Page 1 of 1

มาชู ปิคชู เมืองสาบสูญแห่งอินคา

Posted: 14 Jan 2015, 14:55
by brid.ladawan
มาชู ปิคชู เมืองสาบสูญแห่งอินคา

เมือง สาบสูญแห่งอินคา (The Lost City of The Inca) ได้เปิดเผยตัวขึ้นอีกครั้ง ในปี ค.ศ. 1911 (พ.ศ. 2454) เมื่อ ฮิแรม บิงแฮม (Hiram Bingham) นักสำรวจชาวอเมริกัน จากโครงการสำรวจประเทศเปรูของ มหาวิทยาลัยเยล ได้ค้นพบเมืองโบราณที่ซุกตัวอยู่ภายใต้ป่าดงดิบบนยอดเขาสูง 2,35o เมตรจากระดับน้ำทะเล (main square) อันถูกรายล้อมไปด้วยหน้าผาสูงชัน ในประเทศเปรู ซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้าง สะกดให้ผู้พบเห็นได้จินตนาการถึงอารยะธรรมที่เคยรุ่งโรจน์ที่แห่งนี้141402

อัน ที่จริงการค้นพบเมืองแห่งนี้ เป็นความบังเอิญ เพราะแท้จริงแล้ว Bingham ได้เข้ามาสำรวจดินแดนแถบนี้ เพื่อค้นหาเมืองVivambamba เมืองซึ่งชาวสเปนได้บันทึกว่า เป็นเมืองที่กษัตริย์แห่งอาณาจักรอินคาใช้ในการหลบซ่อนเมื่อครั้งที่พ่ายแพ้ ให้แก่กองทัพสเปน แต่แล้วการค้นพบ Machu Picchu เมืองที่แม้แต่สปนที่ได้ครอบครองอาณาจักรอินคากว่าสามร้อยปี ยังไม่เคยรับรู้การมีอยู่ของ Machu Picchu ก็ทำให้โลกต้องบันทึกการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ครั้งนี้

141406ห่างไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองกุสโก(Cusco) เมืองมรดกโลกของยูเนสโก อดีตเมืองหลวงของอินคา ซึ่งเป็นทั้งศูนย์กลางการปกครอง การเมืองและการทหาร ประมาณ 70 กิโลเมตร Machu Picchu อยู่ในแถบเซาเธิร์นเซียร์ราส์ ประเทศเปรู ที่พิกัด latitude 13?7′ South และ longitude 72035′ West of the Greenwich Meridian ตั้งอยู่บนที่ราบสูงแอนดีส ระหว่างภูเขา Machu Picchu กับ Huayna Picchu ในเขตของป่าอะเมซอน มีแม่น้ำอารูบัน(Urubamba) อยู่เบื้องล่าง ภูมิประเทศรายล้อมด้วยหน้าผาสูงราว 600 เมตร ด้วยภูมิประเทศที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชัน ทำให้กลายเป็นเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผู้ที่จะรุกรานเมืองแห่งนี้ และด้วยภูมิประเทศที่ยากต่อการเข้าถึงที่ต้องบุกป่าฝ่าดงนี่เอง จึงเป็นข้อสงสัยว่า ชาวอินคาได้ใช้วิธีการใดในการนำหินก้อนใหญ่ๆ ขึ้นไปทำการก่อสร้างเมืองที่อยู่สูงเสียดฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก และเดินทางฝ่าด่านผาสูงชันอันตรายแห่งนี้ได้อย่างไรกัน

คาดกันว่า มาชูปิกชู ก่อสร้างขึ้นในยุคที่อินคารุ่งเรือง ราวปี ค.ศ. 1440-1450 (พ.ศ.1993) โดยจักรพรรดิ์ปาชากูตี(Pachacute) ผู้ก่อตั้งอาณาจักรอินคา ชื่อของ Machu Picchu นั้นความหมายถึงภูเขาโบราณ (old mountain) มีการสันนิษฐานกันถึงช่วงเวลาและเหตุผลในการสร้าง บ้างก็ว่า Machu Picchu ไม่ใช่ชุมชนที่อยู่อาศัยหรือเมือง แต่น่าจะเป็นการก่อสร้างเพื่อพักอาศัยของผู้มีอันจะกินของชาวอินคาในยุคนั้น บ้างก็ว่านี่คือศาสนสถาน หรืออาจเป็นสุสานอันยิ่งใหญ่ของผู้สร้างอาณาจักอินคา สิ่งก่อสร้างต่างๆใน Machu Picchu ทั้ง อาคารที่อยู่อาศัย อุโมงค์ อ่างเก็บน้ำ ระบบชลประทานการปล่อยน้ำตามคลองเล็กๆเพื่อการเกษตร รูปแบบการทำเกษตรหรือการทำนาเกลือที่เก่าแก่แบบขั้นบันได หอคอยสำหรับการเฝ้ามองดูผู้รุกราน การสร้างถนน สิ่งก่อสร้างตามไหล่เขา ที่ไล่ระดับเป็นขั้นๆ ซากกำแพงหินแกรนิตสีขาว ร่องรอยของสถาปัตยกรรมทั้งหลาย นอกจากสิ่งเหล่านี้จะดูสวยงามแล้ว ยังสะท้อนถึงความหลักแหลมทางเทคนิควิทยาการก่อสร้างของชาวอินคาในยุคนั้นได้ อย่างดี

จากการศึกษาของ Bingham ทำให้เชื่อว่าเมืองนี้น่าจะมีผู้อยู่ไม่กี่ร้อยคน และนี่คือพระราชฐาน ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้ประทับพักผ่อนในหน้าร้อนของ Pachacute กษัตริย์พระองค์แรกของอาณาจักรอินคา ความคิดที่ว่า Machu Picchu เป็นพระราชฐานสำหรับพักผ่อนพระอิริยาบถของกษัตริย์อินคาของ Bingham สอดคล้องกับ Richard Burger จากการศึกษาหลักฐานที่ John Howland Rowe ได้พบเอกสารสำคัญเมื่อ 15 ปีก่อน เอกสารนั้นระบุว่ามีการฟ้องร้องของพระบรมวงศานุวงศ์ของกษัตริย์ Pachacute เพื่อขอกรรมสิทธิ์เหนือ Machu Picchu คืนจากรัฐบาลเปรู นอกจากนี้ นักโบราณคดียังมีความเห็นว่า Machu Picchu น่าจะแบ่งเป็น 3 เขต โดยเขตหนึ่งเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ มีวิหารที่สร้างเพื่ออุทิศแด่อินติ สุริยเทพที่ชาวอินคาบูชา เขตนักบวชและผู้สูงศักดิ์ และสุดท้ายเป็นเขตของสามัญชน
20201

นอกจากนี้ในบรรดาโครงกระดูก 175 ชุดที่ขุดได้ ในบริเวณ Machu Picchu นั้น มีถึง 150 ชุดที่เป็นของผู้หญิง ทำให้ Bingham เชื่อว่า เมื่อเกิดการสู้รับกับสเปน ชาวอินคาได้นำตัวเหล่าสตรีมาหลบซ่อน ณ ที่แห่งนี้ เพื่อความปลอดภัย และให้พวกนางได้สวดมนต์ภาวนาต่อเทพเจ้าเพื่อช่วยปกป้องอินคาจากผู้รุกราน แต่เมื่อคำสวดอ้อนวอนมิเป็นผล เหล่าสตรีทั้งหลายจึงได้หลบซ่อนโดยใช้ชีวิตอยู่ ณ เมืองลี้ลับแห่งนี้ต่อไปนานราว 40 ปี จากโลกนี้ไป นอกจากนี้ จากการศึกษาข้อมูลต่างๆ รวมทั้งโครงกระดูก ทำให้ Burger กล่าวว่า ที่นี่เคยมีเหล่าจิตกรและศิลปินหลายคนเข้ามาพักอาศัย และจากโครงสร้างของกะโหลกศีรษะทำให้รู้ว่าบรรดาช่างประจำราชสำนักของอินคามี หลายเผ่าพันธุ์ อีกทั้งพบว่าสัดส่วนของสตรีต่อบุรุษมีในอัตราส่วน 3:2 และในบรรดาสตรีเหล่านั้นหลายคนมีร่องรอยการตั้งครรภ์ และเหตุว่าทำไม เมืองแห่งนี้จึงกลายเป็นเมืองร้างนั้นก็เพราะว่า ด้วยความที่เมืองนี้ตั้งอยู่บนชะงอนเขาสูง จากในรูปจะเห็นได้เลยว่าสูงเสียดฟ้าเพียงใด การเดินทางที่แสนทุรกันดาร งบประมาณการก่อสร้างที่สูง มันจึงไม่ใช่เมืองที่เหมาะแก่การลงหลักปักฐานในระยะยาว
แต่ ก็ด้วยความลี้ลับและแสนทุรกันดารในการเดินทางขึ้นไปยังเมืองในเมฆหมอกนี่เอง ทำให้ Machu Picchu ไม่ถูกผู้รุกรานอย่างสเปนทำล้าย โบราณสถานแห่งนี้ จึงคงความสมบูรณ์ไว้ได้อย่างมาก จะเพียงก็แค่ทรุดโทรมไปตามกาลเวลาบ้างเท่านั้น

141401

การล่มสลายของอินคา
ใน ยุคล่าอาณานิยม ชาวสเปน (Spanish) ได้เดินทางจากปานามาเพื่อสำรวจดินแดนทางใต้ และค้นพบจักรวรรดิอินคาโดยการนำของนายพล ฟรานโก ปิซาโร (Francisco Pizarro) การปิดฉากของอาณาจักรอินคาเกิดขึ้น ในปี ค.ศ. 1532 หลังจากที่ Pizarro ได้มาสำรวจดินแดนแห่งนี้มาแล้ว 2 ครั้ง และด้วยกำลังทหารไม่ถึง 200 คน ดูเหมือนไม่มากมายนักเมื่อเทียบกับเหล่านักรบอินคาราว 6,000 คน แต่ทว่าชาวอินคาในเวลานั้นกำลังอ่อนแอทั้งจากการระบาดของโรคฝีดาษ และจากสงครามแย่งชิงบัลลังก์ระหว่างอวสการ์กับอาตาอวลปาที่เพิ่งจบลง และที่ย่ำแย่ที่สุดคือ อาวุธและยุทธวิธีในการรบที่ล้าหลังเหล่าผู้บุกรุกอย่างมาก นี่เองที่ทำให้กองกำลังจากสเปนเพียงน้อยนิด จึงสามารถมีชัยเหนือชาวอินคาได้โดยง่าย สเปนได้สังหารจักพรรดิ อะตาฮวลปา ผู้ที่กำลังจะเข้าพิธีสถาปนาเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 6 หลังจากนั้น ชาวสเปนได้เข้ามามีอิทธิพลและบงการการเมืองการปกครองของชาวอินคาเรื่อยมา แม้จะมีความพยายามกอบกู้เอกราชจากบรรดาเชื้อพระวงศ์ของกษัตริย์อินคารุ่น ต่อๆมา แต่ไม่ว่าจะลุกขึ้นสู้สักกี่ครั้งก็ไม่สามารถทวงคืนอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของ ตนคืนได้ จนกระทั่งถึงจักรพรรดิองค์สุดท้ายคือโอรสองค์ที่ 3 ของจักรพรรดิแมนโคอินคา ทรงพระนามว่า ทูปาอะมารู ได้ถูกทหารสเปนปลงพระชนม์ หลังจากนั้นสเปนก็ได้ยึดครองอินคาอย่างเบ็ดเสร็จ ท้ายสุดจักรวรรดิอินคา (Inca Empire ) ที่เคยรุ่งเรืองมานานนับพันๆปีก็ล่มสลายไปในปี ค.ศ. 1572

ที่มา : anachatalk.blogspot.com
เรื่องแปลก