“อารีพงศ์”จี้จัดระเบียบพลังงานทดแทน ขู่ฟ่อนำไปเร่ขายต่อสั่งย
Posted: 28 Nov 2014, 10:25
“อารีพงศ์”จี้จัดระเบียบพลังงานทดแทน ขู่ฟ่อนำไปเร่ขายต่อสั่งยึดใบอนุญาตทันที
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงข้อห่วงใยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา ถึงกรณีพบเอกชนหลายรายที่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน แต่ไม่ยอมก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามสัญญา และนายกฯได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีการเร่ขายใบอนุญาตนั้น ขณะนี้ได้เร่งแก้ไขปัญหาด้วยการใช้มาตรการเข้มข้น เพื่อจัดระเบียบภาคเอกชนที่มีพฤติกรรมเป็นกาฝาก อาศัยช่องว่างของระเบียบข้อบังคับเพื่อหาผลประโยชน์ จึงขอเตือนไปยังผู้ประกอบการที่จะขายต่อใบอนุญาตจัดตั้งโรงไฟฟ้า หากพบว่าผู้ประกอบการรายใดมีพฤติกรรมอาศัยช่องว่างของสัญญาเพื่อหาผลประโยชน์ ก็ต้องหาบทลงโทษที่เฉียบขาด ซึ่งอาจต้องยกเลิกสัญญาและยึดใบอนุญาตกลับมาทันที
ทั้งนี้ ล่าสุดกระทรวงพลังงาน ได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดและตรวจสอบคู่สัญญากับผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าที่อยู่ในข่ายได้รับใบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว แต่ยังไม่เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังได้ขอให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งขนาดเล็ก (เอสพีพี) ขนาด 10-90 เมกะวัตต์ และขนาดเล็กมาก (วีเอสพีพี) ขนาดต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ ตรวจสอบความคืบหน้าในสัญญาของโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง หากพื้นที่ใดยังไม่ได้ดำเนินการขอให้แจ้งเพื่อพิจารณาและมีมาตรการและบทลงโทษต่อไป.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 28 พ.ย. 2557
นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แสดงข้อห่วงใยในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา ถึงกรณีพบเอกชนหลายรายที่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงไฟฟ้า โดยเฉพาะในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน แต่ไม่ยอมก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามสัญญา และนายกฯได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีการเร่ขายใบอนุญาตนั้น ขณะนี้ได้เร่งแก้ไขปัญหาด้วยการใช้มาตรการเข้มข้น เพื่อจัดระเบียบภาคเอกชนที่มีพฤติกรรมเป็นกาฝาก อาศัยช่องว่างของระเบียบข้อบังคับเพื่อหาผลประโยชน์ จึงขอเตือนไปยังผู้ประกอบการที่จะขายต่อใบอนุญาตจัดตั้งโรงไฟฟ้า หากพบว่าผู้ประกอบการรายใดมีพฤติกรรมอาศัยช่องว่างของสัญญาเพื่อหาผลประโยชน์ ก็ต้องหาบทลงโทษที่เฉียบขาด ซึ่งอาจต้องยกเลิกสัญญาและยึดใบอนุญาตกลับมาทันที
ทั้งนี้ ล่าสุดกระทรวงพลังงาน ได้กำชับไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดและตรวจสอบคู่สัญญากับผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าที่อยู่ในข่ายได้รับใบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแล้ว แต่ยังไม่เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังได้ขอให้เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ประจำจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ทั้งขนาดเล็ก (เอสพีพี) ขนาด 10-90 เมกะวัตต์ และขนาดเล็กมาก (วีเอสพีพี) ขนาดต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ ตรวจสอบความคืบหน้าในสัญญาของโรงไฟฟ้าแต่ละแห่ง หากพื้นที่ใดยังไม่ได้ดำเนินการขอให้แจ้งเพื่อพิจารณาและมีมาตรการและบทลงโทษต่อไป.
ที่มา ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 28 พ.ย. 2557