ดับฝันเกษตรกรปีหน้าราคาสินค้าเกษตรตกแน่!

Post Reply
brid.siriwan
Posts: 3942
Joined: 05 Apr 2013, 08:47

ดับฝันเกษตรกรปีหน้าราคาสินค้าเกษตรตกแน่!

Post by brid.siriwan »

ดับฝันเกษตรกรปีหน้าราคาสินค้าเกษตรตกแน่!

เผยผลพวงจากดอลล่าร์แข็งค่า พาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะยางพารา ทำให้เกษตรกรรายได้หด ส่วนส่งออกเชื่อดีขึ้นแต่ไม่โตมาก

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการบริหารสถาบันอนาคตไทยศึกษา เปิดเผยในงานสัมมาทิศทางเศรษฐกิจไทย ปี 58 เรื่องอนาคตเศรษฐกิจไทย ก้าวต่อไป จัดโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ ว่า เศรษฐกิจไทยปี 58 จะเผชิญปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำอย่างแน่นอน โดยเฉพาะยางพารา เพราะได้รับผลกระทบจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของเกษตรกรไทย ขณะเดียวกัน ภาคการส่งออก แม้ว่า จะปรับตัวดีขึ้นจากปี 57 แต่ก็เพิ่มขึ้นไม่มาก หรืออยู่ที่ 4% ส่วนสิ่งที่ต้องจับตาในปีหน้า คงต้องพิจารณาถึงรายจ่ายการลงทุนภาครัฐจะขยายตัวมากน้อยเพียงใด เช่นเดียวกันสถานการณ์ท่องเที่ยวว่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าปีนี้หรือไม่

ทั้งนี้สิ่งที่รัฐควรต้องเร่งแก้ไข ควรต้องโฟกัสไปในสิ่งที่จำเป็นเร่งด่วน โดยจัดลำดับความสำคัญของนโยบายที่ต้องทำเร่งด่วนและต้องทำให้สำเร็จก่อน 2-3 เรื่อง เช่น แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในภาคการเกษตร โดยเน้นเพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมทั้งเร่งการลงทุนภาครัฐ และเอกชนมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา ระดับการลงทุนของไทยยังไม่สูง หากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ควบคู่กับการปรับปรุงระบบการศึกษา จากเดิมที่เน้นปริมาณมาเป็นเน้นประสิทธิภาพ เช่น สาขาคอมพิวเตอร์ที่ผ่านมาได้รับความนิยมมากสุด มีผู้เรียนจบในสาขาดังกล่าวเฉลี่ยปีละ 11,000 คน แต่ก็มีคนตกงานมากที่สุด เพราะไม่มีคุณภาพ และบางส่วนจบมาก็ทำงานได้แค่เป็นเสมียนเท่านั้น

“ที่ผ่านมา แม้เศรษฐกิจไทยจะเจอวิกฤตแต่ก็ไม่ได้ดิ่งลงมาก เพราะตัวแปรต่าง ๆ ยังเข้มแข็ง เช่น ภาระหนี้ยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งเป็นตัวสะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยยังมีเสถียรภาพอยู่ แต่ก็คงโตได้แค่นี้ ไม่สูงกว่านี้แล้ว และหากมองย้อนไปถึงนโยบายของรัฐที่ผ่านมาทุกรัฐบาล ก็เน้นแต่ด้านอุปสงค์ ลดแลกแจกแถม แจกหมด ทั้งแท็บเลต รถคันแรก เช็คช่วยชาติ ไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้ที่ผ่านมาเศรษฐกิจฟื้นได้ไม่เต็มที่ ซึ่งปีหน้า เชื่อว่ายังไงก็ดีกว่าปีนี้ แต่ก็คงโตได้ 4% ตามที่หลายหน่วยงานคาดการณ์ไว้”

นายเศรษฐพุฒิ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจไทย คือ ประชากรของไทยที่อยู่ในภาคการเกษตรย้ายออกไปอยู่ในภาคบริการเพิ่มขึ้น แทนที่จะย้ายไปภาคอุตสาหกรรม ที่มีรายได้สูงกว่า และช่วยสร้างประสิทธิภาพแรงงานมากกว่า ขณะเดียวกันผู้ที่อยู่ในภาคการเกษตรที่ไม่ได้ย้ายออกส่วนหนึ่งก็เกิด จากนโยบายรัฐที่สร้างแรงจูงใจให้คนอยู่ในภาคการเกษตร เช่น นโยบายจำนำข้าว

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายวิจัยธุรกิจหลังทรัพย์ บริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างหนึ่งของไทยคือ พึ่งพาการส่งออกถึง 70% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) แม้ว่าในอดีตก่อนที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจไทยมีสัดส่วนการส่งออกเพียง 30% เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันก็เห็นชัดแล้วว่า มีปัญหาอย่างไร ดังนั้นนโยบายของรัฐควรจะต้องโฟกัสให้ชัดเจนว่า จะเดินหน้าต่อไปอย่างนี้ หรือหาแนวทางอื่น ที่นอกเหนือจากการส่งออกมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจแทน

ทั้งนี้สิ่งที่รัฐบาลต้องทำต่อจากนี้ ควรมองให้เห็นถึงแนวทางการสร้างโอกาส มากว่าเน้นเรื่องการสร้างรายได้ ความคู่กับการลดความเหลื่อมล้ำ และการสนับสนุนให้เด็กเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง ส่วนเรื่องของคอร์รัปชั่น ก็ต้องสร้างจิตสำนึก เพราะปัจจุบันเรื่องดังกล่าวมีแนวโน้มแรงรุนขึ้นต่อเนื่อง

“ประเทศไทยขณะนี้ เป็นฐานการผลิตให้บริษัทข้ามชาติ เช่น ญี่ปุ่น ที่เห็นว่าไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) ส่วนหนึ่งของญี่ปุ่นในการผลิตรถยนต์ ต่อไปเราจึงต้องมาโฟกัสว่า เราจะอยู่อย่างนี้ต่อไปหรือไม่ โดยอาจมองถึงภาคการเกษตร จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพทางการผลิตอย่างไรให้มีคุณภาพ เพราะเดิมภาคการเกษตรมีสัดส่วนเพียง 10% ต่อจีดีพี จะเพิ่มเป็น 30-50% หรือจะเน้นภาคอุตสาหกรรมต่อไป ซึ่งก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมีนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น พื้นที่เพิ่มขึ้น และใช้พลังงานเพิ่มขึ้น หรือจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งแนวทางทั้งหมดเราต้องกำหนดเป็นพื้นฐานไว้ว่า เราจะหากินอย่างไรให้ลูกหลานเรารวยกว่าเรา”

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”