เสาวรสไม้เถาเลื้อย กินก็ได้ประดับก็สวย - ต้นไม้ชายคา
Posted: 29 Nov 2014, 16:39
เสาวรสไม้เถาเลื้อย กินก็ได้ประดับก็สวย - ต้นไม้ชายคา
สำหรับการปลูกที่มีเป้าหมายเพื่อการประดับด้วยนั้น ควรจะปลูกแบบให้น้ำ ซึ่งเสาวรสจะให้ผลผลิตได้ทันทีเมื่ออายุประมาณ 5-7 เดือนหลังจากปลูก และให้ผลผลิตได้ตลอดปี
เสาวรสไม้เถาเลื้อย กินก็ได้ประดับก็สวย - ต้นไม้ชายคา
เสาวรสเป็นไม้ผลเขตร้อนชนิดเถาเลื้อยมี 2 ชนิดคือ เสาวรสโรงงาน มี 2 พันธุ์ ได้แก่ ผลสีเหลือง และผลสีม่วง และเสาวรสรับประทานสดหรือเสาวรสหวาน ซึ่งมีอยู่ 2 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์รับประทานสด 1 และรับประทานสด 2 ซึ่งทั้ง 2 พันธุ์ มีผิวผลสีม่วง
โดยธรรมชาติเสาวรสจะออกดอกและให้ผลผลิตเมื่อมีอายุประมาณ 5-7 เดือนหลังปลูกด้วยเมล็ด ปกติแล้วเสาวรสจะให้ผลผลิตได้ตลอดปีถ้าไม่ขาดน้ำ ในสภาพที่ปลูกโดยอาศัยน้ำฝน จะให้ผลผลิตได้ดีในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
สำหรับการปลูกที่มีเป้าหมายเพื่อการประดับด้วยนั้น ควรจะปลูกแบบให้น้ำ ซึ่งเสาวรสจะให้ผลผลิตได้ทันทีเมื่ออายุประมาณ 5-7 เดือนหลังจากปลูก และให้ผลผลิตได้ตลอดปี สามารถปลูกได้ทุกช่วงเวลา ขั้นตอนการปลูก เริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นที่ ควรมีการพรวนพื้นที่แบบหว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ในขณะพรวนพื้นที่ไปพร้อม ๆ กัน เนื่องจากเสาวรสมีระบบรากตื้นแต่แผ่กว้าง ผิวดินจึงควรมีอาหารมากและเพียงพอสำหรับการหากินของราก
จากนั้นขุดหลุมปลูกโดยให้มีระยะปลูก 3x3 เมตร มีขนาด 30x30x30 เซนติเมตรและอยู่บริเวณโคนเสาค้างเพราะจะทำให้การเลื้อยเกาะสะดวกและง่ายต่อการดูแล รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ และควรเตรียมหลุมปลูกก่อนล่วงหน้าระยะหนึ่งเพื่อให้อินทรียวัตถุที่ใส่ลงไปเกิดการย่อยสลายก่อนนำต้นพันธุ์ลงปลูก
ต้นกล้าควรเตรียมไว้ล่วงหน้าให้พอดีกับช่วงเวลาที่จะปลูก เพื่อไม่ให้ต้นกล้าอ่อนแอหรือแก่เกินไปซึ่งจะมีผลให้ระบบรากไม่ดี หลังจากเตรียมหลุมปลูกแล้วจึงนำต้นกล้าลงปลูกได้ ในกรณีที่ปลูกด้วยต้นพันธุ์ที่มาจากการเสียบยอดต้องให้รอยต่อของยอดพันธุ์กับต้นตออยู่สูงกว่าระดับดิน เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าทางรอยต่อและต้องแกะเอาวัสดุพันกิ่งออก เมื่อปลูกต้นกล้าแล้วให้ใช้หลักไม้ไผ่ขนาดเล็กความสูงถึงระดับค้างปักและผูกเถาติดกับหลักหรือเสาค้าง เพื่อให้ยอดของต้นตั้งตรงตลอดเวลา ต้นจึงจะเจริญเติบโตได้เร็วและหมั่นผูกเถากับหลักอยู่เสมอ ๆ เมื่อยอดเจริญยาวขึ้นมา
เนื่องจากเสาวรสเป็นไม้ผลประเภทเถาเลื้อย การปลูกจึงต้องมีค้างรองรับต้นและค้างต้องแข็งแรงเพียงพอสามารถใช้งานได้อย่างน้อย 3 ปี ต่อการปลูก 1 ครั้ง ซึ่งปัจจุบันหลายพื้นที่นิยมทำค้างแบบซุ้มให้ร่มเงาตามเส้นทางเดินหรือลานจอดรถ ซึ่งเสาวรสจะใช้เวลาในการเลื้อยเกาะประมาณ 3 เดือนก็จะเต็มค้างที่สร้างให้
โดยธรรมชาติเสาวรสจะออกดอกติดผลได้ง่าย โดยดอกจะเกิดที่ทุกข้อบริเวณโคนก้านใบของกิ่งใหม่ และมักจะติดผลมากทำให้ผลผลิตคุณภาพไม่สม่ำเสมอ จึงควรปลิดผลที่มีคุณภาพต่ำทิ้ง ให้ผลที่เหลืออยู่มีคุณภาพดี โดยเฉพาะเสาวรสรับประทานสด.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2557
สำหรับการปลูกที่มีเป้าหมายเพื่อการประดับด้วยนั้น ควรจะปลูกแบบให้น้ำ ซึ่งเสาวรสจะให้ผลผลิตได้ทันทีเมื่ออายุประมาณ 5-7 เดือนหลังจากปลูก และให้ผลผลิตได้ตลอดปี
เสาวรสไม้เถาเลื้อย กินก็ได้ประดับก็สวย - ต้นไม้ชายคา
เสาวรสเป็นไม้ผลเขตร้อนชนิดเถาเลื้อยมี 2 ชนิดคือ เสาวรสโรงงาน มี 2 พันธุ์ ได้แก่ ผลสีเหลือง และผลสีม่วง และเสาวรสรับประทานสดหรือเสาวรสหวาน ซึ่งมีอยู่ 2 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์รับประทานสด 1 และรับประทานสด 2 ซึ่งทั้ง 2 พันธุ์ มีผิวผลสีม่วง
โดยธรรมชาติเสาวรสจะออกดอกและให้ผลผลิตเมื่อมีอายุประมาณ 5-7 เดือนหลังปลูกด้วยเมล็ด ปกติแล้วเสาวรสจะให้ผลผลิตได้ตลอดปีถ้าไม่ขาดน้ำ ในสภาพที่ปลูกโดยอาศัยน้ำฝน จะให้ผลผลิตได้ดีในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
สำหรับการปลูกที่มีเป้าหมายเพื่อการประดับด้วยนั้น ควรจะปลูกแบบให้น้ำ ซึ่งเสาวรสจะให้ผลผลิตได้ทันทีเมื่ออายุประมาณ 5-7 เดือนหลังจากปลูก และให้ผลผลิตได้ตลอดปี สามารถปลูกได้ทุกช่วงเวลา ขั้นตอนการปลูก เริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นที่ ควรมีการพรวนพื้นที่แบบหว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์ในขณะพรวนพื้นที่ไปพร้อม ๆ กัน เนื่องจากเสาวรสมีระบบรากตื้นแต่แผ่กว้าง ผิวดินจึงควรมีอาหารมากและเพียงพอสำหรับการหากินของราก
จากนั้นขุดหลุมปลูกโดยให้มีระยะปลูก 3x3 เมตร มีขนาด 30x30x30 เซนติเมตรและอยู่บริเวณโคนเสาค้างเพราะจะทำให้การเลื้อยเกาะสะดวกและง่ายต่อการดูแล รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ และควรเตรียมหลุมปลูกก่อนล่วงหน้าระยะหนึ่งเพื่อให้อินทรียวัตถุที่ใส่ลงไปเกิดการย่อยสลายก่อนนำต้นพันธุ์ลงปลูก
ต้นกล้าควรเตรียมไว้ล่วงหน้าให้พอดีกับช่วงเวลาที่จะปลูก เพื่อไม่ให้ต้นกล้าอ่อนแอหรือแก่เกินไปซึ่งจะมีผลให้ระบบรากไม่ดี หลังจากเตรียมหลุมปลูกแล้วจึงนำต้นกล้าลงปลูกได้ ในกรณีที่ปลูกด้วยต้นพันธุ์ที่มาจากการเสียบยอดต้องให้รอยต่อของยอดพันธุ์กับต้นตออยู่สูงกว่าระดับดิน เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าทางรอยต่อและต้องแกะเอาวัสดุพันกิ่งออก เมื่อปลูกต้นกล้าแล้วให้ใช้หลักไม้ไผ่ขนาดเล็กความสูงถึงระดับค้างปักและผูกเถาติดกับหลักหรือเสาค้าง เพื่อให้ยอดของต้นตั้งตรงตลอดเวลา ต้นจึงจะเจริญเติบโตได้เร็วและหมั่นผูกเถากับหลักอยู่เสมอ ๆ เมื่อยอดเจริญยาวขึ้นมา
เนื่องจากเสาวรสเป็นไม้ผลประเภทเถาเลื้อย การปลูกจึงต้องมีค้างรองรับต้นและค้างต้องแข็งแรงเพียงพอสามารถใช้งานได้อย่างน้อย 3 ปี ต่อการปลูก 1 ครั้ง ซึ่งปัจจุบันหลายพื้นที่นิยมทำค้างแบบซุ้มให้ร่มเงาตามเส้นทางเดินหรือลานจอดรถ ซึ่งเสาวรสจะใช้เวลาในการเลื้อยเกาะประมาณ 3 เดือนก็จะเต็มค้างที่สร้างให้
โดยธรรมชาติเสาวรสจะออกดอกติดผลได้ง่าย โดยดอกจะเกิดที่ทุกข้อบริเวณโคนก้านใบของกิ่งใหม่ และมักจะติดผลมากทำให้ผลผลิตคุณภาพไม่สม่ำเสมอ จึงควรปลิดผลที่มีคุณภาพต่ำทิ้ง ให้ผลที่เหลืออยู่มีคุณภาพดี โดยเฉพาะเสาวรสรับประทานสด.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2557