายของกระทรวงพลังงานที่สามารถทำได้ทันที โดยกระทรวงคลัง ไม่มีส่วนในการตัดสินใจในเรื่องนี้ ที่ผ่านมารมว.พลังงาน พูดเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าหากปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจริง จะเป็นผลดีต่อกระทรวงการคลังในแง่รายได้ที่เพิ่มขึ้น การจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้น ส่วนหนึ่งจะสะท้อนราคาที่แท้จริง โดยเฉพาะในส่วนดีเซล แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้เห็นภายในปลายปีนี้ อาจเป็นต้นปีหน้า
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2557
รับปรับแอลพีจีให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ต้องรอหลังปีใหม่ เหตุหวั่นกระทบกับค่าครองชีพประชาชน พร้อมหนุนขึ้นภาษีดีเซล 4 บาทต่อลิตร ช่วยเพิ่มรายได้รัฐ
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า แนวทางการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาะในส่วนของราคาแอลพีจี (ก๊าซหุงต้ม) ที่ขณะนี้ส่วนของภาคครัวเรือน และขนส่ง เป็นราคาเดียวกันแล้วที่ 22.63 บาทต่อกิโลกรัม และมีนโยบายที่จะปรับให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงนั้น คงต้องรอไปพิจารณาในช่วงหลังปีใหม่ เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพของประชาชนในปัจจุบัน
“รัฐบาลมีนโยบายปรับราคาพลังงานทุกชนิดให้สมเหตุผล คือ ทั้งขึ้นทั้งลง ลงนั้นง่าย ขึ้นสิยาก จึงต้องคอยจังหวะเวลา พอดีตอนนี้ใกล้ปีใหม่ ไม่อยากทำอะไรให้ประชาชนทุกข์ใจ ประกอบกับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเริ่มลดลง จึงได้ทยอยลดการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสะสมได้ระดับหนึ่งจนฐานะเป็นบวก"
ทั้งนี้ ไทยต้องปรับระบบด้านพลังงานเพื่อความยั่งยืน โดยเฉพาะการปรับราคาพลังงาน ที่ขณะเริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว แต่ปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลที่เก็บภาษีน้อยมาก ทำให้ต้องปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งกระทรวงการคลังเห็นด้วย โดยจะเสนอภาษีน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นเป็น 4 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ภาครัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น 240 ล้านบาทต่อวัน หรือ 80,000 ล้านบาทต่อปี เป็นต้น
นอกจากนี้ จะเพิ่มประสิทธิภาพเทคโนโลยีด้านพลังงานให้มีความทันสมัยมากขึ้น ทั้งการผลิตไฟฟ้า เนื่องจากในระยะต่อไปประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าดับ เพราะโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ไม่มีเพียงพอ โดยจะสร้างโรงงานไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีการคัดค้านจากประชาชนในพื้นที่
สำหรับพื้นที่แหล่งผลิตพลังงานมีอยู่อย่างจำกัด เพราะที่ผ่านมาไม่ได้สำรวจเพิ่ม เนื่องจากโดนต่อต้านจากประชาชน ทำให้ต้องมีการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ที่มีราคาแพงกว่าในประเทศกว่า 50-100% ซึ่งปัจจัยในส่วนนี้จะส่งผลให้ในระยะยาว ประชาชนจะต้องเจอภาวะราคาพลังงาน ปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว เกินฐานะที่คนไทยจะรับได้ และระบบการบริหารพลังงานยังไม่ได้รับความไว้วางใจ เพราะประชาชนยังเห็นว่ายังไม่มีความเป็นกลาง
นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวว่า แนวคิดการปรับขึ้นภาษีน้ำมันว่า เป็นนโยบายของกระทรวงพลังงานที่สามารถทำได้ทันที โดยกระทรวงคลัง ไม่มีส่วนในการตัดสินใจในเรื่องนี้ ที่ผ่านมารมว.พลังงาน พูดเรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าหากปรับขึ้นภาษีดังกล่าวจริง จะเป็นผลดีต่อกระทรวงการคลังในแง่รายได้ที่เพิ่มขึ้น การจัดเก็บภาษีที่สูงขึ้น ส่วนหนึ่งจะสะท้อนราคาที่แท้จริง โดยเฉพาะในส่วนดีเซล แต่ทั้งนี้ยังไม่ได้เห็นภายในปลายปีนี้ อาจเป็นต้นปีหน้า
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2557