Page 1 of 1

“ณรงค์”สั่งลดวิชาโอเน็ต-ฟื้นสอบยูเน็ต

Posted: 22 Nov 2014, 15:42
by brid.siriwan
“ณรงค์”สั่งลดวิชาโอเน็ต-ฟื้นสอบยูเน็ต

"เสมา1"ให้การบ้าน สทศ. ลดวิชาสอบโอเน็ต พร้อมฟื้นสอบยูเน็ตแต่ไม่บังคับสอบทุกคน ประเดิมวัดสมรรถนะภาษาไทย-อังกฤษ ชี้ใช้เครื่องมือต่างชาติมานานควรมีที่เป็นของไทยได้แล้ว ด้าน“สัมพันธ์”ย้ำยังไม่เรียกว่ายูเน็ต

วันนี้ (20 พ.ย.) ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ พร้อมด้วย ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รมช.ศึกษาธิการ ได้เดินทางเข้าตรวจเยี่ยม และติดตามผลการดำเนินงานของ สทศ. พร้อมทั้งหารือถึงแนวคิดของผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ที่ได้เสนอให้ปรับลดจำนวนกลุ่มสาระการเรียนรู้ในการจัดสอบแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ต จากเดิมสอบทั้งหมด 8 กลุ่มสาระฯ ให้เหลือเฉพาะ 4 วิชาหลัก ได้แก่ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ส่วนวิชาอื่นๆ เช่น สังคมศึกษา พลศึกษา สุขศึกษา เป็นต้น ให้ทางโรงเรียนเป็นผู้จัดสอบเอง โดย พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว แต่มีข้อเสนอแนะว่าอยากให้ สทศ. จัดสอบกลุ่มสาระสังคมศึกษาด้วย เนื่องจากในกลุ่มนี้มีวิชาย่อยที่สำคัญ เช่น ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ซึ่งถือเป็นวิชาที่สำคัญที่ควรใช้ข้อสอบกลางเดียวกันเพื่อให้ได้มาตรฐาน แต่อาจปรับสัดส่วนให้น้อยลง และที่เหลือให้โรงเรียนจัดสอบ เพราะมีบางวิชาที่มีเนื้อหาที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น และในแต่ละพื้นที่มีบริบทที่แตกต่างกัน ซึ่งโรงเรียนน่าจะออกข้อสอบได้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของเด็ก และสามารถวัดผลได้ดีกว่า แต่ทั้งหมดยังไม่ถือเป็นข้อสรุป จึงได้มอบให้ สทศ. นำแนวคิดดังกล่าว ไปหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร สทศ. ว่ามีความเห็นอย่างไร จากนั้นให้สรุปข้อเสนอว่าจะดำเนินการอย่างไร เสนอ ศธ. พิจารณาต่อไป

“ขณะนี้ ศธ. กำลังจัดทำโครงการปฏิรูปสู่การปฏิบัติ โดยกระจายอำนาจให้ 300 โรงเรียน ใน 20 เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ สามารถบริหารจัดการในทุกเรื่องด้วยตนเอง ซึ่งหลักสูตรการเรียนการสอนก็เป็นส่วนหนึ่งที่โรงเรียนต้องไปดำเนินการออกให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละพื้นที่ ดังนั้นหากใช้ข้อสอบที่ออกโดยส่วนกลางทั้งหมด ก็อาจจะไม่สอดคล้องกับหลักสูตรของแต่ละพื้นที่”รมว.ศึกษาธิการ กล่าวและว่า ส่วนข้อกังวลว่า หากให้โรงเรียนจัดสอบเอง ข้อสอบจะมีมาตรฐานไม่เท่าเทียมกัน และจะมีผลต่อการนำไปใช้ในการเข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นนั้น ตนคิดว่าที่สุดแล้วผู้ใช้จะเป็นผู้ตัดสินเองว่า จะพิจารณาใช้คะแนนโอเน็ตวิชาใด และในสัดส่วนเท่าใด

พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้หารือถึงการจัดการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติระดับอุดมศึกษา หรือยูเน็ต โดยเรื่องนี้ต้องเดินหน้าต่อ แต่การสอบดังกล่าวจะไม่มีการบังคับให้สอบทุกคน โดยให้เป็นเรื่องของความสมัครใจ ซึ่งเบื้องต้นจะเป็นการจัดวัดสมรรถนะการสื่อสารด้านภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษในระดับปริญญาตรีก่อน ทั้งนี้ในส่วนที่เคยมีการคัดค้านการสอบยูเน็ตนั้น ตนคิดว่ายังควรต้องมีการสอบ เพราะที่ผ่านมาเราเชื่อถือการวัดผลของต่างประเทศมาเป็นเวลานาน จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการสร้างรูปแบบการวัดผลที่ได้มาตรฐาน และเทียบเคียงกับต่างประเทศได้ โดย สทศ. ต้องสร้างความน่าเชื่อเถือโดยเริ่มต้นจากให้สถานประกอบการ เห็นความสำคัญของการสอบยูเน็ต และนำคะแนนไปใช้ในการพิจารณารับคนเข้าทำงาน ซึ่งหากทำได้เช่นนี้ต่อไปมหาวิทยาลัย และนักศึกษา ก็จะให้ความสำคัญมาสอบยูเน็ตมากขึ้น

รศ.ดร.สัมพันธ์ พันธุ์พฤกษ์ ผู้อำนวยการ สทศ. กล่าวว่า การจัดสอบดังกล่าวยังไม่ได้เรียกว่าเป็นการจัดสอบยูเน็ต แต่เป็นการให้บริการสอบวัดสมรรถนะของ สทศ.ในรูปแบบหนึ่ง ซึ่งหากสถานประกอบการมีความพึงพอใจก็สามารถนำคะแนนไปใช้ในการพิจารณารับคนเข้าทำงานได้

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 20 พฤศจิกายน 2557