สั่งบีโอไอหาสิทธิประโยชน์สูงสุด
Posted: 18 Nov 2014, 09:15
สั่งบีโอไอหาสิทธิประโยชน์สูงสุด
ประยุทธ์ สั่งบีโอไอหาสิทธิประโยชน์สูงสุด ดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 6 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปเร่งพิจารณาการให้สิทธิประโยชน์พิเศษขั้นสูงสุดแบบไม่จำกัดกิจการให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 6 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ทั้งจังหวัดตาก มุกดาหาร สงขลา สระแก้ว และตราด โดยให้พิจารณาสิทธิพิเศษให้ใกล้เคียงกับที่ให้กับนักลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งบีโอไอต้องกลับไปสรุป จากนั้นจึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาครั้งต่อไป
ทั้งนี้นอกจากสิทธิประโยชน์ที่นอกเหนืออำนาจของบีโอไอ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ก็ให้กระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางส่งเสริม เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 10 ปี และมาตรการส่งเสริมด้านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านธนาคารออมสิน ซึ่งล่าสุดมีวงเงินอยู่ประมาณ 5,000 ล้านบาท และยังให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พิจารณาการค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย
ขณะที่การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบกำหนดพื้นที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และมีความพร้อมจะดำเนินการแล้ว 2 แห่ง คือที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพราะมีปริมาณการค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในเดือนธ.ค.นี้ บริเวณพื้นที่ดังกล่าวจะมีการเปิดเที่ยวบินถึง 3 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-แม่สอด ,แม่สอด-ย่างกุ้ง และแม่สอด-เมาะละแหม่ง รวมทั้งการปรับปรุงระบบไฟฟ้า และน้ำประปารองรับ และพัฒนาพื้นที่บริเวณอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ที่มีปริมาณการค้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในด้านแรงงาน และการจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จแรงงานสาธารณะสุข และความมั่นคงนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบให้เร่งจัดระบบแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจแบบไป-กลับ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแนวทางการเพิ่มระยะเวลาการทำงานให้แรงงานกลุ่มดังกล่าวสามารถทำงานที่ไทยได้มากกว่า 1 วัน หรือไม่เกิน 3 เดือน และให้กระทรวงแรงงานฝึกอบรม พัฒนาฝีมือแรงงานด้วย
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2557
ประยุทธ์ สั่งบีโอไอหาสิทธิประโยชน์สูงสุด ดูดนักลงทุนเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 6 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ไปเร่งพิจารณาการให้สิทธิประโยชน์พิเศษขั้นสูงสุดแบบไม่จำกัดกิจการให้กับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษ 6 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด ทั้งจังหวัดตาก มุกดาหาร สงขลา สระแก้ว และตราด โดยให้พิจารณาสิทธิพิเศษให้ใกล้เคียงกับที่ให้กับนักลงทุนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งบีโอไอต้องกลับไปสรุป จากนั้นจึงเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาครั้งต่อไป
ทั้งนี้นอกจากสิทธิประโยชน์ที่นอกเหนืออำนาจของบีโอไอ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ก็ให้กระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางส่งเสริม เช่น การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% เป็นเวลา 10 ปี และมาตรการส่งเสริมด้านสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านธนาคารออมสิน ซึ่งล่าสุดมีวงเงินอยู่ประมาณ 5,000 ล้านบาท และยังให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) พิจารณาการค้ำประกันให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย
ขณะที่การพัฒนาด้านโครงสร้างพื้นฐานรองรับนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบกำหนดพื้นที่มีความจำเป็นเร่งด่วน และมีความพร้อมจะดำเนินการแล้ว 2 แห่ง คือที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพราะมีปริมาณการค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันในเดือนธ.ค.นี้ บริเวณพื้นที่ดังกล่าวจะมีการเปิดเที่ยวบินถึง 3 เส้นทาง คือ กรุงเทพฯ-แม่สอด ,แม่สอด-ย่างกุ้ง และแม่สอด-เมาะละแหม่ง รวมทั้งการปรับปรุงระบบไฟฟ้า และน้ำประปารองรับ และพัฒนาพื้นที่บริเวณอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ที่มีปริมาณการค้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตามในด้านแรงงาน และการจัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จแรงงานสาธารณะสุข และความมั่นคงนั้น ที่ประชุมได้เห็นชอบให้เร่งจัดระบบแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในเขตเศรษฐกิจแบบไป-กลับ โดยให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแนวทางการเพิ่มระยะเวลาการทำงานให้แรงงานกลุ่มดังกล่าวสามารถทำงานที่ไทยได้มากกว่า 1 วัน หรือไม่เกิน 3 เดือน และให้กระทรวงแรงงานฝึกอบรม พัฒนาฝีมือแรงงานด้วย
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2557