น้ำมันโลกดิ่งไทยประหยัดเงิน3 แสนล้าน
Posted: 13 Dec 2014, 09:10
?น้ำมันโลกดิ่งไทยประหยัดเงิน3 แสนล้าน?
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยราคาน้ำมันโลกปีหน้าลดลง 27.8% ส่งผลบวกดุลบัญชีเดินสะพัด 198,000 ล้านบาท
นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดดูไบปี 58 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 27.8 %จากปี 57 อยู่ที่ 97 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะช่วยให้ประเทศไทยประหยัดเงินนำเข้าน้ำมันดิบ 300,000 ล้านบาท และเป็นผลดีต่อดุลบัญชีเดินสะพัดถึง 198,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.5% ของจีดีพี แม้ว่าจะราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น กลุ่มประเทศโอเปกและรัสเซียเดินทางมาไทยลดลงทำให้ไทยสูญรายได้ 14,000 ล้านบาท และรายได้จากการส่งออกไปตะวันออกกลางลดลง 88,000 ล้านบาท
“ ราคาน้ำมันที่ลดลงเอื้อต่อการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และส่งผลดีต่อตัวเลขเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ในระดับต่ำจนถึงครึ่งแรกของปี 58 โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงทุก 10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ทำให้เงินเฟ้อลดลง 0.40 % และหากขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 % มีผลต่อเงินเฟ้อ 0.14 % ดังนั้นกรอบเงินเฟ้อในปีหน้าอยู่ที่ 1.5-2.2 % และหากขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเงินเฟ้อจะอยู่ในกรอบบนที่ 2.2 % ส่วนการการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 17 ธ.ค. คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.25 % เหลือ 1.75 % เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ และเชื่อว่าไม่มีผลต่อเงินทุนเคลื่อน
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12ธันวาคม 2557
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเผยราคาน้ำมันโลกปีหน้าลดลง 27.8% ส่งผลบวกดุลบัญชีเดินสะพัด 198,000 ล้านบาท
นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดดูไบปี 58 คาดว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 27.8 %จากปี 57 อยู่ที่ 97 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จะช่วยให้ประเทศไทยประหยัดเงินนำเข้าน้ำมันดิบ 300,000 ล้านบาท และเป็นผลดีต่อดุลบัญชีเดินสะพัดถึง 198,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 1.5% ของจีดีพี แม้ว่าจะราคาน้ำมันจะส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ เช่น กลุ่มประเทศโอเปกและรัสเซียเดินทางมาไทยลดลงทำให้ไทยสูญรายได้ 14,000 ล้านบาท และรายได้จากการส่งออกไปตะวันออกกลางลดลง 88,000 ล้านบาท
“ ราคาน้ำมันที่ลดลงเอื้อต่อการปรับโครงสร้างราคาพลังงาน และส่งผลดีต่อตัวเลขเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ในระดับต่ำจนถึงครึ่งแรกของปี 58 โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงทุก 10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ทำให้เงินเฟ้อลดลง 0.40 % และหากขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 1 % มีผลต่อเงินเฟ้อ 0.14 % ดังนั้นกรอบเงินเฟ้อในปีหน้าอยู่ที่ 1.5-2.2 % และหากขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มเงินเฟ้อจะอยู่ในกรอบบนที่ 2.2 % ส่วนการการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 17 ธ.ค. คาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.25 % เหลือ 1.75 % เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจ และเชื่อว่าไม่มีผลต่อเงินทุนเคลื่อน
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 12ธันวาคม 2557