"บิ๊กอ๊อด"ประกาศ"ยุคผม...ใหญ่แค่ไหนก็จับ"
Posted: 25 Nov 2014, 14:31
"บิ๊กอ๊อด"ประกาศ"ยุคผม...ใหญ่แค่ไหนก็จับ"
ผบ.ตร.แถลงเปิดข้อกล่าวหา "พงศ์พัฒน์"และพวก หลังพัวพันคดีหลายข้อหาหนัก ประกาศ ใครทำผิด"ยุคผมใหญ่แค่ไหนก็จับ" พร้อมขึ้นชาร์จเชื่อมโยงขบวนการทำความผิดของ อดีต ผบช.ก.
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) บรรยากาศที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 ตร.ซึ่งใช้เป็นห้องแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดการจับกุมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (อดีตผบช.ก.) พร้อมกับพวกรวม 12 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาความผิดตามมาตรา 112 และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับและจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ รวมทั้งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรวมถึงข้อหาอื่นๆ แตกต่างกันอีกหลายข้อหา เป็นไปอย่างคึกคัก มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติรอติดตามทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น ทั้งนี้ผู้ที่จะแถลงข่าวประกอบด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง, พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร., พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล ผบก.ปทส. และพ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.
อย่างไรก็ตาม สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ ไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาแต่อย่างใด แต่มีการเตรียมฉายวิดิโอภาพผ่านจอโปจเจคเตอร์ขนาดใหญ่ เกี่ยวกับพฤติการณ์ความผิด การบุกคุ้นที่บ้านพัก รวมถึงของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบการแถลงข่าว สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้ นอกจากพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์แล้ว ยังมี พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีตผู้บังคับการตำรวจน้ำ, พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์, พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล, ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา, ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง, นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล, นางสวงค์ มุ่งเที่ยง, นายชอบ และนางติยะพรรณ ชิณประภา
โดยช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมตัวนายตำรวจ 6 คนไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังเป็นผัดแรก และถูกนำตัวควบคุมตัวไปยังเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพแล้ว ส่วนพ.ต.อโกวิทย์ ม่วงนวล อดีตผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรสาคร และนางสวงค์ ม่วงนวล ที่ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันสร้างหรือแผ้วถางป่าฯ และร่วมกันปลูกสร้างฝายล่วงล้ำแม่น้ำฯ ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน ส่วนนายชอบ และนางติยะพรรณ ชิณประภา ถูกนำตัวไปสอบสวนเพิ่ม และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์ ถูกออกหมายจับข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง มีรายงานว่าถูกควบคุมตัวไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการสอบสวน
สำหรับคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ของผู้ต้องหาสรุปว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ร่วมกับพล.ต.ต.บุญสืบ พ.ต.อ.วุฒิชาติ และพ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิ่มรัตน์ ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ เรียกรับเงินจากข้าราชการตำรวจที่ประสงค์จะไปดำรงค์ตำแหน่งสำคัญ รายละ 3-5 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 50 ล้าน บาท ส่วน พล.ต.ต.บุญสืบ มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทางจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง และส่งเงินให้กับ พล.ต.ต.โกวิทย์ และพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มากกว่า 140 ล้านบาท และพบว่ายังร่วมกันเปิดบ่อนการพนันขนาดใหญ่ย่านห้วยขวางอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการระบุด้วยว่า เครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ถูกจับกุม กำลังเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อนำตัวมาดำเนินการทางกฎหมายโดยเร็ว
โดย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า "คดีนี้เป็นคดีที่สำคัญ ละเอียดอ่อน เปราะบาง บางครั้งต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตร.จะสามารถชี้แจงได้มากน้อยแค่ไหน หลักฐานหรือสิ่งต่าง ๆ ที่นำแสดง เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สามารถนำมาได้ ส่วนที่ไม่ได้นำมาแถลง เป็นบางส่วนที่ต้องเกี่ยวพันกับบุคคลอื่นๆ อาจจะนำไปสู่การจับกุมเพิ่มเติม ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการควบคุมตามกฎอัยการศึก และแจ้งข้อกล่าวหา ทำบันทึกการจับกุม กระทั่งวันที่ 23 พ.ย.จึงออกหมายจับเพิ่มอีก 2 คนคือ นายชอย และนางพรรณ ฐานฟอกเงิน ซึ่งจับกุมได้ในวันนี้นั้น ส่วนวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงตามไปจับกุม นายเรืองศักดิ์ ที่จ.เชียงราย และนางสุดาทิพย์ พร้อมแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาทั้งหมดเอาไว้แล้ว ขณะที่ของกลางได้ติดตามไปยึดเอาไว้จากสถานที่ทั้งหมด 15 สถานที่ เน้นที่บ้านพักปากเกร็ด จ.นนทบุรี 2 หลัง ที่บางกรวย 2 หลัง มีการอายัด ตู้เซฟซุกซ่อนโดยการฝังดิน มีห้องนิรภัย มีวัตถุโบราณ พระ งาช้าง ทรัพย์ของแผ่นดิน พระเครื่องพระบูชา ซึ่งต้องให้กรมศิลมาตรวจสอบ พระพุทธรูปเก่าแก่ เงินสด ไทยและ ตปท. สแตมป์ทองคำ เพชร พลอย ทรัพย์สิน กำไร ในกล่องมีเครื่องลายคราม ชามโบราณ เครื่องเพชร ของมีค่า รถยนต์นับสิบคัน"
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า "นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เรานำมาเสนอ เพื่อไขข้อข้องใจว่าเราไม่ได้ส้รางภาพ หรือยัดเยียดกลั่นแกล้งจับกุมตั้งข้อหา ผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งหลักฐานที่เห็น มีการร่วมกันกระทำความผิดจริง แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะมีความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น ต้องทำการสืบสวนและขยายผลเพิ่มเติมก่อน อย่างไรก็ตาม หลังการสอบสวนแล้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้เราได้รับการร้องเรียนจากข้อราชการตำรวจ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย มีการเรียกรับเงินทองและสิ่งของต่างๆ มีการร้องทุกข์ร้องเรียนมาเป็นระยะ ร้องไปทางตัวผม และนายกฯและที่อื่น ๆ จนกระทั่งมีการสืบสวนไปยังผู้เรียกรับผลประโยชน์ ถ้าพยานหลักฐานเชื่อมโยงใคร เราจะจัดการอย่างไม่มีข้อยกเว้น ยังมีนายตร.อื่นอีก ที่เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการนำมาซึ่งผลประโยนช์ แต่งตั้งโยกย้าย บ่อนการพนัน น้ำมันเถื่อน บุกรุกป่าที่ราชบุรี เพื่อทำธุรกิจ"
"คาดว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ คงกระทำความผิดมาหลายปีแล้ว เรื่องจำนวนเงินเรียกรับเพื่อตำแหน่งไม่ยืนยัน เงินที่ได้มาไม่ถูกต้อง เปิดบ่อน วิ่งเต้นโยกย้าย ซื้อขายตำแหน่งและน้ำมันเถื่อนเป็นหลัก ส่วนเงินที่มาจากคดี เป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนต่อ ขอไม่ชี้แจ้ง มีบ่อนอยู่ทั่วประเทศ ผู้บังคับบัญชาในอดีตผมไม่ทราบว่ายังไง ระแคะระคายไหม แต่ยุคผม...ใหญ่แค่ไหนก็จับ ในอดีตคนรู้ว่า พงศ์พัฒน์มีอำนาจมากแค่ไหน ผมจะไม่ปล่อยในสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ผมจะรีบสร้างธรรมาภิบาลขึ้นใหม่ สำหรับคำถามเกี่ยวกับ เบื้องสูงนั้น ขอไม่ตอบ"พล.ต.อ.สมยศกล่าว
ขณะเดียวกันได้มีการแถลงข่าวการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีตผกก.1 ป. โดยทางบชน. ระบุว่า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้แรับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ เสียชีวิตที่ รพ.พระมงกุฎ ซึ่งภายหลังทำการสอบสวน พร้อมแพทย์โดยละเอียดแล้ว เป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ ฆ่าตัวตาย ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิดทางอาญาแต่อย่างใด.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557
ผบ.ตร.แถลงเปิดข้อกล่าวหา "พงศ์พัฒน์"และพวก หลังพัวพันคดีหลายข้อหาหนัก ประกาศ ใครทำผิด"ยุคผมใหญ่แค่ไหนก็จับ" พร้อมขึ้นชาร์จเชื่อมโยงขบวนการทำความผิดของ อดีต ผบช.ก.
เมื่อวันที่ 25 พ.ย. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) บรรยากาศที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 ตร.ซึ่งใช้เป็นห้องแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดการจับกุมตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (อดีตผบช.ก.) พร้อมกับพวกรวม 12 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องหาความผิดตามมาตรา 112 และข้อหาเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับและจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ รวมทั้งเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินรวมถึงข้อหาอื่นๆ แตกต่างกันอีกหลายข้อหา เป็นไปอย่างคึกคัก มีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างชาติรอติดตามทำข่าวกันอย่างเนืองแน่น ทั้งนี้ผู้ที่จะแถลงข่าวประกอบด้วย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง, พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษก ตร., พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น., พล.ต.ต.ประสพโชค พร้อมมูล ผบก.ปทส. และพ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี รรท.ผบก.ป.
อย่างไรก็ตาม สำหรับการแถลงข่าวในวันนี้ ไม่มีการนำตัวผู้ต้องหามาแต่อย่างใด แต่มีการเตรียมฉายวิดิโอภาพผ่านจอโปจเจคเตอร์ขนาดใหญ่ เกี่ยวกับพฤติการณ์ความผิด การบุกคุ้นที่บ้านพัก รวมถึงของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบการแถลงข่าว สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้ นอกจากพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์แล้ว ยังมี พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน อดีตผู้บังคับการตำรวจน้ำ, พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์, พ.ต.อ.โกวิทย์ ม่วงนวล, ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา, ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง, นางสุดาทิพย์ ม่วงนวล, นางสวงค์ มุ่งเที่ยง, นายชอบ และนางติยะพรรณ ชิณประภา
โดยช่วงเย็นวานที่ผ่านมา ตำรวจได้ควบคุมตัวนายตำรวจ 6 คนไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังเป็นผัดแรก และถูกนำตัวควบคุมตัวไปยังเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพแล้ว ส่วนพ.ต.อโกวิทย์ ม่วงนวล อดีตผู้กำกับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสมุทรสาคร และนางสวงค์ ม่วงนวล ที่ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันสร้างหรือแผ้วถางป่าฯ และร่วมกันปลูกสร้างฝายล่วงล้ำแม่น้ำฯ ได้รับการประกันตัวในชั้นสอบสวน ส่วนนายชอบ และนางติยะพรรณ ชิณประภา ถูกนำตัวไปสอบสวนเพิ่ม และนายเริงศักดิ์ ศักดิ์ณรงค์ ถูกออกหมายจับข้อหาร่วมกันมีไว้ในครอบครองซากสัตว์ป่าคุ้มครอง มีรายงานว่าถูกควบคุมตัวไว้แล้ว และอยู่ระหว่างการสอบสวน
สำหรับคำร้องฝากขังระบุพฤติการณ์ของผู้ต้องหาสรุปว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ร่วมกับพล.ต.ต.บุญสืบ พ.ต.อ.วุฒิชาติ และพ.ต.อ.อัครวุฒิ หลิ่มรัตน์ ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ เรียกรับเงินจากข้าราชการตำรวจที่ประสงค์จะไปดำรงค์ตำแหน่งสำคัญ รายละ 3-5 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 50 ล้าน บาท ส่วน พล.ต.ต.บุญสืบ มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทางจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง และส่งเงินให้กับ พล.ต.ต.โกวิทย์ และพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ มากกว่า 140 ล้านบาท และพบว่ายังร่วมกันเปิดบ่อนการพนันขนาดใหญ่ย่านห้วยขวางอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการระบุด้วยว่า เครือข่ายของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ถูกจับกุม กำลังเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อนำตัวมาดำเนินการทางกฎหมายโดยเร็ว
โดย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า "คดีนี้เป็นคดีที่สำคัญ ละเอียดอ่อน เปราะบาง บางครั้งต้องเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ตร.จะสามารถชี้แจงได้มากน้อยแค่ไหน หลักฐานหรือสิ่งต่าง ๆ ที่นำแสดง เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สามารถนำมาได้ ส่วนที่ไม่ได้นำมาแถลง เป็นบางส่วนที่ต้องเกี่ยวพันกับบุคคลอื่นๆ อาจจะนำไปสู่การจับกุมเพิ่มเติม ทั้งนี้เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการควบคุมตามกฎอัยการศึก และแจ้งข้อกล่าวหา ทำบันทึกการจับกุม กระทั่งวันที่ 23 พ.ย.จึงออกหมายจับเพิ่มอีก 2 คนคือ นายชอย และนางพรรณ ฐานฟอกเงิน ซึ่งจับกุมได้ในวันนี้นั้น ส่วนวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงตามไปจับกุม นายเรืองศักดิ์ ที่จ.เชียงราย และนางสุดาทิพย์ พร้อมแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาทั้งหมดเอาไว้แล้ว ขณะที่ของกลางได้ติดตามไปยึดเอาไว้จากสถานที่ทั้งหมด 15 สถานที่ เน้นที่บ้านพักปากเกร็ด จ.นนทบุรี 2 หลัง ที่บางกรวย 2 หลัง มีการอายัด ตู้เซฟซุกซ่อนโดยการฝังดิน มีห้องนิรภัย มีวัตถุโบราณ พระ งาช้าง ทรัพย์ของแผ่นดิน พระเครื่องพระบูชา ซึ่งต้องให้กรมศิลมาตรวจสอบ พระพุทธรูปเก่าแก่ เงินสด ไทยและ ตปท. สแตมป์ทองคำ เพชร พลอย ทรัพย์สิน กำไร ในกล่องมีเครื่องลายคราม ชามโบราณ เครื่องเพชร ของมีค่า รถยนต์นับสิบคัน"
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า "นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เรานำมาเสนอ เพื่อไขข้อข้องใจว่าเราไม่ได้ส้รางภาพ หรือยัดเยียดกลั่นแกล้งจับกุมตั้งข้อหา ผู้ต้องหาทั้งหมด ซึ่งหลักฐานที่เห็น มีการร่วมกันกระทำความผิดจริง แต่ยังมีอีกหลายอย่างที่เราไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะมีความเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น ต้องทำการสืบสวนและขยายผลเพิ่มเติมก่อน อย่างไรก็ตาม หลังการสอบสวนแล้ว ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้เราได้รับการร้องเรียนจากข้อราชการตำรวจ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้าย มีการเรียกรับเงินทองและสิ่งของต่างๆ มีการร้องทุกข์ร้องเรียนมาเป็นระยะ ร้องไปทางตัวผม และนายกฯและที่อื่น ๆ จนกระทั่งมีการสืบสวนไปยังผู้เรียกรับผลประโยชน์ ถ้าพยานหลักฐานเชื่อมโยงใคร เราจะจัดการอย่างไม่มีข้อยกเว้น ยังมีนายตร.อื่นอีก ที่เกี่ยวกับคดีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการนำมาซึ่งผลประโยนช์ แต่งตั้งโยกย้าย บ่อนการพนัน น้ำมันเถื่อน บุกรุกป่าที่ราชบุรี เพื่อทำธุรกิจ"
"คาดว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ คงกระทำความผิดมาหลายปีแล้ว เรื่องจำนวนเงินเรียกรับเพื่อตำแหน่งไม่ยืนยัน เงินที่ได้มาไม่ถูกต้อง เปิดบ่อน วิ่งเต้นโยกย้าย ซื้อขายตำแหน่งและน้ำมันเถื่อนเป็นหลัก ส่วนเงินที่มาจากคดี เป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนต่อ ขอไม่ชี้แจ้ง มีบ่อนอยู่ทั่วประเทศ ผู้บังคับบัญชาในอดีตผมไม่ทราบว่ายังไง ระแคะระคายไหม แต่ยุคผม...ใหญ่แค่ไหนก็จับ ในอดีตคนรู้ว่า พงศ์พัฒน์มีอำนาจมากแค่ไหน ผมจะไม่ปล่อยในสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ผมจะรีบสร้างธรรมาภิบาลขึ้นใหม่ สำหรับคำถามเกี่ยวกับ เบื้องสูงนั้น ขอไม่ตอบ"พล.ต.อ.สมยศกล่าว
ขณะเดียวกันได้มีการแถลงข่าวการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีตผกก.1 ป. โดยทางบชน. ระบุว่า พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้แรับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ เสียชีวิตที่ รพ.พระมงกุฎ ซึ่งภายหลังทำการสอบสวน พร้อมแพทย์โดยละเอียดแล้ว เป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ ฆ่าตัวตาย ไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิดทางอาญาแต่อย่างใด.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557