สหรัฐฯ เล็งย้ายโรงงานผลิตรองเท้ามาเวียดนาม หวังใช้ประโยชน์ข้

[brid.siriwan]

สหรัฐฯ เล็งย้ายโรงงานผลิตรองเท้ามาเวียดนาม หวังใช้ประโยชน์ข้อตกลง TPP

พนักงานทำงานอยู่ในสายผลิตของโรงงานผลิตรองเท้าแห่งหนึ่งในนครโฮจิมินห์ ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าอุตสาหกรรมรองเท้าของเวียดนามมีโอกาสในการขยายตัวสูงมาก โดยเฉพาะหลังจากข้อตกลง TPP มีผลบังคับใช้.-- Photo/Thanhnien News/Diep Duc Minh.

แถ่งเนียน - ข้อตกลงการค้าเสรีที่กำลังอยู่ในการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ อีก 11 ประเทศ จะนำโอกาสทางธุรกิจมาสู่อุตสาหกรรมรองเท้าของเวียดนาม ผู้เชี่ยวชาญระบุในการประชุมที่นครโฮจิมินห์วานนี้ (10)

โอกาสในการขยายอุตสาหกรรมรองเท้าของเวียดนามจะมีขนาดใหญ่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) มีผลบังคับใช้ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวในการประชุมที่จัดขึ้นร่วมกันระหว่างสมาคมเครื่องหนัง รองเท้า และกระเป๋าถือของเวียดนาม (Lefaso) และผู้ค้า และจัดจำหน่ายรองเท้าอเมริกา (FDRA)

ตัวแทนธุรกิจที่เข้าร่วมในการประชุมกล่าวว่า เวียดนามจะกลายเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาค เนื่องจากมีบริษัทจำนวนมากที่มีแนวโน้มจะมุ่งหน้ามาเวียดนาม เพราะ TPP จะลดอัตราภาษีการส่งออกของเวียดนามไปยังสหรัฐฯ เกือบ 0%

ตัวแทนจากบริษัท Ever Rite International กล่าวว่า แรกเริ่มบริษัทตั้งกิจการในไต้หวัน เมื่อปี 2516 ต่อมา ย้ายไปผลิตในจีน แต่ประสบต่อความผันผวนของค่าเงินหยวน ทำให้ต้องย้ายการผลิตไปที่อินโดนีเซีย และเมื่อเดือน ก.ย.2556 ที่ผ่านมา บริษัทเข้ามาตั้งกิจการในเวียดนาม ที่ในเวลานี้มีสายการผลิต 57 สาย และมีแผนที่จะขยายกิจการอีกในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากค่าเงินของเวียดนามมีเสถียรภาพ รวมทั้งค่าแรงในเวียดนามคิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 38 ของค่าแรงในจีน

สก็อต โทมัส จากบริษัท Wolverine Worldwide กล่าวว่า บริษัทของเขากำลังย้ายจากจีนมาเวียดนาม โดยวัตถุดิบในการผลิตร้อยละ 75 มาจากจีน แต่จะปรับลดลงเหลือแค่ร้อยละ 33 ภายในปี 2563 และส่วนที่เหลือจะเป็นวัตถุดิบของเวียดนาม

อุตสหากรรมผลิตและตัดเย็บรองเท้า ถือเป็นอุตสาหกรรมส่งออกที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเวียดนาม ในแง่ของรายได้ และในปี 2556 อุตสาหกรรมนี้ทำรายได้ให้แก่ประเทศ 8,500 ล้านดอลลาร์ ภาคส่วนนี้มีการจ้างงานมากกว่า 1.1 ล้านคน ทั้งทางตรง และที่เป็นส่วนสนับสนุนการผลิตรองเท้ากว่า 800 ล้านคู่ต่อปี

รองประธาน Lefaso กล่าวว่า อุตสหากรรมรองเท้าของเวียดนามจำเป็นที่จะต้องพัฒนาวัตถุดิบพื้นฐานในการผลิตให้ดีขึ้นกว่านี้ รวมทั้งทักษะทางธุรกิจเพื่อใช้ประโยชน์ให้เต็มที่จาก TPP.

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2557