อินโดนีเซียปรับราคาน้ำมัน35%

Post Reply
brid.siriwan
Posts: 3942
Joined: 05 Apr 2013, 08:47

อินโดนีเซียปรับราคาน้ำมัน35%

Post by brid.siriwan »

อินโดนีเซียปรับราคาน้ำมัน35%

การขึ้นราคาครั้งนี้ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียปรับขึ้นจาก 6.500 รูเปี๊ยะห์เป็น 8,500 รูเปี๊ยะห์ หรือเท่ากับปรับสูงขึ้นถึง 31% ในขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นจาก 5.500 รูเปี๊ยะห์เป็น 7,500 รูเปี๊ยะห์

อินโดนีเซียปรับราคาน้ำมัน35% - พลังงานรอบทิศ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย นายโจโก วิโดโด หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “โจโกวี” ซึ่งเพิ่งได้รับเลือกตั้งจากประชาชนให้เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหมาด ๆ ประกาศขึ้นราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศทั้งเบนซินและดีเซลสูงถึง 30-35%

การขึ้นราคาครั้งนี้ทำให้ราคาน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียปรับขึ้นจาก 6.500 รูเปี๊ยะห์เป็น 8,500 รูเปี๊ยะห์ หรือเท่ากับปรับสูงขึ้นถึง 31% ในขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นจาก 5.500 รูเปี๊ยะห์เป็น 7,500 รูเปี๊ยะห์ หรือเพิ่มขึ้นถึง 35% เลยทีเดียว ซึ่งถ้าคิดเป็นเงินไทยก็ขึ้นไปประมาณ 5.40 บาท/ลิตร ในคราวเดียวทั้งน้ำมันเบนซินและดีเซล

อินโดนีเซียได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีการอุดหนุนราคาน้ำมันอย่างมากและอย่างยาวนานจนเป็นภาระหนักต่องบประมาณแผ่นดิน (ใช้เงินงบประมาณมาอุดหนุนราคาน้ำมัน ไม่ได้ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ ที่เก็บจากประชาชนบางกลุ่มมาอุดหนุนราคาน้ำมันแบบบ้านเรา)

ในปีหน้า รัฐบาลได้ตั้งงบอุดหนุนราคาน้ำมันเอาไว้สูงถึง 276 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์ หรือประมาณ 759,000 ล้านบาท เท่ากับ 13.5% ของงบประมาณรายจ่ายทั้งหมดของอินโดนีเซีย

การอุดหนุนราคาน้ำมันอย่างหนักมาเป็นเวลายาวนาน นอกจากเป็นภาระต่องบประมาณทำให้อินโดนีเซียต้องขาดดุลทางการคลัง และค่าเงินอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังทำให้คนอินโดนีเซียใช้น้ำมันกันอย่างฟุ่ม เฟือยและไม่ประหยัด ส่งผลให้ประเทศซึ่งเคยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกต้องกลายมาเป็นประเทศผู้นำเข้าน้ำมันและต้องลาออกจากการเป็นสมาชิกกลุ่มโอเปกในที่สุด

การขึ้นราคาครั้งนี้จะทำให้รัฐบาลลดเงินอุดหนุนไปได้ประมาณ 100 ล้านล้านรูเปี๊ยะห์หรือประมาณ 275,000 ล้านบาท และจะทำให้อินโดนีเซียลดการขาดดุลงบประมาณในปีหน้าลงไปได้จากเดิมที่ตั้งงบขาดดุลเอาไว้เท่ากับ 2.2% ของ GDP

เงินที่ประหยัดไปได้นี้อาจนำไปลงทุนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความมั่นคงทางสังคม เช่น ระบบการศึกษาและสุขอนามัย ให้กับครอบครัวที่ยากจนหรืออยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับความยากจน (poor and near-poor families) ซึ่งจะเป็นการใช้งบประมาณที่เป็นประโยชน์กับประชาชนชาวอินโดนีเซียมากกว่า

เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายอุดหนุนราคาน้ำมันมาอย่างยาวนาน ทำให้การปรับราคาน้ำมันในอินโดนีเซียเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยรัฐบาลเผด็จการของอดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โตก็ถูกโค่นล้มไปโดยอ้างสาเหตุนี้ และเมื่อไรที่มีการขึ้นราคาน้ำมัน ก็จะเกิดการประท้วงในอินโดนีเซียจนบางครั้งลุกลามกลายเป็นการจลาจลไปก็มี

นักวิเคราะห์และนักสังเกตการณ์ทางการเมืองจึงยกย่องการตัดสินใจขึ้นราคาของ “โจโกวี” ในครั้งนี้ว่าเป็นการตัดสินใจที่กล้าหาญ และน่าสนใจว่าคะแนนนิยมของเขาจะลดลงหรือไม่หลังการตัดสินใจครั้งนี้

แต่ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ผมว่า “โจโกวี” ก็ได้สร้างแบบอย่างของผู้นำที่กล้าทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง เพื่อผลประโยชน์ในระยะยาวของประเทศ

ซึ่งนักการเมืองหรือผู้นำของเราควรจดจำไว้เป็นแบบอย่างครับ.

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”