ธปท.เล็งดึงสหกรณ์เข้าเครดิตบูโร

Post Reply
brid.siriwan
Posts: 3942
Joined: 05 Apr 2013, 08:47

ธปท.เล็งดึงสหกรณ์เข้าเครดิตบูโร

Post by brid.siriwan »

ธปท.เล็งดึงสหกรณ์เข้าเครดิตบูโร

หวังเช็คสถานนะลูกหนี้ว่ามีพฤติกรรมการชำระเงินอย่างไรบ้าง เชื่อจะทำให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.มีแนวคิดที่จะดึงสหกรณ์ออมทรัพย์ต่างๆ เข้ามาเป็นสมาชิกของ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เพื่อให้สหกรณ์มีข้อมูลของผู้กู้เพิ่มมากขึ้นเช่น ผู้กู้มีหนี้กับสถาบันการเงินอื่น ๆ อยู่หรือไม่ พฤติกรรมการชำระหนี้เป็นอย่างไรความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งปัจจุบันนี้ มีสมาชิกในสหกรณ์ 11 ล้านคน รวมมูลค่าสินเชื่อ1.6 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 10%ของสินเชื่อทั้งระบบ โดยล่าสุดธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เตรียมที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกแล้วซึ่งมีสมาชิก 10 ล้านบัญชี ส่วนใหญ่เป็นรายย่อย

“ธปท.พยายามดึงสหกรณ์ออมทรัพย์ เข้ามาเป็นสมาชิกเครดิต เพราะสหกรณ์ใกล้ชิดกับรายย่อยมากรู้ที่มา ที่ไป รายได้ รู้ว่ามีงานทำหรือไม่ รวมถึงหากผิดนัดชำระ ยังหักจากเงินเดือนได้เลย เนื่องจากลูกหนี้ส่วนใหญ่ที่เป็นสมาชิกในสังกัดของหน่วยงานที่มีการตั้งสหกรณ์อยู่แล้ว แต่การเข้ามาอยู่ในเครดิตบูโรนั้น จะช่วยให้การปล่อยสินเชื่อนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น สหกรณ์สามารถตรวจสอบได้ว่าลูกหนี้ที่ขอกู้นั้น มีพฤติกรรมการชำระหนี้เป็นอย่างไรเป็นต้น”

ทั้งนี้ยอมรับว่าสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นองค์กรที่ดี แต่ต้องระมัดระวัง เนื่องจากมีบางกรณี ที่ปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่ไม่สมควรได้แต่ได้รับสินเชื่อ เช่นกลุ่มที่มีภาระหนี้สินมากและอีกกลุ่มหนึ่ง คือกลุ่มที่ควรได้รับการพิจารณาในการได้รับสินเชื่อ แต่ไม่ได้ดังนั้นเมื่อสหกรณ์เข้ามาอยู่ในเครดิตบูโร จะสามารถตรวจสอบข้อมูลของลูกหนี้ได้มากขึ้น

ส่วนปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนนั้น ธปท.ได้จุดประเด็นเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา ว่าต้องเพิ่มความระมัดระวังในวงกว้าง โดยต้องเร่งหาทางออก เพื่อให้ผู้กู้และผู้ให้กู้นั้นมีวินัยทางเครดิต บางครั้งการปล่อยสินเชื่อที่ผิดพลาด อาจเกิดจากการไม่มีข้อมูลของผู้กู้ ซึ่งการให้สหกรณ์เข้ามาอยู่ในระบบนั้น จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งได้ แต่ธปท.จะไม่เข้าไปยุ่งในส่วนของกิจการของสหกรณ์ที่ดำเนินการอยู่ เนื่องจากที่ผ่านมาสหกรณ์ดำเนินการดีอยู่แล้ว

นอกจากนั้นธปท.ได้ปรับหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวกับวิธีการ และเงื่อนไขใหม่ในการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับสำหรับผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน(นอนแบงก์)ให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เพื่อให้เกณฑ์การกำกับดูแลดังกล่าวครอบคลุม และเอื้อไปสู่การปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ตามแนวคิดของกระทรวงการคลังได้ในอนาคต

นายประสาร กล่าวว่า ในปี 58 ธปท.ยังคงต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจโลก แม้มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐ จะมีโอกาสการเติบโต แต่เศรษฐกิจสหภาพยุโรปและจีน ยังต้องติดตามต่อขณะที่ในประเทศนั้น ต้องดูแลสมดุลเศรษฐกิจ 4 ด้าน ได้แก่นโยบายการเงินเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ดอกเบี้ย, ระบบสถาบันการเงินต้องดูแลคุณภาพสินเชื่อ, ฐานะการคลังของประเทศที่ได้รับการยอมรับและมีความเชื่อมั่นจากต่างชาติในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา รวมทั้ง ดูแลด้านดุลบัญชีเดินสะพัด


ที่มา เดลิินิวส์
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2557
Post Reply

Return to “แจ้งข่าว ไทย ERP และข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ”