Page 1 of 1

เฟซบุ๊กประกาศชัด “ไม่ทำปุ่ม Dislike”

Posted: 12 Dec 2014, 14:20
by brid.ladawan
เฟซบุ๊กประกาศชัด “ไม่ทำปุ่ม Dislike”

จัดเป็นครั้งที่สองแล้วสำหรับอีเวนต์ Q&A กับมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ซีอีโอโซเชียลมีเดียชื่อก้องอย่าง “เฟซบุ๊ก” (Facebook) ซึ่งในอีเวนต์ดังกล่าว ซีอีโอคนดังได้ปิดทางการพัฒนาปุ่ม Dislike บนเฟซบุ๊กชนิดแทบจะถาวร รวมถึงแสดงออกอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนให้คนยุคใหม่ “มีทักษะด้านการเขียนโปรแกรม”

สำหรับกรณีของปุ่ม Dislike แน่นอนว่ามีการเรียกร้องให้เฟซบุ๊กพัฒนาปุ่มดังกล่าวขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว โดยทางมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์กได้กล่าวถึงปุ่ม Dislike เปรียบเทียบกับปุ่ม Like อันโด่งดังว่า “Like เป็นปุ่มที่มีคุณค่ามากในฐานะตัวแทนความรู้สึกเชิงบวก หรือแสดงความมีส่วนร่วมในสิ่งที่มีคนแชร์ออกมา และก็เป็นอย่างที่คุณทราบ มีคนถามหาปุ่ม Dislike มากเช่นกัน เพราะพวกเขาก็อยากจะแสดงออกว่าพวกเขาไม่ชอบ ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีนัก”

โดยมาร์กได้ประกาศชัดว่าไม่มีแผนจะสร้างปุ่ม Dislike พร้อมให้เหตุผลว่าโลกโซเชียลเป็นมากกว่าการมานั่งโหวตว่าโพสต์นี้ดีหรือแย่ และคงดีกว่าถ้าจะมีชุมชนที่ทำให้ผู้คนได้ออกมาแบ่งปันเรื่องสำคัญๆ ในชีวิต

พร้อมกันนั้น มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์กยังได้กล่าวถึงกรณีการโพสต์ข้อความที่เป็นเรื่องเศร้า ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายระบุว่า อยากแสดงความเห็นใจแต่ไม่อยากคลิก Like ด้วยว่า กรณีที่เป็นโพสต์เกี่ยวกับการเสียชีวิต หรือการเผชิญหน้าปัญหาที่ยากลำบากของเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊ก หากรู้สึกไม่ดีที่จะต้องคลิก Like ในเรื่องนั้นๆ สิ่งหนึ่งที่มาแทนได้ก็คือสัญลักษณ์ emotion หรือเพียงแต่คอมเมนต์ให้กำลังใจก็ทำได้เช่นกัน

อีกคำถามหนึ่งซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ คำถามที่ว่า “What’s a piece of advice you wish you had when you started Facebook?” ซึ่งมาร์ก ซัคเกอร์เบิร์กได้ตอบว่า

“อย่ากังวลว่าจะทำผิดพลาดมากเกินไป เพราะความผิดพลาดจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณได้เรียนรู้ ในกรณีนี้คำถามน่าจะเป็นว่า คุณเรียนรู้จากความผิดพลาดได้อย่างไรมากกว่า ผมเองเริ่มทำเฟซบุ๊กเมื่ออายุยังน้อย และไม่รู้เรื่องการบริหารบริษัทเลย แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงก็แค่มุ่งตรงไปข้างหน้า และอย่าเครียดกับมันจนเกินไป”

***เล่นเฟซบุ๊กไม่เสียเวลาสักหน่อย

แม้จะมีบางหน่วยงานจัดทำแบบสำรวจ และระบุว่าการเล่นเฟซบุ๊ก หรืออยู่ในโลกโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องเสียเวลา แต่สำหรับมาร์ก เขาเอาตัวรอดจากคำถามดังกล่าวว่า

“เราโตขึ้นมาพร้อมกับประโยคที่บอกว่า ทำการบ้านให้เสร็จก่อนถึงจะไปเล่นกับเพื่อนได้ คนเราจึงมักคิดว่าต้องทำงานให้เสร็จก่อน ซึ่งผมมองว่ามันผิดนะ ผมไม่คิดว่าการอยู่กับเพื่อน หรือครอบครัวเป็นเรื่องที่เสียเวลาหรอก”

นอกจากนี้ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์กยังได้เผยถึงแนวคิดด้านการเขียนโปรแกรมที่เขามองว่าเป็นสิ่งที่ทรงพลังสำหรับโลกยุคใหม่ และสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ฝึกเขียนโปรแกรม

“ที่เฟซบุ๊ก กว่าครึ่งของพนักงานคือโปรแกรมเมอร์ การเขียนโปรแกรมเป็นหนึ่งในไม่กี่อาชีพที่คุณนั่งทำสัก 2-3 ชั่วโมง ก็สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกได้แล้ว ถ้าคุณเขียนโปรแกรมได้ คุณก็จะได้พลังนั้นไปครอง และไม่มีใครสามารถหยุดคุณได้ด้วย”

ส่วนประเด็นการมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ทางการเมืองนั้น มาร์กมองว่าเฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือที่ทำให้ทุกคนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นมากกว่าจะเป็นตัวปิดกั้นด้วยซ้ำ

อีกคำถามหนึ่งคือ นโยบายด้านความเป็นส่วนตัวที่มีการอัปเดตบ่อยนั้นเป็นเพราะปัจจุบันเฟซบุ๊กเป็นบริษัทที่มีบริการมากมาย ทั้ง Facebook, Messenger, Instagram ซึ่งแม้จะต่างรูปแบบกัน แต่ฐานของเทคโนโลยีนั้นต้องทำงานร่วมกัน ทำให้แม้จะไม่อยากปรับเปลี่ยนบ่อย แต่บางครั้งก็จำเป็น และการปรับนั้นบางครั้งก็ส่งผลดี บางครั้งก็ไม่

คำถามสุดท้ายที่เราขอนำมาฝากกันก็คือ คำถามที่ว่าเขาใช้ชีวิตอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งคำถามนี้ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์กตอบว่า เขาพยายามให้เวลาส่วนใหญ่กับสิ่งที่เขาอยากทำ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นอยากให้เขาทำ และต้องรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจัดอีเวนต์ครั้งนี้ ซีอีโอคนดังสามารถตอบได้ดี และเอาตัวรอดจากคำถามต่างๆ ได้อย่างสวยงามเลยทีเดียว และถ้าใครต้องการสั่งพิซซาให้เขาล่ะก็ เขาตอบในอีเวนต์นี้ไปแล้วว่าอยากรับประทานหน้า “ไก่ทอด”

ทราบแล้วเปลี่ยน


ที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์
วันที่12 ธันวาคม 2557