Page 1 of 1

ขู่ห้ามขึ้นราคาจานด่วน

Posted: 12 Nov 2014, 09:30
by brid.siriwan
ขู่ห้ามขึ้นราคาจานด่วน

กรมการค้าภายในขู่ใช้กฎหมายบังคับร้านค้าขึ้นจานด่วน ยันหากไม่ให้ความร่วมมือเจอโทษจับปรับแน่

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมการจำหน่ายร้านอาหารปรุงสำเร็จ ที่ร้านข้าวแกงปักษ์ใต้ จ.นนทบุรี ว่า ขณะนี้กรมฯได้ติดตามราคาอาหารปรุงสำเร็จอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเขตชุมชน ซึ่งจากการลงพื้นที่สอบถามผู้ประกอบการร้านอาหาร ยอมรับว่าการขึ้นราคาแก๊สหุงต้มในทุกเดือนที่ผ่านมา มีผลกระทบต่อราคาอาหารจริง แต่ร้านค้าส่วนใหญ่ยังสามารถขายอาหารในราคาเดิมได้ ซึ่งภาพรวมราคาอาหารยังอยู่ที่จานละ 30 บาท ถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์ของกระทรวงพาณิชย์

อย่างไรก็ตามกรมฯ ไม่ต้องการเข้าไปบังคับใช้กฎหมาย หรือเข้าไปควบคุมผู้ประกอบการ ร้านค้าต่าง ๆ ไม่ให้ขายอาหารจานด่วนแพงเกินความจริง แต่หากพบการกระทำที่เข้าข่ายการฉวยโอกาสต่อผู้บริโภค ก็ต้องใช้มาตรการ ขั้นแรก คือตักเตือน และให้แก้ไขก่อน แต่หากยังไม่ยอมให้ความร่วมมือ ก็จำเป็นต้องใช้กฎหมายเข้ามาช่วย ซึ่งมีโทษ ปรับไม่เกิน 140,000บาท จำคุก 7 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการไม่ปิดป้ายแสดงราคาสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท

“ปัจจุบันผู้ประกอบการระบุว่าซื้อแก๊สหุงต้มถัง 15 กก. ในราคา 360 บาท โดยแก๊ส 1 ถัง สามารถทำอาหารได้เฉลี่ย 300 จาน ซึ่งกรมฯ ได้วิเคราะห์แล้วว่าการขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม 1 บาทต่อกก. จะกระทบราคาอาหาร 3-5 สต.ต่อจานเท่านั้น ดังนั้นจึงอยากขอความร่วมมือว่าไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างในการขึ้นราคาอาหาร”

สำหรับเรื่องของการที่จะปรับโครงสร้างพลังงานนั้น ยอมรับว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้า อาหาร โดยเฉพาะการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ที่จะกระทบกับต้นทุนภาคการขนส่ง เนื่องจากรถบรรทุกสินค้าส่วนใหญ่กว่า 96%ใช้น้ำมันดีเซล

ทั้งนี้ช่วงเดือน ต.ค. 57 ที่ผ่านมา มีผู้บริโภคร้องเรียนเฉพาะเรื่องอาหารปรุงสำเร็จแพงเข้ามา12 ราย และตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. มีผู้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวมา 198 ราย ซึ่งเมื่อเทียบกับปีก่อน ถือว่าอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน โดยกรมฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และแต่ละวันได้ส่งสายตรวจ 10 สาย ออกตรวจอยู่ประจำทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดก็มีเจ้าหน้าที่นออกตรวจอยู่ต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบดูแล ป้องกันการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาอาหาร หรือขายอาหารในราคาที่แพงเกินจริง หากพบว่าราคาไม่สอดคล้องกับต้นทุน เข้าข่ายการความผิด ก็จะมีมาตรการจัดการ ขั้นแรกจะเป็นการตักเตือน เพื่อให้แก้ไข แต่หากไม่ปฏิบัติตามก็จำเป็นต้องใช้มาตรการทางกฎหมายเข้าจัดการ ซึ่งจะมีความผิด ทั้งทางแพ่งและอาญา

อย่างไรก็ตามกรมฯ ต้องการสร้างทางเลือกให้ผู้ประกอบการ โดยการเข้าร่วมโครงการหนูณิชย์พาชิม ที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะสามารถซื้อวัตถุดิบ เช่น น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ซอสปรุงรส ข้าวสาร เป็นต้น ได้ในราคาที่ถูกว่าท้องตลาด อีกทั้งยังซื้อแก๊สได้ในราคาถังละ 280 บาทต่อถัง 15 กก.(10 ถังต่อเดือน)ได้เนื่องจากเป็นการร่วมมือกันของโครงการฯ และกระทรวงพลังงาน ทั้งนี้ปัจจุบันมีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการหนูณิชย์พาชิมแล้ว 2,019 รายทั่วประเทศ ขณะเดียวกันกรมฯ ได้จัดทำเว็บไซต์www.noonid.dit.go.thขึ้นเพื่อช่วยโปรโมตร้านอาหารในโครงการฯ และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2557