ครม.ไฟเขียวร่างเอ็มโอยูไทย-จีน

[brid.siriwan]

ครม.ไฟเขียวร่างเอ็มโอยูไทย-จีน

เดินหน้าสร้างรถไฟทางคู่ -ซื้อข้าวและยาง จากไทย ก่อนชงสนช.เห็นชอบ ตั้งคณะกรรมการ 2 ฝ่ายมาพิจารณาการดำเนินงาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. ได้เห็นชอบเห็นชอบร่างการบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ในการพัฒนารถไฟระหว่างประเทศไทย-จีน ขนาดรางมาตรฐาน ความกว้าง 1.435 เมตร (แสตนดาร์ตเกต) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยขั้นตอนจากนี้ จะเสนอให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นชอบ ก่อนไปลงนามร่วมกันอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ในขั้นตอนการดำเนินงานว่าจะร่วมมือกันในสายใด หรือมีรูปแบบความร่วมมืออย่างไรนั้น จะต้องไปหารือกันในระดับของคณะกรรมการต่อไป

ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในร่างเอ็มโอยูไทย-จีนดังกล่าว มีสาระสำคัญคือการร่วมมือสร้างรถไฟทางคู่ ในเส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 734 กิโลเมตร และเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กิโลเมตร ซึ่งเป็นความร่วมมือในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวร่วมกัน ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนความร่วมมือตามกรอบเอ็มโอยูฉบับดังกล่าว โดยทางฝ่ายไทยมอบหมายให้พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เป็นประธาน ส่วนฝ่ายจีนจะมีประธานคณะกรรมมาธิการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน เป็นประธาน

“คณะกรรมการทั้ง 2 ฝ่ายจะทำหน้าที่ประสานงานร่วมกัน และยังให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมมือ ตั้งแต่การเจรจารายละเอียดโครงการ ว่าจะทำในรูปแบบใดบ้าง รวมถึงงานด้านการสำรวจออกแบบเส้นทาง แนวทางร่วมมือในการก่อสร้างฐานรางรถไฟ โดยใช้กฎระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องการร่วมทุนกัน ซึ่งตามกรอบของเอ็มโอยูดังกล่าว เมื่อได้ผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมครม.แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะต้องเสนอให้ที่ประชุมสนช.พิจารณาเห็นชอบต่อไป”

ร.อ.ยงยุทธ กล่าวว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.ยังเห็นชอบร่างเอ็มโอยูความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรไทย-จีน ซึ่งจีนสนใจที่จะซื้อข้าว และยางพาราจากไทย เพื่อเป็นการสานความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ที่จะครบรอบ 40 ปี ในปีหน้า ซึ่งตามข้อตกลงตอนนี้ยังไม่ได้ระบุปริมาณของสินค้าเกตรของไทยที่จีนจะซื้อจากไทย เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์จะรับหน้าที่เป็นหน่วยงานหลักพิจารณารายละเอียดของข้อตกลงดังกล่าวอีกครั้งว่า จะขายข้าวและยางให้จีนจำนวนเท่าใด


ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 25 พฤศจิกายน 2557