ซื้อของตลาดนัดระวัง! “พาณิชย์” ออกคำเตือนของปลอมอื้อ ทั้งซีอ

[brid.siriwan]

ซื้อของตลาดนัดระวัง! “พาณิชย์” ออกคำเตือนของปลอมอื้อ ทั้งซีอิ๊ว น้ำปลา สบู่ แชมพู ผงซักฟอก
“พาณิชย์” เตือนภัยซื้อสินค้าตลาดนัด ตลาดทั่วไป ระวังเจอดี หลังพบซีอิ๊ว น้ำปลา ซอสปรุงรส สบู แชมพู ผงซักฟอก ปลอมอื้อ โดยใช้บรรจุภัณฑ์แท้นำมาล้างน้ำใส่ของปลอมเข้าไป เผยอย่าซื้อเพราะถูก ต้องตรวจสอบให้ดี ระวังนำไปใช้แล้วไม่ปลอดภัย ด้าน “มาลี” สั่งเดินหน้าปราบของก๊อบปี้ พร้อมเร่งเคลียร์คำขอจดทะเบียนคั่งค้าง และลดระยะเวลาจดทะเบียน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้รายงานว่าได้ตรวจสอบพบสินค้าอุปโภคบริโภค และของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ซีออ๊ว น้ำปลา ซอสปรุงรส สบู แชมพู ผงซักฟอก จำนวนมากมีการปลอมแปลงสินค้าภายใน แต่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีเครื่องหมายทางการค้าถูกต้องตามกฎหมาย แล้วนำมาจำหน่ายในตลาดนัด และตลาดทั่วไปจนสร้างความเดือดร้อนแก่เจ้าของสินค้าตัวจริง เพราะได้ขายในราคาถูกกว่าปกติเป็นอย่างมาก โดยอ้างว่า เป็นการจัดโปรโมชันลดราคา

ทั้งนี้ วิธีการปลอมแปลง ก็คือ กลุ่มพ่อค้าจะไปกว้านซื้อขวด หรือบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วจากคนเก็บขยะ หรือร้านขายของเก่า และนำมาบรรจุใหม่ แต่สินค้าข้างในขวดเป็นของปลอม หรือบางสินค้าก็ทำบรรจุภัณฑ์ปลอมขึ้นมาเลย เช่น น้ำปลา ที่ปลอมทั้งขวด ทั้งฉลาก

“ที่ผ่านมา กรมฯ และตำรวจได้มีการจับกุมกรณีดังกล่าวหลายคดีแล้ว แต่ก็ยอมรับว่าหลายๆ ครั้ง เจ้าของสินค้าตัวจริงไม่กล้าที่จะให้ข่าว เพราะกังวลว่าผู้บริโภคจะเกิดความสนสับ แต่กรมฯ จะร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกวาดล้างของผิดกฎหมายต่อไป เพราะไม่ปลอดภัยต่อการใช้ และการบริโภค โดยเฉพาะพวกซอสปรุงรสต่างๆ โดยการเลียนแบบสินค้าทำได้เก่งมาก บางครั้งผู้บริโภคคาดไม่ถึง กลุ่มที่ไม่ได้เป็นแฟนคลับของสินค้ายี่ห้อนั้นจริงๆ คงแยกแยะไม่ได้” รายงานข่าวระบุ

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า กรมฯ ได้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และได้เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ โดยได้ประสานกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการออกจับกุม เพราะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และเจ้าของแบรนด์สินค้าได้รับความเสียหาย ซึ่งกรมฯ ขอเตือนไปยังผู้บริโภคขอให้ตรวจสอบสินค้าให้ดีก่อนที่จะซื้อ อย่าหวังแค่สินค้าราคาถูก เพราะอาจเป็นอันตรายในการใช้

ส่วนการดำเนินการจับกุมสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา กรมฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบ และออกจับกุมอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะพื้นที่เป้าหมายที่มีการละเมิดมาก และพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่พบการจำหน่ายสินค้าละเมิดเป็นจำนวนมาก ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา โทรศัพท์มือปลอม เนื่องจากสร้างความเดือนร้อนต่อผู้ผลิตสินค้าตัวจริง และยังทำลายชื่อเสียงของประเทศ

นางมาลี กล่าวว่า ในด้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าที่ยังคั่งค้างกว่า 46,000 คำขอ กรมฯ ได้ตั้งเป้าที่จะเร่งพิจารณาให้หมดภายในเดือน เม.ย.2558 โดยได้เพิ่มจำนวนนายทะเบียนพิจารณาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะพิจารณาให้ได้เดือนละ 10,000 คำขอ ส่วนใหญ่เป็นคำขอในสินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เป็นต้น และในปัจจุบันพิจารณาไปแล้ว 6,000-7,000 คำขอ

นอกจากนี้ มีแผนที่จะลดระยะเวลาในการจดทะเบียนคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาประเภทต่างๆ ให้ลดลง โดยในปี 2558 มีเป้าหมายที่จะลดระยะเวลาจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์จาก 60 เดือน เหลือ 48 เดือน สิทธิบัตรการออกแบบ จาก 18 เดือน เหลือ 12 เดือน อนุสิทธิบัตร จาก 12 เดือน เหลือ 6 เดือน เครื่องหมายการค้า จาก 17 เดือน เหลือ 12 เดือน และลิขสิทธิ์ จาก 23 วัน เหลือ 5 วัน ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวจะต้องเป็นคำขอที่สมบูรณ์ และไม่มีปัญหาใดๆ


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2557