เอกชนให้คะแนนคสช.ผ่านฉลุย

[brid.siriwan]

เอกชนให้คะแนนคสช.ผ่านฉลุย

ภาคเอกชนประเมินผลงาน 6 เดือน รัฐบาล คสช. ผ่านฉลุย ให้ 8 เต็ม 10 คะแนน รับห่วงโจทย์การแก้ปัญหาโหดสุด ชี้ แก้คอรัปชั่น-ความตั้งใจทำงานคะแนนสูงสุด

นายพรศิลป์พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลงาน 6 เดือนของรัฐบาล ภายใต้การเข้ามาบริหารประเทศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ภาคเอกชนมองว่า การทำงานของรัฐบาลค่อนข้างที่จะมีความตั้งใจสูงในการเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสร้างความเชื่อทางด้านการค้า การลงทุนและการบริโภค ให้เกิดความยั่งยืน โดยเอกชนให้คะแนนการทำงานของรัฐบาล 8 คะแนนเต็ม 10 แต่ทั้งนี้ ยอมรับว่าผลกระทบจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวหนัก เป็นโจทย์ที่ค่อน ข้างยาก ต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจไทย ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการได้คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาล สร้างความชัดเจนในการทำแผนระยะยาว 5 ปีข้างหน้า เพื่อให้ภาคเอกชนสามารถวางแผนในการดำเนินธุรกิจระยะยาวได้อย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ต้องหาแนวทางในการผลักดันให้ผู้ประกอบการไทย สามารถเข้าไปใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ไทยได้ลงนามการค้ากับต่างประเทศไปก่อนหน้านี้ เพราะที่ผ่านมาผู้ประกอบการเข้าไปใช้สิทธิประโยชน์เพียง 50%

นายธนวรรธน์ พลวิชัยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาล คสช. ช่วง 6 เดือนนั้น ยอมรับว่าการเข้ามาบริหารประเทศ เป็นโจทย์ที่เข้ามาแก้ปัญหาได้ยาก มากเพราะไทยไม่เคยประสบปัญหาในลักษณะนี้มาก่อน ซึ่งจะแตกต่างจากปัญหาวิกฤติต้มยำกุ้ง ในปี 40 และ วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 51-52 เพราะจะกระทบต่อภาคการส่งออกห รือภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง กับการทำธุรกรรมกับต่างประเทศ แต่ครั้งนี้ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้กระทบต่อสังคมชนบทซึ่งเป็น กลุ่มใหญ่ในการขับเคลื่อนการบริโภคไทย

“ขณะนี้ปัญหาคือราคาสินค้าเกษตรตกต่ำมากทั้งด้านราคาข้าวที่ทั่วโลกมีสต๊อกสูง และราคายางพาราที่จะเกี่ยวกับราคาน้ำมันซึ่งราคาลดลงมาก จนส่งผลต่อรายได้เกษตรกร ประกอบกับสังคมเมืองก็มีปัญหาเรื่องของรายได้เช่นกันจากการส่งออกและการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว”

อย่างไรก็ตาม หากประเมินผลงานของรัฐบาลในช่วงสถานการณ์แบบนี้ส่วนตัวให้ 7.5 คะแนนเต็ม 10 ส่วนใหญ่จะเป็นความตั้งใจและการเข้ามาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่รวดเร็ว ทั้งการจ่ายเงินค่าข้าวแก่ชาวนา การใช้เงินส่วนเหลือเกษตรกร รวมถึงการเร่งส่งเสริมการลงทุนและการแก้ปัญหาความล่าช้า เกี่ยวกับขั้นตอนของการขออนุญาตการลงทุน เป็นต้น ส่วนการเบิกจ่ายงบประมาณนั้นยอมรับว่าล่าช้า

นายประมนต์สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในส่วนของการเอาจริงเอาจังต่อการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่นประเทศไทยของรัฐบาลในช่วง 6 เดือนนั้น ภาคเอกชนให้คะแนน 8-9 เต็ม 10 เนื่องจากผู้นำของรัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาการคอร์รัปชั่นเป็นเรื่องหลักของรัฐบาล ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ให้ภาคประชาชน ภาคสังคมและเอกชนเข้ามาร่วมสังเกตุการณ์ในการประมูลโครงการต่างๆของรัฐบาลมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการใหญ่ 3 โครงการหลัก คือ โครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2, โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และ โครงการประมูลรถเอ็นจีวีของ ขมมก. เป็นต้น

“ในระดับนโยบายขณะนี้ ให้ความสำคัญเรื่องการแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น เป็นวาระสำคัญ แต่ในระดับล่างยังไม่ขยับเท่าที่ควร ซึ่งตรงนี้ภาคเอกชนก็คงต้องรอเวลาให้ระดับล่างขับเคลื่อนในการแก้ปัญหาตามระดับนโยบายต่อไป”

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์นายก สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย กล่าวว่า สมาคมฯให้คะแนนการบริหารงานรัฐบาลช่วง 6 เดือน 7 คะแนนเต็ม 10 โดยเฉพาะความตั้งใจในการทำงาน และความเด็ดขาดในการบริหารจัดการ อย่างไรก็ตาม การบริหารงานของรัฐบาลยังมีปัญหาเรื่องของการร่วมมือในการทำงาน ของกระทรวงต่าง ๆ ที่ยังต่างคนต่างทำกันอยู่ ดังนั้นต้องการให้รัฐบาลเร่งบูรณการตรงนี้ให้ได้เพื่อความรวดเร็วในการแก้ ปัญหาก็จะทำให้ปัญหาต่าง ๆ สามารถแก้ได้ง่ายขึ้น

นายสมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า การบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ถือว่าผ่านหรือได้คะแนน 7.5 คะแนน โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้านต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าในตอนนี้เศรษฐกิจประเทศยังไม่กระเตื้องเท่าที่ควร จากปัญหาเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลเร่งดำเนินการคือ เรื่องของกฎหมาย และเรื่องของความอำนวยสะดวกในด้านของด่านชายแดน ที่ปัจจุบันยังไม่เอื้ออำนวยต่อการค้าและการลงทุนมากนัก

“ตัวอย่างเรื่องของการลงทุนค้าปลีก ต้องขออนุญาตผ่านกฎหมายต่าง ๆ มากสุดถึง 36 ฉบับ ดังนั้นหากลดขั้นตอนในการขอใบอนุญาตที่น้อยขั้นตอน ก็จะช่วยสร้างความ มั่นใจแก่ผู้ประกอบการในการเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น”


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2557