“แซตทีอี” วางแผนลุยไทยเต็มตัวปีหน้า

[brid.siriwan]

“แซตทีอี” วางแผนลุยไทยเต็มตัวปีหน้า

“แซตทีอี” ยกตลาดไทยสำคัญสุดในอาเซียน เชื่อศักยภาพตลาดยังมีการเติบโตในกลุ่มสมาร์ทโฟนสูง จากปัจจัยเรื่องการไมเกรด หวังสิ้นปีขายสมาร์ทโฟนได้ 1 ล้านเครื่อง ก่อนขยายเพิ่มเท่าตัวในปีหน้า หลังเริ่มลุยตลาดตรงสู่ผู้บริโภคพร้อมเปิดสมาร์ทโฟนใหม่ 5 รุ่น

นายเจเรมี่ จ้าว ประธานบริหารฝ่ายธุรกิจมือถือประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า แซตทีอี มองว่าประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพในการเติบโตด้านสมาร์ทโฟนสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน จากปัจจัยที่ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนเครื่องจาก 2G ไปสู่ 3G ทำให้เลือกที่จะเข้ามาทำตลาดไทยผ่านโอเปอเรเตอร์มือถือโดยตรงก่อน

“ในไทยแซดทีอี เริ่มจากการทำตลาดแบบ B2B คือ เข้าไปคุยกับโอเปอเรเตอร์ที่ต้องการไมเกรดลูกค้าตรงก่อน แต่ในช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้า จะเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อตลาด B2C เพิ่มมากขึ้น พร้อมๆ ไปกับการพัฒนาโครงสร้างในการให้บริการหลังการขาย”

โดยในปีนี้ทางแซดทีอี ตั้งเป้าจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยไว้ที่ 1 ล้านเครื่อง เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งในตลาดราว 5% ซึ่งในปีนี้เครื่องส่วนใหญ่จะเป็นสมาร์ทโฟนที่ทำตลาดร่วมกับโอเปอเรเตอร์มากกว่า ก่อนที่จะขยายไปยังตลาดคอนซูเมอร์

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดจะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ที่คุ้มค่าระหว่างประสิทธิภาพ ราคา และวัสดุ ซึ่งทั้ง 5 รุ่น ก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อให้สามารถจับกลุ่มผู้บริโภคได้หลากหลาย พร้อมไปกับการกระจายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่ายทั้งรีเทล โมเดิร์นเทรด รวมถึงร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถืออย่างเจมาร์ท และร้านค้าทั่วไป

ขณะเดียวกัน ก็เปิดช่องทางจำหน่ายสมาร์ทโฟนผ่านระบบออนไลน์ของ Shop@7 และ Lazada ในรุ่น ZTE Kis 3 ที่เป็นสมาร์ทโฟนราคาถูกที่สุด เพื่อทดลองตลาดก่อนที่จะขยายไลน์ไปยังสินค้าระดับกลาง และบนมากขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ สมาร์ทโฟนทั้ง 5 รุ่น ของแซดทีอี ที่จะทำตลาดในช่วงปลายปีนี้ ประกอบไปด้วย ZTE Kis 3 (V811w) จอขนาด 4 นิ้ว ราคา 1,990 บาท ZTE Blade L2 จอขนาด 5 นิ้ว 2 ซิม ราคา 3,790 บาท ZTE Blade VEC หน้าจอ 5 นิ้ว กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ราคา 5,790 บาท ZTE Blade V5 จอ 5 นิ้ว กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ราคา 5,990 บาท และ ZTE Star 1 จอ 5 นิ้ว FullHD บาง 6.58 มิลลิเมตร กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล ราคา 10,990 บาท

ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557