หมอห่วงเด็กเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเพิ่มขึ้น
Posted: 13 Dec 2014, 18:31
?หมอห่วงเด็กเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเพิ่มขึ้น?
หมอผิวหนัง ห่วง เด็กเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเพิ่มขึ้น แนะ ดูแลผิวให้ความชุ่มชื้น อย่าอญยู่ในที่ร้อนจัด ฝุ่นเยอะ ไม่ใช้น้ำยาปรับผ่านุ่ม อยู่ให้ห่างควันบุหรี่ และไม่เลี้ยงสัตว์มีขน
เมื่อวันที่11ธ.ค. พญ.ศรีศุภลักษณ์ สิงคาลวณิช อุปนายกด้านบริการทางการแพทย์และสังคม สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้พบเด็กไทยป่วยเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือการอักเสบเรื้อรังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หน้าผาก มักเป็น ๆ หาย ๆ และมีอาการคันพบกว่า ร้อยละ10-20 ซึ่งในจำนวนนี้ร้อยละ 85 จะเกิดก่อนอายุ5 ปี โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากแม่รับประทานอาหารจั๊งค์ฟู้ด เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด มันฝรั่งทอด พิซซ่า เป็นต้น และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ประเภทอื่นๆ ร่วมด้วย และถูกกระตุ้นด้วยสภาพแวดล้อม เช่น ความร้อน ความเย็น อากาศแห้ง สารระคายเคือง สารชะล้าง ซักฟอก หรืออาหารบางชนิดเช่นนมวัว หรือโรคติดเชื้อโดยเฉพาะการติดเชื้อแบคทีเรียสามารถกระตุ้นให้ผื่นเห่อมากขึ้นได้ รวมถึงภูมิคุ้มกันในตัวเด็กเอง
“ อาการที่สำคัญ คือ ผิวที่แห้งจนเป็นขุย ถ้าผิวหนังอักเสบก็จะเกิดรอยโรคเห่อแดง อาจมีน้ำเหลืองร่วมด้วย ส่วนตำแหน่งของโรคก็จะแตกต่างกัน เด็กเล็ก ๆ จะพบผื่นบริเวณ แก้ม แขน ขา หรือ ข้อมือ ข้อเท้า และเด็กโต ก็จะพบตามข้อพับแขนและขาทั้งสองข้าง ส่วนใหญ่หมอจะให้ยาสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นยาที่ดี แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 2สัปดาห์เพราะจะทำให้ผิวบาง ขนยาว และอาจจะดูดซึมลดการเจริญเติบโตได้” พญ.ศรีศุภลักษณ์ กล่าว
พญ.ศรีศุภลักษณ์ กล่าวแนะนำด้วยว่า การดูแลเด็กที่เป็นโรคดังกล่าวจะต้องได้รับการดูแลผิวเป็นพิเศษ อายน้ำ ทายาให้ความชุ่มชื่น ทายาลดการอักเสบ หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และตัวกระตุ้น เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ยา หรืออาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่พบได้บ่อย อย่างเช่น นมวัว นมถั่วเหลือง ถั่ว อาหารทะเล แป้งสาลีและไข่ และระวังการติดเชื้อ เสื้อผ้าควรเลือกชนิดที่ทำจากผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม หลีกเลี่ยงจากควันบุหรี่ ทำความสะอาดบ้านอย่าให้มีฝุ่น หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ที่มีขน ไม่อยู่ในที่ร้อนจัดหรือมีความชื้น.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่11 ธันวาคม 2557
หมอผิวหนัง ห่วง เด็กเป็นภูมิแพ้ผิวหนังเพิ่มขึ้น แนะ ดูแลผิวให้ความชุ่มชื้น อย่าอญยู่ในที่ร้อนจัด ฝุ่นเยอะ ไม่ใช้น้ำยาปรับผ่านุ่ม อยู่ให้ห่างควันบุหรี่ และไม่เลี้ยงสัตว์มีขน
เมื่อวันที่11ธ.ค. พญ.ศรีศุภลักษณ์ สิงคาลวณิช อุปนายกด้านบริการทางการแพทย์และสังคม สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้พบเด็กไทยป่วยเป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือการอักเสบเรื้อรังเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบริเวณแก้ม หน้าผาก มักเป็น ๆ หาย ๆ และมีอาการคันพบกว่า ร้อยละ10-20 ซึ่งในจำนวนนี้ร้อยละ 85 จะเกิดก่อนอายุ5 ปี โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่คาดว่าน่าจะเป็นผลมาจากแม่รับประทานอาหารจั๊งค์ฟู้ด เช่น แฮมเบอร์เกอร์ ไก่ทอด มันฝรั่งทอด พิซซ่า เป็นต้น และมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ประเภทอื่นๆ ร่วมด้วย และถูกกระตุ้นด้วยสภาพแวดล้อม เช่น ความร้อน ความเย็น อากาศแห้ง สารระคายเคือง สารชะล้าง ซักฟอก หรืออาหารบางชนิดเช่นนมวัว หรือโรคติดเชื้อโดยเฉพาะการติดเชื้อแบคทีเรียสามารถกระตุ้นให้ผื่นเห่อมากขึ้นได้ รวมถึงภูมิคุ้มกันในตัวเด็กเอง
“ อาการที่สำคัญ คือ ผิวที่แห้งจนเป็นขุย ถ้าผิวหนังอักเสบก็จะเกิดรอยโรคเห่อแดง อาจมีน้ำเหลืองร่วมด้วย ส่วนตำแหน่งของโรคก็จะแตกต่างกัน เด็กเล็ก ๆ จะพบผื่นบริเวณ แก้ม แขน ขา หรือ ข้อมือ ข้อเท้า และเด็กโต ก็จะพบตามข้อพับแขนและขาทั้งสองข้าง ส่วนใหญ่หมอจะให้ยาสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นยาที่ดี แต่ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานเกิน 2สัปดาห์เพราะจะทำให้ผิวบาง ขนยาว และอาจจะดูดซึมลดการเจริญเติบโตได้” พญ.ศรีศุภลักษณ์ กล่าว
พญ.ศรีศุภลักษณ์ กล่าวแนะนำด้วยว่า การดูแลเด็กที่เป็นโรคดังกล่าวจะต้องได้รับการดูแลผิวเป็นพิเศษ อายน้ำ ทายาให้ความชุ่มชื่น ทายาลดการอักเสบ หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และตัวกระตุ้น เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ ยา หรืออาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ที่พบได้บ่อย อย่างเช่น นมวัว นมถั่วเหลือง ถั่ว อาหารทะเล แป้งสาลีและไข่ และระวังการติดเชื้อ เสื้อผ้าควรเลือกชนิดที่ทำจากผ้าฝ้าย หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม หลีกเลี่ยงจากควันบุหรี่ ทำความสะอาดบ้านอย่าให้มีฝุ่น หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ที่มีขน ไม่อยู่ในที่ร้อนจัดหรือมีความชื้น.
ที่มา เดลินิวส์
วันที่11 ธันวาคม 2557