ธปท.ไม่ห่วงสภาพตลาดเงิน

[brid.siriwan]

ธปท.ไม่ห่วงสภาพตลาดเงิน

ธปท.มั่นใจ บริหารจัดการตลาดเงินได้ หลังรัฐออกพันธบัตรล้างหนี้ให้โครงการรับจำนำข้าว โดยไม่มีผลต่อดอกเบี้ย เดินหน้าดูแลธนาคารของรัฐทั้ง 8 แห่ง

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงแผนการออกพันธบัตรล้างหนี้ ในโครงการรับจำนำข้าว ของกระทรวงการคลังในปีหน้าว่า การออกพันธบัตรดังกล่าวนั้น เห็นว่าจะต้องให้กระจายอายุของพันธบัตรออกไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบตลาดการเงินและระดับหนี้สาธารณะที่จะเพิ่มขึ้น ส่วนวงเงินการออกพันธบัตร ที่จะนำมาใช้ล้างหนี้ในโครงการดังกล่าวนั้น ไม่ว่ากระทรวงการคลังจะออกพันธบัตรวงเงินเท่าใด ธปท. ยังมั่นใจว่า จะสามารถบริหารจัดการ ไม่ให้กระทบกับอัตราดอกเบี้ย และสภาพคล่องในตลาดการเงิน รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อได้

สำหรับกรณีที่นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง จะตั้งงบประมาณขาดดุลในปีต่อไป เพราะมีภาระต้องคืนหนี้ให้โครงการรับจำนำข้าวนั้นเห็นว่าหากตั้งงบขาดดุลไม่เกิน 2% ต่อจีดีพี ถือว่ายังอยู่ในระดับที่รับได้ แต่อนาคต ต้องคำนึงถึงการจัดเก็บรายได้รัฐเพราะปัจจุบัน ฐานยอดการจัดเก็บรายได้ เมื่อเทียบกับจีดีพี ยังถือว่าต่ำ เนื่องจากฐานการจัดเก็บแคบ และประเภทภาษีมีน้อย ขณะที่ด้านรายจ่าย มีภาระด้านงบประจำสูงมาก ส่วนงบลงทุนมีน้อย

ด้านนายนายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับสถาบันการเงิน ธปท.กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลัง มีแนวคิดให้ธปท.เข้ามากำกับดูแลสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 8 แห่ง ว่า ที่ผ่านมา ธปท.ทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงาน ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ไป ต้องดูขอบเขตอำนาจว่า ธปท.มีมากขึ้นเพียงใด โดยอาจต้องแก้ไขข้อกฎหมาย เพื่อให้การดูแลการดำเนินธุรกิจเหมาะสม และสอดคล้องกับนโยบายการจัดตั้งของธนาคารเหล่านั้นขึ้นมา

ส่วนการดำเนินงานตามโครงการของรัฐบาลนั้น เห็นว่าจะต้องแยกบัญชีออกมาต่างหาก (พีเอสไอ) จากการดำเนินธุรกิจทั่วไปของธนาคาร เหมือนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่แยกบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ออกจากการดำเนินธุรกิจทั่วไปของธนาคาร เพื่อให้เกิดความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากการดำเนินงานโครงการของรัฐบาลบางโครงการนั้น อาจมีผลการเนินงานติดลบ จึงควรแยกบัญชีให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้กระทบต่อภาระทางการเงินของธนาคาร

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2557