เอ็นซีแอลเปิดเทรดวันแรกพุ่ง200%
Posted: 12 Nov 2014, 09:41
เอ็นซีแอลเปิดเทรดวันแรกพุ่ง200%
เทรดวันแรกชนซิลลิ่ง นักลงทุนตอบรับหนาแน่น ตั้งเป้าหมายโต 20-30% 3ปีข้างหน้า เร่งระดมทุนขยายโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ
นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า หลังการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอวันแรก ปรากฎว่า ราคาเปิดการซื้อขายอยู่ที่ 5.40 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาจองซื้อที่ 1.80 บาท หรือ 200% เนื่องจากนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี จากความเชื่อมั่นทิศทางการเติบโตที่แข็งแกร่ง เป็นไปตามความคาดหวังของบริษัท โดยตั้งเป้าหมายเติบโตเฉลี่ย 20-30% ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ จากการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติม
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น จะนำไปลงทุนซื้อรถบรรทุกหัวลาก-หางลาก, ชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นในอนาคต ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจาเพื่อตั้งสำนักงานในประเทศสิงคโปร์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปีหน้า
“อย่างไรก็ดี รายได้ในปีนี้ อาจไม่เติบโตเพิ่มขึ้นเทียบเท่าปีก่อน ที่มีรายได้ 935 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น ต่ำกว่าที่คาดไว้ จากผลกระทบสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การบริโภค การลงทุนชะลอตัวลง ซึ่งส่งผล กระทบต่อธุรกิจของบริษัทพอสมควร”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2557
เทรดวันแรกชนซิลลิ่ง นักลงทุนตอบรับหนาแน่น ตั้งเป้าหมายโต 20-30% 3ปีข้างหน้า เร่งระดมทุนขยายโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ
นายกิตติ พัวถาวรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร เปิดเผยว่า หลังการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอวันแรก ปรากฎว่า ราคาเปิดการซื้อขายอยู่ที่ 5.40 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาจองซื้อที่ 1.80 บาท หรือ 200% เนื่องจากนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี จากความเชื่อมั่นทิศทางการเติบโตที่แข็งแกร่ง เป็นไปตามความคาดหวังของบริษัท โดยตั้งเป้าหมายเติบโตเฉลี่ย 20-30% ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ จากการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจเพิ่มเติม
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนนั้น จะนำไปลงทุนซื้อรถบรรทุกหัวลาก-หางลาก, ชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และมั่นในอนาคต ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจาเพื่อตั้งสำนักงานในประเทศสิงคโปร์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงต้นปีหน้า
“อย่างไรก็ดี รายได้ในปีนี้ อาจไม่เติบโตเพิ่มขึ้นเทียบเท่าปีก่อน ที่มีรายได้ 935 ล้านบาท เนื่องจากผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมานั้น ต่ำกว่าที่คาดไว้ จากผลกระทบสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้การบริโภค การลงทุนชะลอตัวลง ซึ่งส่งผล กระทบต่อธุรกิจของบริษัทพอสมควร”
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2557