"อานันท์"แนะรัฐรับฟังคนทุกระดับ
Posted: 25 Nov 2014, 14:01
"อานันท์"แนะรัฐรับฟังคนทุกระดับ
"อานันท์" อดีตนายกรัฐมนตรี แนะรัฐบาลให้รับฟังคนทุกระดับ เพื่อเป็นแนวทางแก้ปัญหาประเทศ
นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 57 ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เรื่องสังคมเศรษฐกิจไทย:ความท้าทายและการปฏิรูป ว่า สิ่งที่หนักใจนอกเหนือไปจากเรื่องการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ด้านทรัพยากรธรรมชาติ วินัยทางการคลัง และการสร้างโอกาสและลดความเสี่ยงประชาชน คือปัญหาทางการเมืองและการบริหารราชกานแผ่นดิน เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง หรือไม่ได้มาจากประชาธิปไตย สุดท้ายเมื่อบริหารประเทศก็ตกม้าตาย เพราะจัดการไม่เป็น เพราะพูดมากเกินไป ขณะที่ผู้นำรัฐบาลปัจจุบันที่มาจากทหารก็ยังมีข้อจำกัดมาก เนื่องจากวิธีการทำงานในระบบทหารมักเน้น สั่งอย่างเดียว ซึ่งแนวทางที่ดีที่สุดต้องเปลี่ยนเป็นฟังคนในทุกระดับมากขึ้น และต้องมีประสบการณ์
"ไม่แน่ใจในความพยายามที่จะดูแลปัญหาคอร์รัปชั่นว่าจริงใจแค่ไหน และจะทำหรือเปล่า เพราะตอนนี้มีข่าวลือมากเหลือเกิน แม้ว่าผมจะไม่ชอบข่าวลือ แต่ก็ได้ยินมา และไม่รู้ว่าจริงไม่จริง เช่น การตกลงกันนอกรอบ ส่วนการแก้ไขปัญหาปรองดอง และการปฏิรูปก็ต้องทำควบคู่กันไป ซึ่งในเรื่องการแก้ปัญหาปรองดอง ต้องดูสาเหตหลัก ที่มาจากปัญหาความเหลื่อมล้ำของคนข้างบนและข้างล่าง จึงต้องแก้สิ่งนี้ก่อน"
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงเรื่องสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ:ความท้าทายและโอกาสของประเทศไทยในสามทศวรรษหน้า ว่า ประเทศไทยต้องเร่งปรับโครงสร้างการพัฒนาประเทศใหม่ เพื่อให้หลุดพ้นกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางได้ทันก่อนเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบในปี 2568 หรือเป็นประเทศที่มีแต่คนแก่ก่อนรวยเป็นจำนวนมา โดยต้องยกระดับภาคการเกษตรดั้งเดิมให้เป็นเกษตรแบบทันสมัย เน้นใช้เครื่องจักร เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา ควบคู่กับการพัฒนาภาคบริการให้เป็นบริการฐานความรู้ เปิดเสรีภาคบริการ โดยพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพสูง
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557
"อานันท์" อดีตนายกรัฐมนตรี แนะรัฐบาลให้รับฟังคนทุกระดับ เพื่อเป็นแนวทางแก้ปัญหาประเทศ
นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการประจำปี 57 ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เรื่องสังคมเศรษฐกิจไทย:ความท้าทายและการปฏิรูป ว่า สิ่งที่หนักใจนอกเหนือไปจากเรื่องการยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ด้านทรัพยากรธรรมชาติ วินัยทางการคลัง และการสร้างโอกาสและลดความเสี่ยงประชาชน คือปัญหาทางการเมืองและการบริหารราชกานแผ่นดิน เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้ง หรือไม่ได้มาจากประชาธิปไตย สุดท้ายเมื่อบริหารประเทศก็ตกม้าตาย เพราะจัดการไม่เป็น เพราะพูดมากเกินไป ขณะที่ผู้นำรัฐบาลปัจจุบันที่มาจากทหารก็ยังมีข้อจำกัดมาก เนื่องจากวิธีการทำงานในระบบทหารมักเน้น สั่งอย่างเดียว ซึ่งแนวทางที่ดีที่สุดต้องเปลี่ยนเป็นฟังคนในทุกระดับมากขึ้น และต้องมีประสบการณ์
"ไม่แน่ใจในความพยายามที่จะดูแลปัญหาคอร์รัปชั่นว่าจริงใจแค่ไหน และจะทำหรือเปล่า เพราะตอนนี้มีข่าวลือมากเหลือเกิน แม้ว่าผมจะไม่ชอบข่าวลือ แต่ก็ได้ยินมา และไม่รู้ว่าจริงไม่จริง เช่น การตกลงกันนอกรอบ ส่วนการแก้ไขปัญหาปรองดอง และการปฏิรูปก็ต้องทำควบคู่กันไป ซึ่งในเรื่องการแก้ปัญหาปรองดอง ต้องดูสาเหตหลัก ที่มาจากปัญหาความเหลื่อมล้ำของคนข้างบนและข้างล่าง จึงต้องแก้สิ่งนี้ก่อน"
นายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงเรื่องสู่การเติบโตอย่างมีคุณภาพ:ความท้าทายและโอกาสของประเทศไทยในสามทศวรรษหน้า ว่า ประเทศไทยต้องเร่งปรับโครงสร้างการพัฒนาประเทศใหม่ เพื่อให้หลุดพ้นกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลางได้ทันก่อนเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบในปี 2568 หรือเป็นประเทศที่มีแต่คนแก่ก่อนรวยเป็นจำนวนมา โดยต้องยกระดับภาคการเกษตรดั้งเดิมให้เป็นเกษตรแบบทันสมัย เน้นใช้เครื่องจักร เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา ควบคู่กับการพัฒนาภาคบริการให้เป็นบริการฐานความรู้ เปิดเสรีภาคบริการ โดยพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีคุณภาพสูง
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2557