เตรียมรับความสุข “พาณิชย์” จัดเต็ม จับมือห้างลดราคาสินค้า 20
Posted: 28 Nov 2014, 18:07
เตรียมรับความสุข “พาณิชย์” จัดเต็ม จับมือห้างลดราคาสินค้า 20-70% ทั่วไทยรวม 7 วัน ดีเดย์ 24-30 ธ.ค.นี้
“พาณิชย์” ส่งความสุข มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน จับมือห้างลดราคาสินค้าทั่วประเทศ 20-70% รวมกว่า 1.2 หมื่นสาขา ดีเดย์ 24-30 ธ.ค.นี้ พร้อมเปิดตัวรายละเอียดโครงการ 17 ธ.ค. ผู้ผลิตยอมกัดฟันขายขาดทุนเพื่อชาติ ส่วนห้างเชื่อกระตุ้นกำลังซื้อได้เพิ่มขึ้น
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการและผู้บริหารห้างสรรพสินค้า36 ราย เรื่องของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2557 ว่า ผู้ประกอบการทั้งหมดพร้อมให้ความร่วมมือที่จะเข้าร่วมโครงการของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทย เพื่อตอบรับนโยบายรัฐบาล โดยผู้ประกอบการยืนยันที่จะลดราคาสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 20-70% จะจัดทั้งสิ้น 7 วัน ระหว่างวันที่ 24-30 ธ.ค. 2557 และจะมีการแถลงข่าวเปิดตัวรายละเอียดโครงการอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธ.ค. 2557 นี้
ทั้งนี้ โครงการลดราคาสินค้าเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ เป็นความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตสินค้าที่นำสินค้ามาลดราคาภายในห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านสะดวกซื้อ ที่เข้าร่วมโครงการ 15 ราย มีสาขาทั่วประเทศ 12,763 สาขา ซึ่งจะนำสินค้ามาลดราคาทุกแผนกทุกสาขาให้แก่ประชาชน ได้แก่ เทสโก้โลตัส แม็คโคร บิ๊กซี ห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน ห้างเดอะมอล์ ห้างตั้งฮั่วเส็ง ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต ฟูดแลนด์ แม็คแวลู เจซี มาร์ท เซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ลอว์สัน 108 และ ซีพีเฟรชมาร์ท
สำหรับสินค้าที่นำมาลดราคา ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม เช่น ข้าวถุง ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำดื่ม ของใช้ประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก กลุ่มเครื่องแต่งกายเสื้อผ้า เช่น ชุดชั้นใน เครื่องหนัง ของใช้ในครัวเรือน เช่น เครื่องครัว เครื่องนอน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์การเรียน
“การประชุมวันนี้ ผมมีความสุขที่จะมีโครงการของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ซึ่งนอกจากกลุ่มสินค้าแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์กำลังมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือภายในกระทรวงฯ แต่อาจต้องรอเวลาหน่อย ซึ่งกระทรวงฯ อยากขอความร่วมมือกับประชาชนว่าอย่าซื้อสินค้าเพื่อเป็นการกักตุน โดยต้องการให้ซื้อเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนสำคัญ ซื้อเพื่อใช้ ซื้อเพื่อบริโภคจะดีกว่า” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
นายเวทิต โชควัฒนา รองประธานผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทจะนำสินค้าจำนวนมากมาลดราคาขายให้มากกว่าปกติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ โดยการลดราคาครั้งนี้จะแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และทำให้ทุกคนมีความสุขได้ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า ปกติซองละ 6 บาท แต่จะขายเพียงซองละ 4.10 บาทเท่านั้น แม้จะทำให้บริษัทขาดทุนก็ตาม และขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะขาดทุนเท่าไร ต้องดูรายละเอียดรายการสินค้าที่จะนำมาลดราคาก่อนว่ามีจำนวนเท่าไร และจะลดราคาได้กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องที่ต้องการให้ห้างลดค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากซัปพลายเออร์นั้นกำลังพูดคุยกันอยู่ น่าจะตกลงกันได้ เพราะทุกคนพร้อมจะช่วย
“พร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ และลดราคาขายมากกว่าปกติ แม้จะขาดทุนก็ตาม ถือว่าในช่วงโครงการทั้ง 7 วันเรายอมเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อช่วยชาติ” นายเวทิตกล่าว
นายอภิสิทธิ์ ปิติยานุเคราะห์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซนเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่ทุกปี ห้างมีโปรโมชันลดราคาสินค้าอยู่แล้ว 30-80% เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการลดราคาสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนระหว่างวันที่ 24-30 ธ.ค. โดยจะลดราคาขายสินค้าในห้างมากกว่าอัตราที่ลดในช่วงโปรโมชัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะมีสัญลักษณ์ปิดไว้ที่สินค้า เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ส่วนกรณีที่ซัปพลายเออร์ต้องการให้ห้างค้าปลีกลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้นั้น ห้างคุยกับซัปพลายเออร์อยู่แล้ว และยืนยันจะลดให้แน่นอน แต่ห้างก็ต้องการให้ซัปพลายเออร์ยืนยันจะส่งสินค้าให้ไม่ขาดด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ข้าวสารบรรจุถุง ซัปพลายเออร์บอกจะส่งสินค้าเข้าร่วมโครงการนี้ 1 หมื่นกระสอบ เพื่อส่งไปยังห้างค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ซึ่งต้องรับรองว่า จะกระจายไปอย่างทั่วถึง และไม่เกิดภาวะขาดตลาด เพราะถ้าสินค้าขาดตลาด ห้างต้องเดือดร้อน และถูกประชาชนตำหนิ หรือร้องเรียนได้
นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า โครงการนี้จัดในช่วงสั้นๆ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ได้ผลในการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งปกติทุกห้างและเอกชนก็จะมีแคมเปญพิเศษกันอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้จะได้ภาพเรื่องพลังความร่วมมือ และบางกลุ่มสินค้าจะมีสินค้าราคาไฮไลต์ลดกว่าปกติที่ลดกันอยู่
แหล่งข่าวจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่งกล่าวว่า ปกติช่วงปลายปีห้างจะมีการจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าส่งท้ายปี 30-70% อยู่แล้ว แต่ปีนี้ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ โดยจะลดสินค้า 500 กว่ารายการ ซึ่งต้องขอขอบคุณซัปพลายเออร์ที่ยอมลดราคาสินค้าลงมาให้ ส่วนเรื่องการลดค่าธรรมเนียม ห้างสรรพสินค้าไม่ได้มีปัญหากับซัปพลายเออร์ เพราะส่วนใหญ่กลุ่มที่ต้องการให้ลดค่าธรรมเนียมจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายในซูเปอร์มาร์เกตหรือห้างค้าปลีกมากกว่า
“โครงการลดราคาสินค้าเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ มองว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้เพิ่มขึ้น เพราะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ซึ่งในเดือน ธ.ค.กำลังซื้อจะกลับมากระเตื้องขึ้นบ้าง จากก่อนหน้านี้ที่ซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ” แหล่งข่าวกล่าว
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2557
“พาณิชย์” ส่งความสุข มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน จับมือห้างลดราคาสินค้าทั่วประเทศ 20-70% รวมกว่า 1.2 หมื่นสาขา ดีเดย์ 24-30 ธ.ค.นี้ พร้อมเปิดตัวรายละเอียดโครงการ 17 ธ.ค. ผู้ผลิตยอมกัดฟันขายขาดทุนเพื่อชาติ ส่วนห้างเชื่อกระตุ้นกำลังซื้อได้เพิ่มขึ้น
พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับผู้ประกอบการและผู้บริหารห้างสรรพสินค้า36 ราย เรื่องของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทย เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2557 ว่า ผู้ประกอบการทั้งหมดพร้อมให้ความร่วมมือที่จะเข้าร่วมโครงการของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทย เพื่อตอบรับนโยบายรัฐบาล โดยผู้ประกอบการยืนยันที่จะลดราคาสินค้าพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่ 20-70% จะจัดทั้งสิ้น 7 วัน ระหว่างวันที่ 24-30 ธ.ค. 2557 และจะมีการแถลงข่าวเปิดตัวรายละเอียดโครงการอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 ธ.ค. 2557 นี้
ทั้งนี้ โครงการลดราคาสินค้าเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ เป็นความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตสินค้าที่นำสินค้ามาลดราคาภายในห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัยใหม่ และร้านสะดวกซื้อ ที่เข้าร่วมโครงการ 15 ราย มีสาขาทั่วประเทศ 12,763 สาขา ซึ่งจะนำสินค้ามาลดราคาทุกแผนกทุกสาขาให้แก่ประชาชน ได้แก่ เทสโก้โลตัส แม็คโคร บิ๊กซี ห้างเซ็นทรัล ห้างโรบินสัน ห้างเดอะมอล์ ห้างตั้งฮั่วเส็ง ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต ฟูดแลนด์ แม็คแวลู เจซี มาร์ท เซเว่นอีเลฟเว่น แฟมิลี่มาร์ท ลอว์สัน 108 และ ซีพีเฟรชมาร์ท
สำหรับสินค้าที่นำมาลดราคา ได้แก่ อาหาร เครื่องดื่ม เช่น ข้าวถุง ไข่ไก่ น้ำมันพืช น้ำดื่ม ของใช้ประจำวัน เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก กลุ่มเครื่องแต่งกายเสื้อผ้า เช่น ชุดชั้นใน เครื่องหนัง ของใช้ในครัวเรือน เช่น เครื่องครัว เครื่องนอน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์การเรียน
“การประชุมวันนี้ ผมมีความสุขที่จะมีโครงการของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน ซึ่งนอกจากกลุ่มสินค้าแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์กำลังมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่ประชาชน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือภายในกระทรวงฯ แต่อาจต้องรอเวลาหน่อย ซึ่งกระทรวงฯ อยากขอความร่วมมือกับประชาชนว่าอย่าซื้อสินค้าเพื่อเป็นการกักตุน โดยต้องการให้ซื้อเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่คนสำคัญ ซื้อเพื่อใช้ ซื้อเพื่อบริโภคจะดีกว่า” พล.อ.ฉัตรชัยกล่าว
นายเวทิต โชควัฒนา รองประธานผู้อำนวยการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทจะนำสินค้าจำนวนมากมาลดราคาขายให้มากกว่าปกติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ โดยการลดราคาครั้งนี้จะแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา และทำให้ทุกคนมีความสุขได้ เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า ปกติซองละ 6 บาท แต่จะขายเพียงซองละ 4.10 บาทเท่านั้น แม้จะทำให้บริษัทขาดทุนก็ตาม และขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะขาดทุนเท่าไร ต้องดูรายละเอียดรายการสินค้าที่จะนำมาลดราคาก่อนว่ามีจำนวนเท่าไร และจะลดราคาได้กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องที่ต้องการให้ห้างลดค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากซัปพลายเออร์นั้นกำลังพูดคุยกันอยู่ น่าจะตกลงกันได้ เพราะทุกคนพร้อมจะช่วย
“พร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ และลดราคาขายมากกว่าปกติ แม้จะขาดทุนก็ตาม ถือว่าในช่วงโครงการทั้ง 7 วันเรายอมเฉือนเนื้อตัวเองเพื่อช่วยชาติ” นายเวทิตกล่าว
นายอภิสิทธิ์ ปิติยานุเคราะห์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซนเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ในช่วงปีใหม่ทุกปี ห้างมีโปรโมชันลดราคาสินค้าอยู่แล้ว 30-80% เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ในการลดราคาสินค้าเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนระหว่างวันที่ 24-30 ธ.ค. โดยจะลดราคาขายสินค้าในห้างมากกว่าอัตราที่ลดในช่วงโปรโมชัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะมีสัญลักษณ์ปิดไว้ที่สินค้า เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ส่วนกรณีที่ซัปพลายเออร์ต้องการให้ห้างค้าปลีกลดค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้นั้น ห้างคุยกับซัปพลายเออร์อยู่แล้ว และยืนยันจะลดให้แน่นอน แต่ห้างก็ต้องการให้ซัปพลายเออร์ยืนยันจะส่งสินค้าให้ไม่ขาดด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ข้าวสารบรรจุถุง ซัปพลายเออร์บอกจะส่งสินค้าเข้าร่วมโครงการนี้ 1 หมื่นกระสอบ เพื่อส่งไปยังห้างค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ ซึ่งต้องรับรองว่า จะกระจายไปอย่างทั่วถึง และไม่เกิดภาวะขาดตลาด เพราะถ้าสินค้าขาดตลาด ห้างต้องเดือดร้อน และถูกประชาชนตำหนิ หรือร้องเรียนได้
นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า โครงการนี้จัดในช่วงสั้นๆ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ได้ผลในการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และสร้างบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งปกติทุกห้างและเอกชนก็จะมีแคมเปญพิเศษกันอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้จะได้ภาพเรื่องพลังความร่วมมือ และบางกลุ่มสินค้าจะมีสินค้าราคาไฮไลต์ลดกว่าปกติที่ลดกันอยู่
แหล่งข่าวจากผู้ค้าปลีกรายใหญ่แห่งหนึ่งกล่าวว่า ปกติช่วงปลายปีห้างจะมีการจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าส่งท้ายปี 30-70% อยู่แล้ว แต่ปีนี้ก็พร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐ โดยจะลดสินค้า 500 กว่ารายการ ซึ่งต้องขอขอบคุณซัปพลายเออร์ที่ยอมลดราคาสินค้าลงมาให้ ส่วนเรื่องการลดค่าธรรมเนียม ห้างสรรพสินค้าไม่ได้มีปัญหากับซัปพลายเออร์ เพราะส่วนใหญ่กลุ่มที่ต้องการให้ลดค่าธรรมเนียมจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่ขายในซูเปอร์มาร์เกตหรือห้างค้าปลีกมากกว่า
“โครงการลดราคาสินค้าเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ มองว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อได้เพิ่มขึ้น เพราะดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ซึ่งในเดือน ธ.ค.กำลังซื้อจะกลับมากระเตื้องขึ้นบ้าง จากก่อนหน้านี้ที่ซบเซาตามภาวะเศรษฐกิจ” แหล่งข่าวกล่าว
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2557