ทำไมของออนไลน์ถูกกว่าท้องตลาดมาก (2)

[brid.ladawan]

?ทำไมของออนไลน์ถูกกว่าท้องตลาดมาก (2)?
ส่วนคำถามที่ว่าทำไมถึงขายราคาถูกได้ขนาดนั้น ผมคิดว่าปัจจัยหลัก ๆ เลยก็คือ เว็บอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่หลายเว็บที่ใช้กันในไทยนั้น มีเจ้าของแท้จริงเป็นบริษัทต่างประเทศซึ่งได้ทำการนำร่องธุรกิจประเภทนี้ในประเทศอื่น ๆ มาก่อนแล้ว


ทำไมของออนไลน์ถูกกว่าท้องตลาดมาก (2) - รอบรู้ไอที รอบโลกเทคโนโลยี

เมื่อวันพุธที่แล้ว ผมชวนคุณผู้อ่านประจำคอลัมน์ของผมมาตั้งคำถามด้วยกันว่าทำไมร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะเว็บอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ที่ขายตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ถึงสามารถขายของได้ถูกกว่าท้องตลาดมากมายนัก ถูกขนาดที่ไม่ว่าจะคิดยังไง ก็สรุปได้แค่ว่าต้องขาดทุนแน่ ๆ

การจะตอบคำถามนี้ทั้งหมดให้ครบทุกมิติคงจะไม่ง่ายนัก ฉะนั้นผมจะขอพูดถึงเฉพาะเว็บอีคอมเมิร์ซที่ใช้ระบบนายหน้า ซึ่งทางเว็บไม่ได้เป็นผู้ผลิตหรือพ่อค้าแม่ค้าขายของโดยตรง สิ่งที่ทางเว็บทำคือสร้างพื้นที่ที่เป็นเหมือนตลาดกลางให้ผู้ซื้อและผู้ขายมากมายได้มาซื้อขายแลกเปลี่ยนกัน ของที่ขายในเว็บเป็นการทำสัญญากันระหว่างบริษัทเว็บอีคอมเมิร์ซนั้น ๆ กับซัพพลายเออร์ (Supplier) โดยที่ทางเว็บก็จะได้ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดการขายสินค้าแต่ละชิ้น

ซึ่งซัพพลายเออร์ที่ว่านี้ หมายรวมไปตั้งแต่ผู้ผลิตสินค้า ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของสินค้าตัวนั้น หรือร้านค้าทั่ว ๆ ไป นี่จึงตอบคำถามได้ว่าทำไมเว็บอีคอมเมิร์ซเหล่านี้ จึงมีของขายได้หลากหลายนัก ก็เพราะสิ่งที่พวกเขาทำคือการเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างผู้ขาย ผู้ผลิต หรือผู้นำเข้าสินค้ากับลูกค้าเท่านั้น โดยไม่ต้องมาพะวงกับกระบวนการอันยุ่งยากของการผลิต การนำเข้าสินค้า รวมถึงการจัดการสินค้าที่มีวงจรชีวิตและลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน

ส่วนคำถามที่ว่าทำไมถึงขายราคาถูกได้ขนาดนั้น ผมคิดว่าปัจจัยหลัก ๆ เลยก็คือ เว็บอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่หลายเว็บที่ใช้กันในไทยนั้น มีเจ้าของแท้จริงเป็นบริษัทต่างประเทศซึ่งได้ทำการนำร่องธุรกิจประเภทนี้ในประเทศอื่น ๆ มาก่อนแล้ว ดังนั้นระบบคอมพิวเตอร์หรือเว็บไซต์รวมถึงกระบวนการจัดการสินค้าที่เป็นหัวใจหลักนั้นจึงมีอยู่พร้อม ช่วยลดต้นทุนและเวลาในการสร้างระบบอีคอมเมิร์ซสำหรับเอามาใช้ในไทยไปได้โข งานหลัก ๆ ที่เหลือของทางเว็บ คือ การหาซัพพลายเออร์มาร่วมขายในเว็บให้ได้ หาลูกค้าเข้ามาซื้อของให้ได้ ยิ่งหาได้มากเท่าไหร่เปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งที่ได้จากการขายแต่ละครั้งก็จะทบเข้ามาเป็นกำไรให้ยิ่งคืนทุนได้เร็วเท่านั้น

ในส่วนของซัพพลายเออร์นั้น ข้อดีของการเข้ามาใช้บริการเว็บอีคอมเมิร์ซแทนที่จะเปิดหน้าร้านเองมีหลายอย่างครับ ที่เห็นได้ชัด คือ การประหยัดค่าใช้จ่ายของการมีหน้าร้าน ไม่ว่าจะค่าเช่า ค่าตกแต่ง ค่าทำความสะอาด ค่าน้ำค่าไฟ รวมถึงค่าจ้างพนักงานเฝ้าร้านด้วย ซึ่งในที่นี้รวมถึงค่าโกดังเก็บสินค้าด้วยนะครับ สินค้าบางอย่างที่เห็นขายถูก ๆ นั้น บางทีซัพพลายเออร์ก็ไม่ต้องมีโกดังเอาไว้สต๊อกของเลย ลูกค้าสั่งมาเมื่อไหร่ค่อยสั่งต่อไปที่โรงงานผลิต แล้วนำไปส่งให้ลูกค้าเลย ลดความยุ่งยากในการจัดการสินค้าคงคลังโดยเฉพาะกับสินค้าที่มีวงจรชีวิตสั้นอย่างอาหารหรือของสดได้ด้วย

ไม่เพียงเท่านี้ ซัพพลายเออร์ยังได้ประโยชน์ในเรื่องการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ทางเว็บอีคอมเมิร์ซจะต้องช่วยทำให้ เพื่อให้ต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ร่วมกัน ฝ่ายซัพพลายเออร์ขายของได้ ฝ่ายเว็บก็ได้เปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งไป เหล่านี้ล้วนแต่ช่วยให้ต้นทุนการขายของสินค้าชิ้นหนึ่ง ๆ ลดลงไปได้มากเลยล่ะครับ

ไว้วันพุธหน้า ผมจะชวนคุณผู้อ่านมาวิเคราะห์เพิ่มในประเด็นเว็บอีคอมเมิร์ซเหล่านี้ รวมไปถึงเทียบเคียงกับธุรกิจอย่างอื่น อาทิ ราคาค่าโดยสารระหว่างเครื่องบินโลว์คอสต์แอร์ไลน์กับรถโดยสารปรับอากาศ (รถทัวร์) ไปพร้อม ๆ กับผมนะครับ.

ผศ.ดร.ชุติสันต์ เกิดวิบูลย์เวช
มหาวิทยาลัยรังสิต
chutisant.k@rsu.ac.th

ที่มา เดลินิวส์
วันที่ 7มกราคม 2558