จับตาลูกจ้าง 100 บริษัทก่อหวอดขอโบนัส
Posted: 13 Dec 2014, 18:19
?จับตาลูกจ้าง 100 บริษัทก่อหวอดขอโบนัส?
ก.แรงงาน เฝ้าระวังลูกจ้าง 100 บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า- อิเล็กทรอนิกส์- ยานยนต์ ก่อหวอดขอโบนัส-ค่าจ้าง เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว วอนลูกจ้าง-นายจ้าง พูดคุยกันด้วยเหตุผล
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นายสุวิทย์ สุมาลา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.)กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์ด้านแรงงานสัมพันธ์ ว่า ช่วงตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.ในแต่ละปี สหภาพแรงงานในสถานประกอบการต่างๆ จะยื่นข้อเรียกร้องปรับเพิ่มค่าจ้างประจำปี สวัสดิการ และเงินโบนัสต่อนายจ้าง หากไม่สามารถตกลงกันจนเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย อาจจะเกิดพิพาทขึ้น ซึ่งขณะนี้เริ่มมีแรงงานในหลายพื้นที่ออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องโบนัส โดยกรณีล่าสุดเป็นพนักงานบริษัทไทยแอร์โรว์ จำกัด ที่ผลิตระบบสายไฟและอุปกรณ์ ใน จ.พิษณุโลก ออกมาประท้วงขอเพิ่มเงินโบนัส ทั้งนี้ กสร.ได้เฝ้าระวังปัญหาข้อพิพาทโดยขณะนี้มีสถานประกอบการในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ และสิ่งทอประมาณ 100 แห่งในพื้นที่ภาคกลางและตะวันออก เช่น จ.สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา สระบุรี ชลบุรี ระยอง พิษณุโลก ที่ต้องเฝ้าระวัง หากพบว่าเกิดข้อพิพาทจะเร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวอีกว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจยังชะลอตัวไม่เติบโตเท่าที่ควร ทำให้ความสามารถในการจ่ายเพื่อปรับเพิ่มค่าจ้างประจำปี สวัสดิการต่างๆ และเงินโบนัสของนายจ้างลดลงจากปีที่ผ่านมา จึงอยากให้ฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างเจรจากันโดยใช้เหตุผล หากนายจ้างต้องการให้ลูกจ้างมีขวัญและกำลังใจในการทำงานก็ควรจ่ายเท่าที่สามารถจ่ายได้ ถ้าประเมินแล้วมีกำลังจ่ายได้มากก็ควรจ่ายหรืออย่างน้อยก็ควรจ่ายเท่าเดิม แต่ถ้ามีปัญหาด้านการเงินจนทำให้จำเป็นต้องจ่ายลดลงจากเดิม เพื่อให้สถานประกอบการและลูกจ้างอยู่รอดได้ก็ควรชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกจ้างอย่างตรงไปตรงมา ถ้าปิดบังไม่ชี้แจงจะยิ่งทำให้เกิดข้อพิพาท
นายสุวิทย์ กล่าวด้วยว่า อยากให้ฝ่ายลูกจ้างใช้สิทธิเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องเงินโบนัส ค่าจ้างและสวัสดิการต่างๆ ตามกรอบกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาถูกเลิกจ้างในภายหลัง ทั้งนี้หากการเจรจายังตกลงกันไม่ได้ ถ้ายืดการเจรจาออกไปได้จนถึงเดือน ม.ค.ก็ควรทำเพื่อให้ได้ข้อยุติที่พอใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้สถานการณ์ด้านแรงานสัมพันธ์ในช่วงวันที่ 1 ต.ค.ถึงวันที่ 26 พ.ย. 2557 พบว่า มีสถานประกอบการยื่นข้อเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างจำนวนทั้งสิ้น 180 แห่ง โดยเกิดเป็นข้อพิพาทแรงงาน 35 แห่ง และข้อขัดแย้ง 21 แห่ง.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 13 ธันวาคม 2557
ก.แรงงาน เฝ้าระวังลูกจ้าง 100 บริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า- อิเล็กทรอนิกส์- ยานยนต์ ก่อหวอดขอโบนัส-ค่าจ้าง เหตุเศรษฐกิจชะลอตัว วอนลูกจ้าง-นายจ้าง พูดคุยกันด้วยเหตุผล
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นายสุวิทย์ สุมาลา รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.)กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสถานการณ์ด้านแรงงานสัมพันธ์ ว่า ช่วงตั้งแต่เดือน พ.ย.-ธ.ค.ในแต่ละปี สหภาพแรงงานในสถานประกอบการต่างๆ จะยื่นข้อเรียกร้องปรับเพิ่มค่าจ้างประจำปี สวัสดิการ และเงินโบนัสต่อนายจ้าง หากไม่สามารถตกลงกันจนเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย อาจจะเกิดพิพาทขึ้น ซึ่งขณะนี้เริ่มมีแรงงานในหลายพื้นที่ออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องโบนัส โดยกรณีล่าสุดเป็นพนักงานบริษัทไทยแอร์โรว์ จำกัด ที่ผลิตระบบสายไฟและอุปกรณ์ ใน จ.พิษณุโลก ออกมาประท้วงขอเพิ่มเงินโบนัส ทั้งนี้ กสร.ได้เฝ้าระวังปัญหาข้อพิพาทโดยขณะนี้มีสถานประกอบการในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และชิ้นส่วนยานยนต์ และสิ่งทอประมาณ 100 แห่งในพื้นที่ภาคกลางและตะวันออก เช่น จ.สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา สระบุรี ชลบุรี ระยอง พิษณุโลก ที่ต้องเฝ้าระวัง หากพบว่าเกิดข้อพิพาทจะเร่งส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยให้ได้ข้อยุติโดยเร็ว
รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวอีกว่า ช่วงนี้เศรษฐกิจยังชะลอตัวไม่เติบโตเท่าที่ควร ทำให้ความสามารถในการจ่ายเพื่อปรับเพิ่มค่าจ้างประจำปี สวัสดิการต่างๆ และเงินโบนัสของนายจ้างลดลงจากปีที่ผ่านมา จึงอยากให้ฝ่ายนายจ้างและลูกจ้างเจรจากันโดยใช้เหตุผล หากนายจ้างต้องการให้ลูกจ้างมีขวัญและกำลังใจในการทำงานก็ควรจ่ายเท่าที่สามารถจ่ายได้ ถ้าประเมินแล้วมีกำลังจ่ายได้มากก็ควรจ่ายหรืออย่างน้อยก็ควรจ่ายเท่าเดิม แต่ถ้ามีปัญหาด้านการเงินจนทำให้จำเป็นต้องจ่ายลดลงจากเดิม เพื่อให้สถานประกอบการและลูกจ้างอยู่รอดได้ก็ควรชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกจ้างอย่างตรงไปตรงมา ถ้าปิดบังไม่ชี้แจงจะยิ่งทำให้เกิดข้อพิพาท
นายสุวิทย์ กล่าวด้วยว่า อยากให้ฝ่ายลูกจ้างใช้สิทธิเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องเงินโบนัส ค่าจ้างและสวัสดิการต่างๆ ตามกรอบกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาถูกเลิกจ้างในภายหลัง ทั้งนี้หากการเจรจายังตกลงกันไม่ได้ ถ้ายืดการเจรจาออกไปได้จนถึงเดือน ม.ค.ก็ควรทำเพื่อให้ได้ข้อยุติที่พอใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้สถานการณ์ด้านแรงานสัมพันธ์ในช่วงวันที่ 1 ต.ค.ถึงวันที่ 26 พ.ย. 2557 พบว่า มีสถานประกอบการยื่นข้อเรียกร้องเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างจำนวนทั้งสิ้น 180 แห่ง โดยเกิดเป็นข้อพิพาทแรงงาน 35 แห่ง และข้อขัดแย้ง 21 แห่ง.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 13 ธันวาคม 2557