เอไอเอส-ทรูมูฟ พร้อมขาย iPad Air 2 และ iPad Mini 3
Posted: 28 Nov 2014, 18:15
เอไอเอส-ทรูมูฟ พร้อมขาย iPad Air 2 และ iPad Mini 3
เอไอเอส และทรูมูฟ เอช ต่างประกาศวางจำหน่าย iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ตาหมหน้าร้านทั่วประเทศ พร้อมกับแพกเกจการใช้งานที่มีให้เลือกหลากหลาย
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขายบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสเชื่อมั่นว่าการเปิดจำหน่ายแท็บเล็ตทั้ง iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ของเอไอเอสในครั้งนี้ จะสามารถตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าในยุคดิจิตอลไลฟ์ได้เป็นอย่างดี
โดยเอไอเอส มีทั้งแพกเกจดาต้า สำหรับลูกค้าเอไอเอส 3G รายเดือนปัจจุบัน เล่นเน็ตไม่อั้น นาน 12 เดือน เริ่มต้นเพียง 350 บาท/เดือน และสิทธิพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือน (สำหรับการซื้อเครื่องพร้อมแพกเกจ)
ลูกค้าสามารถซื้อ iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ได้ที่เอไอเอส ชอปทั่วประเทศ และร้านเทเลวิซ ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคา และแพกเกจ iPad จากเอไอเอสได้ที่ ww w.ais.co.th/iPad-Air หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad ได้ที่ www.apple.com/ipad
ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายของเอไอเอส จะมีทั้งราคาเครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพกเกจคือ iPad Air 2 รุ่น 16 GB 64 GB และ 128 GB เครื่องเปล่าจะอยู่ที่ 21,400 บาท 24,600 บาท และ 28,100 บาท ตามลำดับ ส่วนราคาพร้อมแพกเกจจะอยู่ที่ 20,400 บาท 23,00 บาท และ 25,500 บาท
ส่วน iPad Mini 3 16 GB 64 GB และ 128 GB ราคาเครื่องเปล่าจะอยู่ที่ 17,900 บาท 21,400 บาท และ 24,900 บาท ส่วนราคาพร้อมแพกเกจจะอยู่ที่ 16,900 บาท 19,900 บาท และ 22,400 บาท ตามลำดับ
ส่วนทางทรูมูฟ เอช เลือกนำเสนอแพกเกจดาต้าที่ตอบรับความต้องการของลูกค้าให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วผ่าน เครือข่าย 3G และ WiFi ครอบคลุมทั่วไทย และ 4G LTE ที่ใช้ได้จริงในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และใจกลางเมืองอีก 14 จังหวัด ราคาแพกเกจเริ่มต้นที่ 349 บาท
โดยลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของ iPad Air 2 รุ่น WiFi+Cellular และ iPad mini 3 รุ่น WiFi+Cellular ได้ที่ทรูชอป หรือผ่านทางออนไลน์ www.truemove-h.com/ipad ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม และราคาได้ที่ www.truemove-h.com/ipad
ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายของทรูมูฟ เอช ทั้งแบบเครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพกเกจ แบ่งเป็น iPad Air 2 รุ่น 16 GB 64 GB และ 128 GB จะอยู่ที่ 21,400 บาท 24,600 บาท และ 28,100 บาท ตามลำดับ ส่วน iPad Mini 3 16 GB 64 GB และ 128 GB จะอยู่ที่ 17,900 บาท 21,400 บาท และ 24,900 บาท
สำหรับ iPad Air 2 ถือเป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักเพียง 437กรัม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งวัน โดยมาพร้อมนวัตกรรมอันน่าทึ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเรตินาใหม่ที่ช่วยลดแสงสะท้อน กล้องแบบ iSight และกล้องด้านหน้า FaceTime HD ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่สำหรับการถ่ายภาพ และวิดีโอคุณภาพเยี่ยม
ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผล A8x ยุคที่ 2 แบบ 64 บิต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลาง และการประมวลผลกราฟิก การเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม พร้อมรองรับเทคโนโลยีไร้สาย LTE และ Touch ID ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะมากถึง 675,000 แอปฯ โดยมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นานกว่า 10 ชั่วโมง โดย iPad Air 2 และ iPad mini 3 ที่มาพร้อมนวัตกรรม Touch ID นี้ มีให้เลือกได้ถึง 3 สีสุดหรูหรา ได้แก่ สีทอง สีเงิน และสีสเปซเกรย์
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557
เอไอเอส และทรูมูฟ เอช ต่างประกาศวางจำหน่าย iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ตาหมหน้าร้านทั่วประเทศ พร้อมกับแพกเกจการใช้งานที่มีให้เลือกหลากหลาย
นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขายบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสเชื่อมั่นว่าการเปิดจำหน่ายแท็บเล็ตทั้ง iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ของเอไอเอสในครั้งนี้ จะสามารถตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าในยุคดิจิตอลไลฟ์ได้เป็นอย่างดี
โดยเอไอเอส มีทั้งแพกเกจดาต้า สำหรับลูกค้าเอไอเอส 3G รายเดือนปัจจุบัน เล่นเน็ตไม่อั้น นาน 12 เดือน เริ่มต้นเพียง 350 บาท/เดือน และสิทธิพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือน (สำหรับการซื้อเครื่องพร้อมแพกเกจ)
ลูกค้าสามารถซื้อ iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ได้ที่เอไอเอส ชอปทั่วประเทศ และร้านเทเลวิซ ที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคา และแพกเกจ iPad จากเอไอเอสได้ที่ ww w.ais.co.th/iPad-Air หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad ได้ที่ www.apple.com/ipad
ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายของเอไอเอส จะมีทั้งราคาเครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพกเกจคือ iPad Air 2 รุ่น 16 GB 64 GB และ 128 GB เครื่องเปล่าจะอยู่ที่ 21,400 บาท 24,600 บาท และ 28,100 บาท ตามลำดับ ส่วนราคาพร้อมแพกเกจจะอยู่ที่ 20,400 บาท 23,00 บาท และ 25,500 บาท
ส่วน iPad Mini 3 16 GB 64 GB และ 128 GB ราคาเครื่องเปล่าจะอยู่ที่ 17,900 บาท 21,400 บาท และ 24,900 บาท ส่วนราคาพร้อมแพกเกจจะอยู่ที่ 16,900 บาท 19,900 บาท และ 22,400 บาท ตามลำดับ
ส่วนทางทรูมูฟ เอช เลือกนำเสนอแพกเกจดาต้าที่ตอบรับความต้องการของลูกค้าให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วผ่าน เครือข่าย 3G และ WiFi ครอบคลุมทั่วไทย และ 4G LTE ที่ใช้ได้จริงในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และใจกลางเมืองอีก 14 จังหวัด ราคาแพกเกจเริ่มต้นที่ 349 บาท
โดยลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของ iPad Air 2 รุ่น WiFi+Cellular และ iPad mini 3 รุ่น WiFi+Cellular ได้ที่ทรูชอป หรือผ่านทางออนไลน์ www.truemove-h.com/ipad ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม และราคาได้ที่ www.truemove-h.com/ipad
ทั้งนี้ ราคาจำหน่ายของทรูมูฟ เอช ทั้งแบบเครื่องเปล่า และเครื่องพร้อมแพกเกจ แบ่งเป็น iPad Air 2 รุ่น 16 GB 64 GB และ 128 GB จะอยู่ที่ 21,400 บาท 24,600 บาท และ 28,100 บาท ตามลำดับ ส่วน iPad Mini 3 16 GB 64 GB และ 128 GB จะอยู่ที่ 17,900 บาท 21,400 บาท และ 24,900 บาท
สำหรับ iPad Air 2 ถือเป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักเพียง 437กรัม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งวัน โดยมาพร้อมนวัตกรรมอันน่าทึ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเรตินาใหม่ที่ช่วยลดแสงสะท้อน กล้องแบบ iSight และกล้องด้านหน้า FaceTime HD ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่สำหรับการถ่ายภาพ และวิดีโอคุณภาพเยี่ยม
ยังมาพร้อมกับชิปประมวลผล A8x ยุคที่ 2 แบบ 64 บิต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลาง และการประมวลผลกราฟิก การเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม พร้อมรองรับเทคโนโลยีไร้สาย LTE และ Touch ID ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการใช้งานแอปพลิเคชันที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะมากถึง 675,000 แอปฯ โดยมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นานกว่า 10 ชั่วโมง โดย iPad Air 2 และ iPad mini 3 ที่มาพร้อมนวัตกรรม Touch ID นี้ มีให้เลือกได้ถึง 3 สีสุดหรูหรา ได้แก่ สีทอง สีเงิน และสีสเปซเกรย์
ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557