ส่องนวัตกรรมล้ำโลก ตะเกียบอัจฉริยะ

[brid.ladawan]

?ส่องนวัตกรรมล้ำโลก ตะเกียบอัจฉริยะ?

?ส่องนวัตกรรมล้ำโลก ตะเกียบอัจฉริยะ??ส่องนวัตกรรมล้ำโลก ตะเกียบอัจฉริยะ??ส่องนวัตกรรมล้ำโลก ตะเกียบอัจฉริยะ??ส่องนวัตกรรมล้ำโลก ตะเกียบอัจฉริยะ??ส่องนวัตกรรมล้ำโลก ตะเกียบอัจฉริยะ??ส่องนวัตกรรมล้ำโลก ตะเกียบอัจฉริยะ?
เมื่อพูดถึงชื่อ “ไป่ตู้” (Baidu) ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนไทยอาจยังไม่คุ้นหูนัก เพราะ “ไป่ตู้” เพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้ราว 3 ปี

เมื่อพูดถึงชื่อ “ไป่ตู้” (Baidu) ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตคนไทยอาจยังไม่คุ้นหูนัก เพราะ “ไป่ตู้” เพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้ราว 3 ปี หรือเมื่อปลายปี 2554 ด้วยการจับมือกับพันธมิตรให้บริการเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคอมพิวเตอร์ฟรี ซึ่งช่วยให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้รวดเร็ว เรียกว่า “ไป่ตู้ พีซี ฟาสเตอร์” (Baidu PC Faster) รวมทั้งตัวแอนตี้ไวรัสและระบบความปลอดภัยแบบคลาวด์ที่ให้ใช้ฟรีตลอดชีพ ชื่อ “ไป่ตู้ แอนตี้ ไวรัส” (Baidu Antivirus)
สำหรับ “ไป่ตู้” เป็นบริษัทสัญชาติจีน ก่อตั้งเมื่อปี 2543 หรือ 14 ปีที่แล้ว โดย นายโรบิน ลี ซึ่งชื่อ “ไป่ตู้” มีความหมายว่า “การค้นหาสิ่งที่ดีที่สุดอย่างไม่ย่อท้อ” เน้นให้บริการเรื่องของเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น (ค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต) เป็นหลัก และนำเสนอวิธีการค้นหาข้อมูลเพื่อเชื่อมโยงผู้ใช้กับบริการอื่น ๆ ปัจจุบัน “ไป่ตู้” ถือเป็นเครื่องมือค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่มียอดการใช้งานเป็นอันดับหนึ่งของจีน ด้วยการใช้งานสูงสุดถึง 72% รองลงมาคือเครื่องมือค้นหาข้อมูลของกูเกิ้ล 10% และเครื่องมือค้นหาข้อมูลของ 360 อีก 10%

ในประเทศไทย แม้ “ไป่ตู้” จะเข้ามาบุกตลาดได้ราว 3 ปี แต่เทคโนโลยีค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตหรือ เสิร์ช เอนจิ้น ยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ “นางชฎากร ธนสุวรรณเกษม” ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการไป่ตู้ ประเทศไทย กล่าวว่า ตัวเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้มีแผนจะเปิดตัวในประเทศไทยกลางปี 2558 โดยรองรับทั้งการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์พีซีและอุปกรณ์สื่อสารแบบพกพา ซึ่งการพัฒนาเทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น ในไทย เริ่มมาพร้อม ๆ กับบริการตัวอื่น ๆ ของไป่ตู้ แต่เนื่องจากการพัฒนาตัวเสิร์ช เอนจิ้น ต้องใช้ข้อมูลมากจึงใช้เวลาในการเก็บข้อมูลนาน

ย้อนกลับไปที่ไป่ตู้ในจีน นอกจากตัวเสิร์ช เอนจิ้นที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้ออนไลน์ในจีนอย่างล้นหลามแล้ว ไป่ตู้จีนยังได้พัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ที่อิงข้อมูลกับการใช้เทคโนโลยีเสิร์ช เอนจิ้น เพื่อให้บริการที่ตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน ดังนี้

เริ่มที่ เทคโนโลยี เบรน (Brain) เทคโนโลยีที่มีความฉลาดเท่ากับสมองของเด็ก 3 ขวบ โดยเป็นการนำข้อมูลที่ได้จากการค้นหาผ่านเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้มาวิเคราะห์ต่อยอดว่าขณะนี้ในแต่ละเมืองของจีนกำลังค้นหาคำว่าอะไร

ส่วนเทคโนโลยีที่เรียกว่า “ไป่ตู้ เทรนด์” (Baibu Trend) เป็นการนำข้อมูลที่ได้จากเสิร์ช เอนจิ้น ของไป่ตู้ มาร่วมกับข้อมูลของทางราชการจีน เพื่อใช้คาดคะเนว่าในช่วงเทศกาลต่าง ๆ จะมีคนเดินทางไปพื้นที่ไหนจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้ทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเหมาะสม สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องซึ่งนำมาใช้วิเคราะห์ เช่น การจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พักต่าง ๆ และด่านผ่านเข้าเมือง โดยคาดคะเนได้ล่วงหน้า 7 วัน ผลตอบรับที่ได้จากการดำเนินงานตลอด 1 ปีถือว่าดีมาก

ต่อด้วย ฟูลวิว (Fullview) เป็นการแสดงแผนที่พร้อมภาพพื้นที่จริง เนื่องจากไป่ตู้ส่งพนักงานพร้อมรถออกสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลซึ่งบอกข้อมูลแบบระบุตำแหน่งอย่างละเอียด ครอบคลุม 14 เมืองในจีน บริการนี้เบื้องต้นใช้ได้เฉพาะในจีนเท่านั้น โดดเด่นเรื่องการเบลอหน้าคนที่อยู่ในภาพแผนที่เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล รวมทั้งเบลอทะเบียนรถที่ติดอยู่ในแผนที่

และเทคโนโลยีที่สร้างความสะดวกสบายให้กับนักชอปปิงชาวจีนอย่างมาก คือ “ไป่ตู้ วอลเล็ต” (Baidu Wallet) หรือ การสั่งซื้อสินค้าผ่านคิวอาร์โค้ด ทำให้ผู้ขายไม่ต้องเก็บสินค้าไว้ในร้านจำนวนมาก ๆ ขณะที่ลูกค้าถ้าอยากได้สินค้าก็ใช้กล้องถ่ายรูปของโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นของไป่ตู้ถ่ายรูปคิวอาร์โค้ดของสินค้าที่ต้องการเพื่อทำการสั่งซื้อผ่านแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือได้ทันที เท่านี้สินค้าที่ต้องการก็จะส่งตรงถึงบ้าน

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี “ตู้ไบค์” (Du Bike) ซึ่งนำเทคโนโลยีของไป่ตู้จากหลากหลายส่วนมาต่อยอดแล้วพัฒนาเป็น “ตู้ไบค์” โดยมีหลักการทำงานควบคู่กันระหว่างแอพพลิเคชั่นของไป่ตู้ที่ติดตั้งไว้ในโทรศัพท์มือถือและจักรยานที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อให้ทำงานเชื่อมต่อกัน ซึ่งที่จับจักรยาน เบาะนั่ง และที่ปั่น สามารถวัดปริมาณพลังงานที่เผาผลาญ อัตราการเต้นของหัวใจ ที่สำคัญแอพพลิเคชั่นของไป่ตู้สามารถบอกเส้นทางด้วยเสียงระหว่างการปั่นได้ เนื่องจากนวัตกรรมนี้ต้องผลิตคู่กันระหว่างแอพพลิเคชั่นและจักรยาน จึงยังไม่มีกำหนดในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ขณะที่เทคโนโลยี “ไป่ตู้ อาย” (Baidu Eye) เป็นเทคโนโลยีอีกตัวที่ใช้การสั่งงานด้วยเสียง โดยมีแว่นตาที่ติดตั้งเลเซอร์และเชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น เมื่อยิงแสงเลเซอร์ใส่สิ่งที่ต้องการรู้ข้อมูลพร้อมถามด้วยเสียงว่านี่คืออะไร? หรือราคาเท่าไหร่? เพียงเท่านี้ข้อมูลของสิ่งที่ต้องการรู้จะมาแสดงผลในโทรศัพท์มือถือทันที คาดว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปีนี้

และเทคโนโลยีตัวสุดท้ายที่จะนำมาเล่าให้ฟัง คือ “ไป่ตู้ สมาร์ท ชอปสติก” (Baidu Smart Chopstick) หรือตะเกียบอัจฉริยะ ใช้คีบอาหารเพื่อตรวจดูว่าน้ำมันที่ใช้ในการทำอาหารจานนี้เป็นน้ำมันเก่าหรือน้ำมันใหม่ พร้อมวัดค่าความหวานของอาหาร และวัดค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำ โดยหลักการทำงานจะทำงานควบคู่กับแอพพลิเคชั่นของไป่ตู้ที่ติดตั้งไว้ในเครื่องโทรศัพท์มือถือ โดยตะเกียบจะมีไว-ไฟ เพื่อส่งข้อมูลของอาหารที่ได้มายังแอพพลิเคชั่นเพื่อทำการวัดค่าต่าง ๆ ซึ่งผู้ใช้อ่านผลที่ได้จากโทรศัพท์มือถือ

นวัตกรรมที่ไป่ตู้จีนเปิดให้บริการไปแล้วและกำลังจะเปิดให้บริการ “นายริชาร์ด ลี” ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ ของไป่ตู้ กล่าวว่า บริการหรือนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นของไป่ตู้ในจีนถ้าเป็นประโยชน์กับผู้ใช้ในประเทศอื่น ๆ ก็พร้อมที่จะนำไปพัฒนาให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของผู้ใช้งานในแต่ละประเทศ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนวัตกรรมที่ไป่ตู้ประเทศจีนพัฒนาขึ้น ซึ่งต้องดูว่า “ไป่ตู้” ประเทศไทย จะนำนวัตกรรมตัวไหนมาปรับให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนไทยเพื่อเปิดให้บริการบ้าง

แต่ที่แน่ ๆ กลางปีนี้พบกับ “เสิร์ช เอนจิ้น” ของไป่ตู้ฉบับภาษาไทย.

น้ำเพชร จันทา
@phetchan

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 1 มกราคม 2558