10 เทคนิคปั้นธุรกิจ ให้เติบโตด้วยเฟซบุ๊ก
Posted: 26 Nov 2014, 10:18
10 เทคนิคปั้นธุรกิจ ให้เติบโตด้วยเฟซบุ๊ก
คนไทยใช้เฟซบุ๊กถึง 27 ล้านคน และในแต่ละวันนั้นก็มีการใช้ถึง 2.35 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่นานมาก อีกกว่า 57 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ใช้เฟซบุ๊กจะค้นพบสินค้าหรือรู้จักแบรนด์ต่าง ๆ เป็นครั้งแรก
เรดดี้แพลนเน็ต แนะเคล็ดลับวิธีใช้เฟซบุ๊ก เป็นเครื่องมือในการสร้างและขยายธุรกิจให้เติบโต โดยใช้งบประมาณไม่มาก แต่เน้นการใช้เครื่องมือบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์ก
บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (www.readyplanet.com) มีคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ ใช้ เฟซบุ๊ก (Facebook) สร้างโอกาสและเพิ่มยอดขาย และใช้เป็นอีกช่องทางในการทำธุรกิจ ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก การให้ข้อมูลสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่เป็นตัวอักษร รูปภาพ ตลอดจนคลิป เพื่อให้ผู้บริโภคนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อ จนกระทั่งกระบวนการสุดท้ายคือการสั่งซื้อสินค้า ที่ผู้บริโภคก็สามารถทำได้บนเฟซบุ๊ก
ในประเทศไทย ข้อมูลจากผลสำรวจของ TNS ปี 2557 ระบุว่า คนไทยใช้เฟซบุ๊กถึง 27 ล้านคน และในแต่ละวันนั้นก็มีการใช้ถึง 2.35 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่นานมาก อีกกว่า 57 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ใช้เฟซบุ๊กจะค้นพบสินค้าหรือรู้จักแบรนด์ต่าง ๆ เป็นครั้งแรก และอีก 68 เปอร์เซ็นต์ จะค้นหาข้อมูลสินค้าบนเฟซบุ๊กก่อนตัดสินใจซื้อ
เรดดี้แพลนเน็ต มีเทคนิคดี ๆ 10 ข้อ สำหรับผู้ประกอบการ ในการสร้างและขยายธุรกิจผ่านเฟซบุ๊ก ให้เติบโตอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพที่สุด ดังนี้
1. สร้างหน้าเฟซบุ๊กที่ดี ให้ชัดเจน เข้าใจง่าย และมีช่องทางที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถติดต่อกับผู้ขายได้สะดวก เช่น ที่ตั้งร้านค้า เวลาทำการ ข้อมูลติดต่อกลับ ประวัติที่มาของธุรกิจ ตลอดจนสินค้าต่าง ๆ จะช่วยให้ธุรกิจนั้นดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
2. โปรโมตร่วมกับเว็บไซต์ ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือ Website Visitors ก็สามารถต่อยอดกลายมาเป็นแฟนเพจ ด้วยการติดตั้ง Facebook Like Box และ Social Bottom ภายในเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่ธุรกิจอัพเดทขึ้น เฟซบุ๊ก ผ่านเว็บไซต์ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กดไลค์ และแชร์ ข้อมูลของธุรกิจได้อย่างสะดวก ซึ่งยังส่งผลให้เพื่อนของผู้เยี่ยมชมเห็นข้อมูลธุรกิจเหล่านั้นอีกด้วย
3. สร้างเนื้อหาที่ดี มีภาพสวย ๆ คลิปวิดีโอสั้น ๆ เทคนิค เคล็ดลับดี ๆ ต้องโพสต์เนื้อหาเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ และควรเป็นในสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป จนมองไม่เห็นสินค้าของธุรกิจ หรือไม่น้อยเกินไป
4. จิตใจที่พร้อมบริการ ผู้ดูแลควรตอบอย่างสุภาพ จริงใจ ไม่แข็งทื่อ และไม่เป็นระบบมากเกินไป นอกจากนั้น ผู้ดูแลยังควรรีบตอบข้อความต่าง ๆ ในทันที หรือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้พลาดการสร้างยอดขายได้
5. นำไปสู่การขาย นอกจากข้อมูลธุรกิจ และเนื้อหาที่ดีแล้ว ผู้ประกอบการควรโพสต์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การขายตามช่องทางต่าง ๆ ให้ลูกค้าคลิกซื้อสินค้าที่เว็บไซต์ธุรกิจ สั่งซื้อสินค้าได้ภายในโพสต์ได้เลย หรือว่าให้ติดต่อเข้ามาผ่านกล่องข้อความ
6. ใช้ Facebook Ads ให้ถูกต้อง ทำโฆษณาบน Facebook หรือ Facebook Ads เนื่องจาก โฆษณาบน Facebook นี้จะทำให้กลุ่มลูกค้าเห็นสินค้าของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงยังเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก ต่างจากการโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ธรรมดา ที่กลุ่มแฟนของธุรกิจจะมีโอกาสเห็นเพียงแค่ 1-3% เท่านั้น ดังนั้นการทำโฆษณาบนเฟซบุ๊กจึงเป็นทางเลือกที่ดีของธุรกิจ ทั้งยังเป็นการลงทุนที่ไม่เกินกำลังของผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อยอีกด้วย แค่หลักร้อยก็สามารถทำโฆษณาได้แล้ว
7. ใช้ฐานลูกค้าเดิมเป็นหัวเชื้อ ข้อมูลลูกค้าที่เคยสั่งซื้อหรือสนใจสินค้า ที่ธุรกิจมีอยู่นั้น ถือเป็นหัวเชื้อสำคัญในการต่อยอดขายให้กับธุรกิจ
8. น่าสนใจเสมอ (Retargeting) ผู้ประกอบการจึงไม่ควรละเลยการเก็บข้อมูลลูกค้าที่ได้จากช่องทางต่าง ๆ และจัดวางอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะได้นำมาใช้งานได้เลย
9. ทำโฆษณาให้ถูกกฎ ในการทำโฆษณาเพื่อโปรโมตสินค้า หรือธุรกิจทุกครั้ง ผู้ประกอบการควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโฆษณาที่ทำขึ้นไปนั้นถูกต้องตามกฎระเบียบของเฟซบุ๊ก
10. Optimization ต้องดูแล และคอยพัฒนาให้โฆษณาของธุรกิจมีผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นไป โดยวัดจากผลลัพธ์เดิมของโฆษณาเหล่านั้น แล้วค่อย ๆ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงชิ้นงานไปเรื่อย ๆ เพื่อให้สุดท้าย การทำโฆษณาแต่ละครั้ง ธุรกิจจะได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นในจำนวนงบประมาณโฆษณาเท่าเดิม.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557
คนไทยใช้เฟซบุ๊กถึง 27 ล้านคน และในแต่ละวันนั้นก็มีการใช้ถึง 2.35 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่นานมาก อีกกว่า 57 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ใช้เฟซบุ๊กจะค้นพบสินค้าหรือรู้จักแบรนด์ต่าง ๆ เป็นครั้งแรก
เรดดี้แพลนเน็ต แนะเคล็ดลับวิธีใช้เฟซบุ๊ก เป็นเครื่องมือในการสร้างและขยายธุรกิจให้เติบโต โดยใช้งบประมาณไม่มาก แต่เน้นการใช้เครื่องมือบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะโซเชียลเน็ตเวิร์ก
บริษัท เรดดี้แพลนเน็ต จำกัด (www.readyplanet.com) มีคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการ ใช้ เฟซบุ๊ก (Facebook) สร้างโอกาสและเพิ่มยอดขาย และใช้เป็นอีกช่องทางในการทำธุรกิจ ตั้งแต่การสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จัก การให้ข้อมูลสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งที่เป็นตัวอักษร รูปภาพ ตลอดจนคลิป เพื่อให้ผู้บริโภคนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อ จนกระทั่งกระบวนการสุดท้ายคือการสั่งซื้อสินค้า ที่ผู้บริโภคก็สามารถทำได้บนเฟซบุ๊ก
ในประเทศไทย ข้อมูลจากผลสำรวจของ TNS ปี 2557 ระบุว่า คนไทยใช้เฟซบุ๊กถึง 27 ล้านคน และในแต่ละวันนั้นก็มีการใช้ถึง 2.35 ชั่วโมง ซึ่งถือเป็นระยะเวลาที่นานมาก อีกกว่า 57 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ใช้เฟซบุ๊กจะค้นพบสินค้าหรือรู้จักแบรนด์ต่าง ๆ เป็นครั้งแรก และอีก 68 เปอร์เซ็นต์ จะค้นหาข้อมูลสินค้าบนเฟซบุ๊กก่อนตัดสินใจซื้อ
เรดดี้แพลนเน็ต มีเทคนิคดี ๆ 10 ข้อ สำหรับผู้ประกอบการ ในการสร้างและขยายธุรกิจผ่านเฟซบุ๊ก ให้เติบโตอย่างคุ้มค่า และมีประสิทธิภาพที่สุด ดังนี้
1. สร้างหน้าเฟซบุ๊กที่ดี ให้ชัดเจน เข้าใจง่าย และมีช่องทางที่ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถติดต่อกับผู้ขายได้สะดวก เช่น ที่ตั้งร้านค้า เวลาทำการ ข้อมูลติดต่อกลับ ประวัติที่มาของธุรกิจ ตลอดจนสินค้าต่าง ๆ จะช่วยให้ธุรกิจนั้นดูมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
2. โปรโมตร่วมกับเว็บไซต์ ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือ Website Visitors ก็สามารถต่อยอดกลายมาเป็นแฟนเพจ ด้วยการติดตั้ง Facebook Like Box และ Social Bottom ภายในเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้เยี่ยมชมได้ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ที่ธุรกิจอัพเดทขึ้น เฟซบุ๊ก ผ่านเว็บไซต์ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์กดไลค์ และแชร์ ข้อมูลของธุรกิจได้อย่างสะดวก ซึ่งยังส่งผลให้เพื่อนของผู้เยี่ยมชมเห็นข้อมูลธุรกิจเหล่านั้นอีกด้วย
3. สร้างเนื้อหาที่ดี มีภาพสวย ๆ คลิปวิดีโอสั้น ๆ เทคนิค เคล็ดลับดี ๆ ต้องโพสต์เนื้อหาเหล่านั้นอย่างสม่ำเสมอ และควรเป็นในสัดส่วนที่พอเหมาะ ไม่มากเกินไป จนมองไม่เห็นสินค้าของธุรกิจ หรือไม่น้อยเกินไป
4. จิตใจที่พร้อมบริการ ผู้ดูแลควรตอบอย่างสุภาพ จริงใจ ไม่แข็งทื่อ และไม่เป็นระบบมากเกินไป นอกจากนั้น ผู้ดูแลยังควรรีบตอบข้อความต่าง ๆ ในทันที หรือให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่เช่นนั้นอาจทำให้พลาดการสร้างยอดขายได้
5. นำไปสู่การขาย นอกจากข้อมูลธุรกิจ และเนื้อหาที่ดีแล้ว ผู้ประกอบการควรโพสต์ข้อมูลเพื่อนำไปสู่การขายตามช่องทางต่าง ๆ ให้ลูกค้าคลิกซื้อสินค้าที่เว็บไซต์ธุรกิจ สั่งซื้อสินค้าได้ภายในโพสต์ได้เลย หรือว่าให้ติดต่อเข้ามาผ่านกล่องข้อความ
6. ใช้ Facebook Ads ให้ถูกต้อง ทำโฆษณาบน Facebook หรือ Facebook Ads เนื่องจาก โฆษณาบน Facebook นี้จะทำให้กลุ่มลูกค้าเห็นสินค้าของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงยังเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมาก ต่างจากการโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ธรรมดา ที่กลุ่มแฟนของธุรกิจจะมีโอกาสเห็นเพียงแค่ 1-3% เท่านั้น ดังนั้นการทำโฆษณาบนเฟซบุ๊กจึงเป็นทางเลือกที่ดีของธุรกิจ ทั้งยังเป็นการลงทุนที่ไม่เกินกำลังของผู้ประกอบการรายเล็กและรายย่อยอีกด้วย แค่หลักร้อยก็สามารถทำโฆษณาได้แล้ว
7. ใช้ฐานลูกค้าเดิมเป็นหัวเชื้อ ข้อมูลลูกค้าที่เคยสั่งซื้อหรือสนใจสินค้า ที่ธุรกิจมีอยู่นั้น ถือเป็นหัวเชื้อสำคัญในการต่อยอดขายให้กับธุรกิจ
8. น่าสนใจเสมอ (Retargeting) ผู้ประกอบการจึงไม่ควรละเลยการเก็บข้อมูลลูกค้าที่ได้จากช่องทางต่าง ๆ และจัดวางอย่างเป็นระบบ เพื่อที่จะได้นำมาใช้งานได้เลย
9. ทำโฆษณาให้ถูกกฎ ในการทำโฆษณาเพื่อโปรโมตสินค้า หรือธุรกิจทุกครั้ง ผู้ประกอบการควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าโฆษณาที่ทำขึ้นไปนั้นถูกต้องตามกฎระเบียบของเฟซบุ๊ก
10. Optimization ต้องดูแล และคอยพัฒนาให้โฆษณาของธุรกิจมีผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นไป โดยวัดจากผลลัพธ์เดิมของโฆษณาเหล่านั้น แล้วค่อย ๆ ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงชิ้นงานไปเรื่อย ๆ เพื่อให้สุดท้าย การทำโฆษณาแต่ละครั้ง ธุรกิจจะได้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้นในจำนวนงบประมาณโฆษณาเท่าเดิม.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2557