ตลาดรับสร้างบ้านปี 57 หด

[brid.ladawan]

?ตลาดรับสร้างบ้านปี 57 หด?
สมาคมไทยรับสร้างบ้านเผยปี 57 ตลาดหดตัวแรง โตได้แค่ 3% จากปกติ 8-10% คาดปีหน้าโตได้อีก เหตุราคาบ้านแพงขึ้น หวั่นแข่งขันรุนแรง เหตุมีรายใหม่เพิ่ม

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า สมาคมไทยรับสร้างบ้าน ได้ประเมินภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านตลอดปี 57 ทั่วประเทศ พบว่า ทั้งปริมาณและมูลค่าภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านไม่ขยายตัวตามป้าหมายที่ตั้งไว้ จากที่เคยคาดว่ามูลค่าตลาดจะเติบโตได้ 8-10% คิดเป็น 4,800-5,000 หน่วย หรือมูลค่า 14,000 ล้านบาทเศษ แต่ขณะนี้พบว่า ตลาดรวมฯ ปีนี้ จะขยายตัวได้เพียง 2.5-3% เท่านั้น คิดเป็น 4,100-4,200 หน่วย หรือมูลค่า 12,500-13,500 ล้านบาทเศษ

ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านปีนี้ แม้ว่าจะไม่เติบโตตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ถือว่าดีกว่า เมื่อเทียบกับภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และรับเหมาก่อสร้างทั่วไป โดยเฉพาะการลดความร้อนแรงภาคธุรกิจอสังหาฯ ลง กลายเป็นผลดีกับธุรกิจรับสร้างบ้าน เพราะทำให้การแย่งชิงแรงงานและวัสดุก่อสร้าง ไม่รุนแรงเหมือนปีก่อน ๆ ทั้งนี้อาจเพราะผู้ประกอบการหลายราย วางตำแหน่งทางการตลาดของตัวเองชัดเจนมากขึ้น ในสายตาของผู้บริโภค เช่น รับสร้างบ้านประหยัดพลังงาน รับสร้างบ้านโครงสร้างสำเร็จรูป รับสร้างบ้านหรูร้อยล้าน รับสร้างบ้านขนาดเล็ก รับสร้างบ้านต่างจังหวัด ทำให้ผู้บริโภคที่พอใจ หรือชื่นชอบกลุ่มใดก็เลือก และตัดสินใจที่จะใช้บริการกับรายนั้น ๆ ได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อตลาดรวมรับสร้างบ้านในอนาคต

อย่างไรก็ดี สมาคมฯ ประเมินว่าตลาดรับสร้างบ้านปี 58 น่าจะขยายตัวไม่มาก หรือ 4,200-4,300 หน่วยเศษ แต่มูลค่าจะโตได้ถึง 15,000-16,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยหน่วยละ 3.7 ล้านบาท ซึ่งสมาชิกของสมาคมส่วนใหญ่จะเน้นการยกระดับมาตรฐาน เพิ่มขีดความสามารถมาโดยตลอด และปี 58 นั้น สมาคมฯ จะเน้นการรับรู้ และขยายตลาดรับสร้างบ้านให้แก่สมาชิก คู่ค้า และพันธมิตรธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งจะจัดงานไทยแลนด์ โฮมบิลเดอร์ แอนด์ แมททีเรียล แฟร์ 58 ระหว่างวันที่ 28 มค.-1 กพ. 58 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี เพื่อเป็นเวทีกลางให้ผู้บริโภคพบกับผู้ประกอบการรับสร้างบ้าน

พร้อมกันนี้ สมาคมฯ ได้สำรวจผู้ประกอบการทั่วประเทศ พบว่าปีนี้ มีรายใหม่เข้ามาแข่งขันในธุรกิจอย่างมีรูปแบบเพิ่มมากขึ้นกว่า 40 ราย หรือเพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบปีก่อนที่มีผู้ประกอบการอยู่เกือบ 140 ราย โดยมีรายใหญ่เข้ามาแข่งขันในจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากที่สุด ทั้งที่ จ. นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี เลย รองลงมาตั้งอยู่ในจังหวัดพื้นที่ภาคกลาง เช่น สระบุรี ราชบุรี ชลบุรี ระยอง ประจวบฯ นอกนั้นเป็นจังหวัดในภาคเหนือและภาคใต้ เช่น ลำปาง พะเยา กำแพงเพชร นครสวรรค์ สุราษฎร์ฯ สงขลา ตรัง เป็นต้น หรือรวมกว่า 180 รายเศษทั่วประเทศ


ที่มา ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 13 ธันวาคม 2557